พส.สั่งย้าย หน.ศูนย์ฯ 16 แห่ง พบมูลความผิดทุจริตเงินคนจน

สะพานขาว 14 มี.ค.-พส.พบทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่งเพิ่มอีก21ศูนย์ สั่งย้าย 16 ศูนย์ ตั้งคกก.สอบวินัยร้ายแรงสัปดาห์หน้า ทราบผลชัดเจน ผอ.ศูนย์ขอนแก่นและเชียงใหม่ ทุจริตหรือไม่สิ้นเดือนมี.ค.นี้ พร้อมเปลี่ยนหลักเกณฑ์การจ่ายเงินลดการจ่ายเงินสด 



นางนภา เศรษฐกร  อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แถลงความคืบหน้าผลการตรวจสอบการทุจริตเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง งบประมาณ ประจำปี พ.ศ.2560 ว่า พส.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงคู่ขนานไปกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ขณะนี้ตรวจสอบไปแล้ว 56 แห่ง ไม่พบการทุจริต จำนวน 4 แห่ง คือศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.สมุทรสงคราม จ.สิงห์บุรี จ.ภูเก็ต และจ.นครศรีธรรมราช และอีก 31 แห่งอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ 


ทั้งนี้พบความผิดจำนวน 21 แห่ง  โดยได้สั่งย้ายระดับหัวหน้าศูนย์ฯจำนวน16 แห่งเข้ามายังส่วนกลางแล้ว  พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงภายในต้นสัปดาห์หน้า อาทิ หัวหน้าศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.บึงกาฬ    จ.สุราษธานี จ.พัทลุงและ จ.ยะลา แต่ยังไม่ฟันธงว่าผิด เนื่องจากต้องสอบข้อเท็จจริงก่อน ว่าช่วงเวลาปี 2560 เป็นผู้บริหารคนใด แต่การสั่งย้ายเพื่อเป็นการเปิดทางในการสอบสวนข้อเท็จจริง 


ส่วนที่เหลืออีก 5 แห่ง พบว่าเกษียณ อาทิ จ.สุราษฎร์ธานี จ.พัทลุง  และลาออกจากราชการ  คือ จ.เชียงใหม่ ซึ่งสามารถเรียกสอบได้เช่นกัน  โดยแจ้งเจ้าตัวรับทราบแล้ว โดยอยู่ระหว่างดำเนินการสอบข้อเท็จจริง 

ทั้งนี้ศูนย์คุ้มครองจ.ขอนแก่น ที่อยู่ระหว่างสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้ ผอ.ศูนย์ได้ขอขยายเวลาในการหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมมาชี้แจง เพื่อหักล้างข้อกล่าวหา ต่อคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ตามระเบียบที่สามารถทำได้ คาดว่าสิ้นเดือนมีนาคมจะมีความชัดเจน เช่นเดียวกับศูนย์คุ้มครองจ.เชียงใหม่  

ทั้งนี้ จะลงไปสอบซ้ำรอบ2 คือจ.พระนครศรีอยุธยาและอ่างทองที่ตรวจครั้งแรกไม่พบมูลความผิด ซึ่งไม่ตรงกับป.ป.ท. เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและเกิดความชัดเจนมากที่สุด

นางนภา  กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ได้สั่งการให้ทำงานคู่ขนานไปกับป.ป.ท.เพื่อให้การดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน จะทำให้การทำงานรวดเร็วและชัดเจน โดยกระทรวง พม.จะทำหนังสือถึงป.ป.ท.ในการขอข้อมูลความคืบหน้าการลงพื้นที่ตรวจสอบว่าพบการทุจริตเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นประโยชน์ในการลงพื้นที่ของพส.ต่อไป   

สำหรับศูนย์จ.นครพนม ที่พบข้อมูลว่า ชาวบ้านได้อัดคลิปวิดีโอส่งป.ป.ท. มีเจ้าหน้าที่แจ้งกับชาวบ้านให้บอกข้อมูลกับป.ป.ท.ว่าได้รับเงินครบทุกบาททุกสตางค์นั้น  ต้องรอการสอบจากป.ป.ท.หากมีความผิดชัดเจน พ.ส.สามารถสั่งย้ายได้ทันทีและตั้งคณะกรรมสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งอยู่ระหว่างประสานข้อมูล 

