สัมพันธวงศ์ 16 มี.ค.-กทม.เร่งผลักดันโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำ Pipe Jacking ทั่วกรุง 10 จุด คาดแล้วเสร็จ4-5 จุดก่อนเดือนก.ค.นี้ พร้อมรับปริมาณน้ำฝนในปีนี้
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจติดตามการเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำ โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำในพื้นที่ถนนสายหลัก (pipe jacking) บริเวณถนนทรงสวัสดิ์ ถนนเยาวราช และถนนเจริญกรุง เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่เขตชั้นใน ก่อนเข้าสู่ฤดูฝนในปีนี้ โดยก่อสร้างท่อระบายน้ำขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.80 ม. ด้วยวิธีดันท่อ หรือ pipe jacking ความยาวประมาณ 560 เมตร พร้อมก่อสร้างบ่อสูบน้ำบริเวณท่าน้ำทรงสวัสดิ์ เพิ่มกำลังสูบ 4.50 ลบ.ม./วินาที เพื่อระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาต่อไป
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวภายหลังลงพื้นที่ว่า บริเวณนี้เป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก เพราะมีลักษณะเป็นชุมชนเมืองที่มีความหนาแน่น และระบบท่อระบายน้ำในพื้นที่มีขนาดเล็ก ไม่เพียงพอสำหรับรองรับการระบายน้ำช่วงฤดูฝน หากฝนตกมาเพียง 50 มิลลิเมตร ก็ประสบปัญหาน้ำท่วมขังรอการระบายแล้ว ซึ่งการขยายขนาดท่อในพื้นที่ดังกล่าวมีความคืบหน้าไปแล้วร้อยละ 70 คาดแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้ มั่นใจหากฝนตกหนักถึง 100 มิลลิเมตร จะใช้เวลาน้อยกว่า 1 ชั่วโมงในการระบายน้ำออกจากพื้นที่จากเดิมใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าของโครงการนี้ คาดว่าก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูฝน หรือประมาณเดือนกรกฎาคมนี้ จะแล้วเสร็จประมาณ 4-5 จุดในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก เช่น ซอยสุขุมวิท 107 (แบริ่ง-ลาซาล) ถนนสวนพลู เป็นต้น ทั้งนี้ภาพรวมทั้ง 10 จุด จะแล้วเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ และเตรียมประมูลหาผู้รับเหมาเพิ่มอีก 5 จุด เพื่อเร่งระบายปริมาณน้ำช่วงฤดูฝนให้เร็วที่สุด
สำหรับโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำด้วยวิธีดันท่อ หรือ Pipe Jacking ทั้ง 10 โครงการ ได้แก่ ถนนทรงสวัสดิ์ ถนนเยาวราช ถนนเจริญกรุง ถนนสุขุมวิท 21 (อโศกมนตรี) ถนนศรีอยุธยา ถนนพระราม 6 ถนนพหลโยธินบริเวณแยกเกษตรศาสตร์ ซอยสุขุมวิท 31 และซอยสวัสดี ถนนสุขุมวิท 63 (เอกมัย) ซอยสุขุมวิท 4 (นานาใต้) ซอยสุขุมวิท 14 ซอยสุขุมวิท 39 ถนนนราธิวาสนครินทร์ 17 ถนนสวนพลู และซอยสุขุมวิท 107(แบริ่ง-ลาซาล) ถึงคลองบางนา เพื่อเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำ และบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างงานทั้งหมดจะดำเนินการได้เฉพาะในเวลากลางคืน ตั้งแต่เวลา 22.00 – 04.00 น. และจะคืนผิวการจราจรชั่วคราว เพื่อให้สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ในตอนเช้า ลดผลกระทบต่อการจราจรให้น้อยที่สุด .-สำนักข่าวไทย