กรุงเทพฯ 19 มี.ค.- “บุญส่ง” เป็นประธานประชุม เตรียมความพร้อมเลือกตั้ง กำชับพนักงานสอบสวนฯ จับตา “งบหาเสียง-ประชานิยม-สื่อโซเชียล” เชื่อรัฐธรรมนูญ และกฎหมายใหม่ กกต.ทำงานง่ายขึ้น
ที่โรงแรมบัดดี้ โอเรียนทอล ริเวอร์ไซต์ นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการการได้มาซึ่ง ส.ว. การเลือกตั้ง ส.ส. และการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อเตรียมความพร้อมในการควบคุมการเลือกหรือการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม โดยเป็นการกำหนดแผนปฏิบัติการตามร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. และร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. รวมทั้ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 โดยมีผู้บริหารและพนักงานของกลุ่มภารกิจสืบสวน ไต่สวน และวินิจฉัยร่วมประชุม
นายบุญส่ง กล่าวว่า ร่างกฎหมาย ส.ส. ส.ว. และกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น กำหนดไว้ชัดเจนหลายเรื่อง ซึ่งทำให้ กกต.ทำงานได้ง่ายขึ้น ทั้งคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้งที่เขียนตามข้อเสนอของด้านสืบสวน ว่าไม่ว่าคดีอาญาจะถึงที่สุดหรือไม่แต่ก็ห้ามสมัคร เรื่องที่สามารถเอาคนออกจากสนามเลือกตั้งชั่วคราวได้ เรื่องการห้ามคู่สมรส ลูก หรือญาติ เป็น ส.ว.ในคราวเดียวกัน จากที่แต่เดิมห้ามแค่เป็นคู่สมรสกับ ส.ส. รวมทั้งเรื่องผู้บริหารท้องถิ่นและสภาท้องถิ่น การเพิ่มอำนาจ กกต.เชิงสืบสวน สอบสวน และให้กกต.มีอำนาจไต่สวน
นายบุญส่ง กล่าวว่า ขอฝากให้ดูเรื่องการควบคุมการใช้งบประมาณในการหาเสียงของพรรคการเมืองสามารถควบคุมได้จริงหรือไม่ เพราะการใช้งบประมาณหาเสียงสมัยนี้ไม่ใช่การแจกเงินแล้ว แต่เป็นการใช้งบประมาณแผ่นดินล่วงหน้า การมีกฎหมายควบคุมการใช้จ่ายงบประมาณใช้ได้จริงหรือไม่ ซึ่งการหาเสียงล่วงหน้ามักเกิดขึ้นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จัดทัศนะศึกษา โครงการประชานิยมจะป้องกันอย่างไร ทั้งรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จะต้องไปดูว่าเขียนอย่างไร เขียนป้องกันไว้แค่ไหน จึงอยากให้ด้านสืบสวนสอบสวนช่วยกันคิดอย่างจริงจัง และให้ทุกคนที่เข้าร่วมประชุมช่วยกันระดมความเห็น
นายบุญส่ง กล่าวถึงเรื่องการหาเสียงในโซเชียล ว่า ที่ผ่านมากกต.ได้ตั้งคณะทำงาน เพื่อติดตามเรื่องดังกล่าว ในช่วงของการทำประชามติรัฐธรรมนูญ และได้ให้คณะ ทำงาน เร่งดำเนินการ ประสานกับองค์กรอื่น เช่น ไอซีที สำนักงานอิเล็กทรอนิค เพื่อสังเกตุการณ์รองรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น .-สำนักข่าวไทย