อย่างไรก็ตาม นับจากนี้ พส.จะกำหนดรูปแบบการจ่ายเงินให้รัดกุมขึ้น   ต้องมีคณะกรรมการจัดสรรเงินลงยังศูนย์ต่างๆ  โดยตั้งรองอธิบดีพส.เป็นหัวหน้าคณะ พร้อมหน่วยงานภายใน ก่อนอนุมัติทุกครั้ง คุมเข้มหลักเกณฑ์ในการพิจารณางบประมาณมากขึ้น และลงพื้นที่ตรวจสอบทุกรายชื่อที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งรายชื่อเพื่อรับเงินสงเคราะห์ ป้องกันการทุจริต และเปลี่ยนหลักเกณฑ์การจ่ายเงิน  ลดการจ่ายเงินสดไปเรื่อยๆ  เปลี่ยนเป็นโอนเงินเข้าบัญชี หรือเช็ค หากกรณีที่ไม่มีบัญชี จะขอความร่วมมือให้ไปเปิดบัญชี หรือ หากจำเป็นต้องจ่ายเงินสด จะไม่ให้ใส่ซอง เช่นที่ผ่านมา  และต้องถ่ายรูปให้เห็นหน้าผู้รับและผู้จ่ายเงิน  เป็นหลักฐาน และพส.จะลงพื้นที้เยี่ยมทุกเคสที่ได้รับเงินช่วยเหลือ  เพื่อปิดช่องโหว่ในการทุจริต 

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลใหม่ว่า นอกจากการทุจริตเงินศุนย์คนไร้ที่พึ่งแล้ว ยังพบการทุจริตการจ่ายเงินอุดหนุนประกอบอาชีพ ในนิคมสร้างตนเอง อีก3 แห่ง คือ นิคมสร้างตนเองควนขนุน จ.พัทลุง นิคมสร้างตนเองเทพา จ.สงขลา  นิคมทานโต จ.ยะลา เป็นงบในการช่วยเหลือ การรวมกลุ่มกันเพื่อประกอบอาชีพ  รวมถึง พบการทุจริตในศูนย์พัฒนาราษฎรในพื้นที่สูงจ.เชียงใหม่ด้วย  โดยได้ย้ายระดับหัวหน้าศูนย์เข้ามายังส่วนกลางแล้วเพื่อตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงคู่ไปกับการทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่งแล้วเช่นกัน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดเส้นทางงดให้ชาวบ้านขึ้น “ช่องบก” หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 29 พ.ค. – บรรยากาศภายในจุดเฝ้าระวัง ภจ12 (ฐานมรกต) อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ในหมู่บ้านโนนสูง หมู่ 3 ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นทางขึ้นสู่ช่องบก ยังคงตึงเครียดต่อเนื่อง หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.68) เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปิดเส้นทางไม่ให้ชาวบ้านขึ้นไปยังพื้นที่ด้านบน พร้อมมีการตรึงกำลังทหารเพื่อดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกัน มีรถพยาบาลทยอยขึ้นไปยังพื้นที่เกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้มีการบันทึกภาพบริเวณที่ตั้งกำลังของทหารไทย นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งจุดอำนวยการฉุกเฉิน โดยขนย้ายเต็นท์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นไปเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ชาวบ้านในพื้นที่แสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายสิทธิ์ อายุ 73 ปี กล่าวว่า ปกติจะขึ้นป่าเป็นประจำ แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่ห้ามเข้าพื้นที่ ทำให้ขาดรายได้ ขณะที่นางพวย อายุ 61 ปี เล่าว่า นี่เป็นครั้งที่ 3 ที่พบเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีกระสุนตกลงมาในหมู่บ้าน แม้รู้สึกกลัว แต่ก็พอทำใจได้ เพราะเคยผ่านเหตุการณ์คล้ายกันมาแล้ว ในช่วงบ่ายวันนี้ นายอำเภอน้ำยืนเตรียมเรียกประชุมหน่วยงานราชการในพื้นที่ เพื่อวางแนวทางรับมือและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่เวลา […]

