กองทัพบก 15 มี.ค.- ผอ.สวพ.ทบ แจงแจ้งความเอาผิดนักวิจัย หน้ากากป้องกันสารพิษ แฉยื่นใบรับรองมาตรฐานปลอมถึง 4 ครั้ง
พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพบก (ผอ.สวพ.ทบ.) แถลงว่า เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้เข้าแจ้งความตำรวจกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับทีมงาน “โครงการวิจัยและพัฒนาการพัฒนาหน้ากากป้องกันสารพิษทางทหาร เพิ่มศักยภาพของกองทัพและการป้องกันประเทศ” รวม 7 คน หลังพบใช้ใบรับรองมาตรฐานสากลงานวิจัยปลอม ซึ่งโครงการดังกล่างเป็นโครงการตาม เอ็มโอยู ระหว่าง ทบ. โดย สวพ.ทบ. กับ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เพื่อพัฒนาและสนับสนุนนักวิจัยจาก สถาบันการศึกษารวมถึง เป็นการนำผลการวิจัยไปสู่การผลิตแบบพึ่งพาตนเองในประเทศ ประหยัดงบประมาณ
ผอ.สวพ.ทบ. กล่าวว่า ในระหว่างการวิจัย ทางรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณ เพื่อให้นำผลการวิจัยไปสู่การผลิตชิ้นงาน สนับสนุนนโยบายการใช้ยางพาราภายในประเทศ ทบ. จึงได้ดำเนินกรรมวิธี นำผลงานวิจัยเข้าสู่กระบวนการผลิตตามขั้นตอนของทางราชการ โดยมีกระบวนการวิเคราะห์ ประเมินผลโครงการวิจัย ซึ่งเป็นการประเมินผลทั้งทางด้านเอกสารรายงานและผลงานวิจัยที่ได้รับ ตลอดจนการทดสอบโดยคณะกรรมการต่าง ๆ ของกองทัพบก จนถึงขั้นตอนสุดท้าย คือ ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกองทัพบกและได้รับอนุมัติให้นำผลงานวิจัยนั้นไปผลิต ทั้งนี้โครงการวิจัยไม่ว่าจะได้ทุนจากแหล่งทุนใด หากจะนำมาผลิตเพื่อใช้งานในกองทัพบกก็จะต้องดำเนินการตามแนวทางนี้ โครงการหน้ากากป้องกันสารพิษฯ เมื่อได้ปิดโครงการกับ สกอ.แล้ว ก็เข้าสู่การดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าว
“ในระหว่างกระบวนการวิเคราะห์และประเมินผลโครงการ คณะนักวิจัยได้นำส่งเอกสารรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ให้ สวพ.ทบ. พิจารณา และส่งให้คณะกรรมการระดับ ทบ. ทำการประเมินผลงานวิจัย ภายหลังปรากฏว่าใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์หน้ากากแบบเต็มหน้า เป็นเอกสารปลอม กองทัพบกจึงได้ยุติโครงการและได้มอบอำนาจให้ ผอ.สวพ.ทบ. ซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับงานวิจัยของ ทบ. โดยตรง ไปแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวนที่กองปราบปรามไว้ก่อนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป รวมทั้งเป็นการป้องกันผลเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับการนำไปใช้งานทางราชการ หากมีการนำเข้าสู่กระบวนการผลิตในลำดับขั้นต่อไป ที่สำคัญเป็นการยับยั้งมิให้เอกสารที่เป็นเท็จไปสู่กระบวนการบริหารงานราชการ” ผอ.สวพ.ทบ. กล่าว
พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า ฝ่ายนักวิจัยได้อ้างถึงรายงานตอนไปขอปิดโครงการฯ กับ สกอ.ว่า โครงการดังกล่าว เป็นเรื่องหน้ากากชีวอนามัย ไม่เกี่ยวกับหน้ากากด้านทหารเลยนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะเงื่อนไขข้อกำหนดในการวิจัยครั้งนี้ ระบุให้ผู้วิจัยต้องดำเนินงานวิจัยที่มีคุณภาพและมาตรฐานตรงตามความต้องการของ ทบ. เท่านั้น ส่วนกรณีกล่าวหาว่า ทหารแทรกใบรับรองมาตรฐานปลอมเข้ามาในเอกสารงานวิจัยฉบับสมบูรณ์นั้น จากการตรวจสอบพบว่า มีการยื่นใบรับรองมาตรฐาน จำนวน 4 ครั้ง โดย หัวหน้าโครงการวิจัย เป็นการยื่นใบรับรองมาตรฐานปลอมทั้ง 4 ครั้ง ส่วนกรณีที่คณะนักวิจัยได้แจ้งความกลับ ข้อหาแจ้งความเท็จนั้นถือเป็นสิทธิ ที่สามารถทำได้
ส่วนที่มีการวิพาษ์วิจารณ์ว่าเป็นเรื่องเสียผลประโยชน์ เนื่องจากฝ่ายกองทัพต้องการให้มีการจัดซื้อจากต่างประเทศนั้น พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า สวพ.ทบ.ให้การสนับสนุนผลงานวิจัยทุกองค์กร ทุกสถาบัน หากสามารถนำไปสู่การผลิต ซึ่งเป็นไปตามนโยบายลดการนำเข้า พึ่งพาตนเอง
“ไม่มีใครอยากซื้อของนอก แต่เราขอให้ได้มาตรฐาน เพราะหากไม่มีคุณภาพตามที่กำหนด ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย หรือ ชีวิต แก่กำลังพลที่ใช้หน้ากากป้องกันสารพิษดังกล่าว” ผอ.สวพ.ทบ. กล่าว
พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ ระบุด้วยว่า ภายหลังจากทราบว่าใบรับรองมาตรฐานที่ทีมวิจัยได้ยื่นมาเป็นของปลอม ตนจึงได้ดำเนินงานตามขั้นตอนของทางราชการ ก่อนเข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม โดยไม่ได้มีการเรียกทีมวิจัยเข้ามาชี้แจงเพิ่มเติมอีก เนื่องจากที่ผ่านมาทีมวิจัยได้ยืนยัน ในตัวเอกสารมาตลอด.-สำนักข่าวไทย