นักวิชาการทีดีอาร์ไอแนะไทยพัฒนาสู่โมเดลสีเขียว


กรุงเทพฯ 13 มี.ค.-นักวิชาการทีดีอาร์ไอ แนะไทยพัฒนาประเทศสู่โมเดลการพัฒนาสีเขียว
เพื่อความยั่งยืน   โดยรัฐควรใช้นโยบายการเงินและการคลังที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในขณะที่ผู้ประกอบการและผู้บริโภค ก็ควรจส่งเสริมสินค้าลดมลพิษ


 นางกรรณิการ์ ธรรมพานิชวงค์ นักวิชาการ
ด้านการวิจัยทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทีดีอาร์ไอ
 ให้ข้อมูลน่าสนใจว่า โมเดลการพัฒนาประเทศที่ผ่านมาเน้นหลักการเติบโตก่อน  เก็บกวาดทีหลัง  ด้วยการมุ่งเน้นการผลิตสินค้าจำนวนมากเพื่อส่งออก  โดยไม่ได้สนใจเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
แล้วพอเกิดปัญหามลพิษหรือปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมตามมา
ก็ไม่ได้มีการเตรียมการรับมืออย่างจริงจัง เป็นกับดักการพัฒนาสีเทา
ที่เต็มไปด้วยปัญหา ข้อจำกัด และราคาที่ต้องจ่าย

“ที่ผ่านมา
เศรษฐกิจไทยเติบโตและขับเคลื่อนโดยการใช้พลังงานอย่างเข้มข้น
ประเทศไทยมีการใช้พลังงานในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีอัตราการเติบโตสูงกว่าการเติบโตของภาคเศรษฐกิจเสียอีก
โดยพลังงานส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ในภาคขนส่ง และภาคอุตสาหกรรมสูงที่สุด
     นอกจากนี้
เรากำลังเผชิญกับสถานการณ์ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลายลงมากในช่วงการพัฒนาที่ผ่านมา
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาพื้นที่ป่าไม้ที่ลดลง มลพิษทางน้ำ
  ปัญหาขยะที่ไม่ได้รับการจัดการที่ถูกต้อง
ปัญหาการลักลอบทิ้งกากของเสีย
  และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สูงขึ้น”นางกรรณิการ์กล่าว

นางกรรณิการณ์
 ระบุว่าประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องออกจากกับดักการพัฒนาสีเทาเพื่อมุ่งไปสู่โมเดลการพัฒนาสีเขียว
เพื่อการพัฒนาประเทศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีคุณภาพ และยั่งยืน
  โดยกรอบแนวคิดภายใต้โมเดลการพัฒนาสีเขียว
มีที่มาจาก
 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals :SDGs) ซึ่งเป็นเป้าหมายการพัฒนาของสหประชาชาติ(UN)
ที่ไทยเป็นสมาชิกและลงนามให้คำมั่นว่าจะร่วมกันบรรลุ
 SDGs ในปี 2030
หลักการสำคัญของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนคือ
  การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางธรรมชาติทั้ง น้ำ
ทรัพยากรทางทะเล ฯลฯ ควบคู่ไปกับการขจัดปัญหาความยากจนและความหิวโหย
โดยมีการดำเนินการเชื่อมโยงหลายมิติเข้าด้วยกัน ทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ
  สังคม และสิ่งแวดล้อม  และมีการกำหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจนสำหรับทั้ง 17
เป้าหมาย
  ถ้าประเทศไทยสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบในการพัฒนาให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนได้
จะสามารถยกระดับมาตรฐานการดูแลสิ่งแวดล้อมของไทยให้ไปสู่มาตรฐานของโลก
  และสามารถเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในเวทีการค้าโลกได้


นักวิชาการ
ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า โมเดลพัฒนาสีเทามักบอกกับเราว่า การเติบโตของธุรกิจ
จำเป็นต้องแลกกับการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
  แต่ความจริงในโลกยุคใหม่
ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า
  เศรษฐกิจสามารถเติบโตไปพร้อมกับการรักษาสิ่งแวดล้อมได้  องค์กรธุรกิจที่มีส่วนร่วมในเป้าหมาย SDGs จะสามารถสร้างกำไรระยะยาวแก่ธุรกิจได้
อีกทั้งช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นองค์กรธุรกิจที่ยั่งยืนและสอดรับกับกระแส
การค้าสีเขียวในเวทีการค้าโลก
โดยหัวใจสำคัญของการค้าสีเขียวคือการกำหนดกติกาและบทลงโทษสำหรับประเทศที่ผลิตสินค้าโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  อาทิ
กฎระเบียบว่าด้วยการกำจัดเศษซากของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
 (Waste Electrical and
Electronic Equipment Directive: WEEE)  
ฉลากพลังงาน ฉลากเขียว (Eco-Label) เป็นต้น  

เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
นักวิชาการ ทีดีอาร์ไอยกตัวอย่าง
 การกำจัดเศษซากของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์  หลายประเทศในสหภาพยุโรป ได้ออกกฎระเบียบ WEEE เพื่อป้องกันไม่ให้เศษวัสดุจากเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ที่หมดอายุการใช้งานแล้วกลายเป็นขยะ
ซึ่งทำลายสิ่งแวดล้อมและเพิ่มภาระในการจัดการ
  ประเทศเหล่านี้จึงส่งเสริมการนำผลิตภัณฑ์เหล่านี้กลับมาใช้ใหม่  

อย่างไรก็ดี การพัฒนาสีเขียวจะเกิดขึ้นได้จริงถ้าหากได้รับความร่วมมือจากผู้บริโภค
ภาครัฐ และผู้ประกอบการภาคเอกชนโดยผู้บริโภคต้องปรับพฤติกรรมหันมาใช้สินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือสินค้าสีเขียวมากขึ้น
เช่น สินค้าที่ติดฉลากสีเขียว หรือ ฉลากประหยัดไฟเบอร์5 เป็นต้น  สำหรับภาครัฐ
ควรส่งเสริมนโยบายการเงินและการคลังที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ
การยกเว้นภาษีให้กับผู้ประกอบการที่ลงทุนในเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การให้สินเชื่อสีเขียวเพื่อเป็นทุนให้กับผู้ประกอบการในการปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตหรือรูปแบบการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
รวมถึงต้องบังคับใช้กฎหมายในการดูแลสิ่งแวดล้อมและเป็นไปตามมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด
  

บทบาทของประกอบการคือการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โดยนำเทคโนโลยีสะอาดมาใช้ ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงาน น้ำและทรัพยากรธรรมชาติในกระบวนการผลิต
อีกทั้งช่วยลดการปล่อยของเสียในกระบวนการผลิตต่าง ๆ
ถึงแม้ว่าในระยะสั้นผู้ประกอบการอาจต้องแบกรับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น
แต่ในระยะยาวจะส่งผลให้ผลประกอบการดีขึ้น
เพราะเราใช้ทรัพยากรได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลงและไม่ต้องแบกรับภาระในการจัดการขยะหรือเศษวัสดุจากกระบวนการผลิต

“การออกจากกับดักการพัฒนาสีเทาสู่โมเดลการพัฒนาสีเขียวเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องลงมือทำ
แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เป็นไปได้จริง เมื่อทุกภาคส่วนตระหนักและปรับตัว เพราะท้ายที่สุดแล้วทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์
และประเทศจะพัฒนาไปได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน”นักวิชาการ ทีดีอาร์ไอ
สำนักข่าวไทย

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