ทางออกปัญหาทีวีดิจิทัล

กทม. 15 มี.ค.-นักวิชาการด้านทีวีดิจิทัลมองกรณีบริษัทไทยทีวีของเจ๊ติ๋ม ทีวีพูล อาจเป็นเจ๊ติ๋มโมเดลที่ผู้ประกอบการยึดเป็นแนวทางในการฟ้อง กสทช. กลับเกิดวิกฤติขาดทุน พร้อมเสนอให้รัฐและผู้ประกอบการวางแนวทางแก้ไขร่วมกัน เพื่อป้องกันรัฐสูญเสียผลประโยชน์และรายได้จากค่าใบอนุญาตและค่าเช่าโครงข่าย


การตัดสินของศาลปกครองกลางในคดีที่นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือเจ๊ติ๋ม กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท ไทยทีวี จำกัด ฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ออกคำสั่งโดยไม่ชอบ เพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ และให้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยศาลปกครองกลางพิพากษาให้เจ๊ติ๋มชนะ และระบุถึงการทำงานของ กสทช. ที่ไม่เป็นไปตามไว้ในหนังสือชี้ชวน พร้อมให้คืนหนังสือสัญญาการชำระเงินกว่า 1,500 ล้านบาท

นักวิชาการด้านทีวีดิจิทัลให้ข้อมูลว่าคดีนี้เป็นหนึ่งในอีกหลายคดีที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลยื่นฟ้อง กสทช. ในประเด็นลักษณะเดียวกัน หลังการประมูลคลื่นความถี่ทีวีดิจิทัลไม่เป็นไปตามสัญญา เช่น การแจกคูปอง การขยายโครงข่าย จนนำไปสู่วิกฤติการขาดทุนของผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล หากคดีเป็นที่สิ้นสุดอาจทำให้ผู้ประกอบที่ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน ยึดแนวทางการต่อสู้คดีเช่นเดียวกับเจ๊ติ๋ม


นักวิชาการด้านทีวีดิจิทัลยังบอกด้วยว่าการตัดสินของศาลปกครองกลางในกรณีนี้ยังไม่ถือว่าเป็นการปลดล็อกวิกฤติปัญหาทีวีดิจิทัล เพราะคดียังไม่สิ้นสุด แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ กสทช. และผู้ประกอบการจะมีการวางมาตรการและแนวทางเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เพราะหากไม่มีมาตรการที่ชัดเจน นั่นหมายถึงความเสี่ยงของภาครัฐ ถ้าผู้ประกอบการฟ้องร้องในลักษณะเดียวกับเจ๊ติ๋มก็อาจทำให้รัฐเสียผลประโยชน์และรายได้ทั้งจากค่าใบอนุญาตทีวีดิจิทัลและค่าเช่าโครงข่าย  

นอกจากนี้ยังมีการเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ประกอบการของนักวิชาการด้านทีวีดิจิทัลว่ารัฐบาลต้องปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ ไม่มองว่าทีวีดิจิทัลเป็นเพียงแค่เทคโนโลยี แต่ให้มองว่าเป็นถึงอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่สร้างรายได้ พร้อมทั้งต้องช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบภาวะขาดทุน เพราะนี่ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมในประเทศ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว

เจ๊พัชกฤษอนงค์

นำ “เจ๊พัช” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

กองปราบหิ้ว “กฤษอนงค์” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตำรวจค้านประกัน เจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉย

พะยูนตาย

ห่วงสถานการณ์พะยูน พบตายถี่จากแหล่งหญ้าทะเลเสื่อมโทรม

“เฉลิมชัย” ห่วงสถานการณ์ “พะยูน” ซึ่งพบตายบ่อยขึ้น สั่งการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและกรมอุทยานแห่งชาติฯ เฝ้าติดตามปัญหา ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขโดยด่วน