นายกฯ ยันศาลเบรกภาษี “ทรัมป์” ไม่กระทบแผนเจรจาไทย

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – นายกฯ ยันศาลการค้ารัฐบาลกลางเบรกภาษี “ทรัมป์” ไม่ส่งผลกระทบแผนเจรจาไทย ทีมงานยังเดินหน้าต่อ จนถึงวันนี้ยังไม่ได้วันนัดชัดเจน รู้สึกสบายใจหลายประเทศอาเซียนก็อยู่ระดับเดียวกับไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำวินิจฉัยว่า ทรัมป์ ไม่สามารถใช้อำนาจฉุกเฉินในการกำหนดภาษีศุลกากรทั่วโลกได้ เรื่องนี้จะส่งผลกับประเทศไทยที่กำลังรอเจรจาเรื่องภาษีสหรัฐอเมริกาอยู่หรือไม่ ว่า ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการไปตกลงจะมีผลอย่างไร ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจแต่เราก็ต้องทำต่อ เตรียมความพร้อมต่อไป จะหยุดชะงักเลยก็คงไม่ได้และไม่แน่ใจว่ารับฟังหรือยัง เพราะระหว่างที่ไปประชุมที่มาเลเซียได้มีโอกาสได้คุยกับทุกประเทศ ได้คุยกันเรื่องของภาษีสหรัฐอเมริกา ทุกคนพูดเหมือนกันว่าหลายประเทศอยู่ในระดับเดียวกับประเทศไทย คือส่งรายงานเข้าไปและรอวันที่จะตอบกลับมาว่าจะได้ไปคุยวันไหน ยืนยันว่าเราไม่ได้ช้าและอยู่ในขั้นตอนของการรอวันที่จะไปคุยเช่นกันตามกรอบ 90 วัน จึงขอให้สบายใจได้ และจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้วันชัดเจนว่าจะได้คุยวันไหนต้องรอให้ทางสหรัฐอเมริกานัดมา แต่ในทีมทำงานไม่เป็นทางการยังติดต่อกันได้ ยังได้คุยและอัพเดทสถานการณ์กันอยู่ และก็เป็นสัญญาณบวก และย้ำอีกครั้งว่า ตนเองไม่ได้ถูกแบนวีซ่าสหรัฐอเมริกาขอให้สบายใจได้. -420-สำนักข่าวไทย

หุ้นบวก-บาทอ่อน-ทองลง รับข่าวศาลระงับมาตรการภาษีตอบโต้ของ “ทรัมป์”

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – หุ้นไทยบวก-บาทอ่อนค่า-ทองลง รับข่าวที่ศาลฯ ระงับมาตรการภาษีตอบโต้ของ “ทรัมป์” ขณะ บล.กรุงศรี คาด SET จะกลับเหนือ 1,200-1,210 จุด ใน 1-3 วัน เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 32.84-32.86 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (เวลา 09.56 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุเงินบาทอ่อนค่าลงสอดคล้องกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ เงินเยน และเงินฟรังก์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น รับข่าวที่ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ในนิวยอร์กระงับการใช้มาตรการภาษีศุลกากรของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต ในการเก็บภาษีแบบครอบคลุมจากประเทศที่ส่งออกสินค้ามายังสหรัฐฯ มากกว่าที่นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ด้านทำเนียบขาวได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว และอาจยื่นเรื่องต่อไปจนถึงศาลสูงหากจำเป็น แต่ในระหว่างนี้ ตลาดมองว่าเป็นสัญญาณบวกว่าทรัมป์อาจยอมถอยจากการกำหนดภาษีในระดับสูงสุดที่เคยขู่ไว้ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก และสัญญาณสะท้อนสถานะ outflows ของนักลงทุนต่างชาติออกจากตลาดพันธบัตรไทยในวันนี้ด้วยเช่นกัน สมาคมค้าทองคำ […]

“วันนอร์” ชมการอภิปรายงบฯ 69 วันแรก ไม่น่าเบื่อ ประเด็นไม่ซ้ำ

รัฐสภา 29 พ.ค.-“วันนอร์” ชมการอภิปรายงบฯ 69 วันแรก ทุกคนเตรียมตัวมาดี ข้อมูลเป็นประโยชน์ ไม่น่าเบื่อ ประเด็นไม่ซ้ำ ระบุแม้ สส. – รมต. – นายกฯ ไม่อยู่ห้องประชุม แต่รับฟังจากทีวี – วิทยุ ด้านนอกได้ บอก “กุสุมาลวตี” ยื่นสอบจริยธรรม “อนุทิน” ทำได้ โยนฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงภาพรวมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วันแรก ว่า ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีได้เสนอรายละเอียดในทุกแง่มุม ซึ่งสภา และประชาชนที่ได้รับฟัง น่าจะเข้าใจว่ารัฐบาลมีความตั้งใจในการใช้งบประมาณในปีนี้ ส่วนผู้นำฝ่ายค้าน ก็อยากให้รัฐบาล และผู้ใช้งบประมาณปรับปรุงแนวทางในการทำงาน เพื่อให้งบประมาณเกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด ซึ่งทุกคนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน อภิปรายอย่างมีคุณค่าสำหรับประชาชน และผู้ที่จะใช้งบประมาณทุกภาคส่วน ก็จะนำข้อคิดเห็นนี้ไปดูแลงบประมาณ โดยหลังจากวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 จะมีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญ 72 คน […]