สำนักข่าวไทย 8 มี.ค.- อธิบดี พส.ยอมรับหนักใจ ขยายผลพบทุจริตเงินช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่งเพิ่มหลายจังหวัด ทยอยตั้งกรรมการสอบวินัยนำคนผิดมาลงโทษ ด้าน รมว.พม.ยันไม่สนใจอดีต ส.ส.ร้องนายกฯ
นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่ง ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ว่า หลังจากได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยผู้อำนวยการและหัวหน้าจัดสวัสดิการสังคม ศูนย์ฯจังหวัดขอนแก่นไปแล้ว และอยู่ระหว่างให้ผู้ถูกกล่าวยื่นข้อมูลมาหักล้างในเวลา 15 วัน ขณะนี้ทางผู้ถูกกล่าวหาได้ขอขยายเวลายื่นเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งตามระเบียบสามารถทำได้ โดยจะครบเวลาตามกำหนดในระเบียบในวันที่ 21 มีนาคมนี้ หลังจากนั้นคณะกรรมการสอบวินัยจะรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมด เพื่อพิจารณาตัดสินว่าจะมีโทษระดับใด ซึ่งจะรู้ผลภายในวันที่ 26-27 มีนาคมนี้
นางนภา กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันเมื่อเร็วๆนี้ ตนได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัย ผอ.ศูนย์ฯเชียงใหม่ไปแล้วหลังจากมีการชี้มูลความผิด ซึ่งตามกระบวนการได้ให้เวลาผู้ถูกกล่าวหายื่นข้อมูลมาหักล้างภายใน 15 วันเช่นกัน นอกจากนี้ จากการตรวจสอบของพส.ที่ผ่านมาพบอีก 2 จังหวัดคือ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี และพัทลุง ซึ่งมีลักษณะความผิดคล้ายๆกับศูนย์ฯขอนแก่นและเกิดขึ้นในปีงบประมาณ 2560 แต่พบว่าผอ.ศูนย์ฯ 2 แห่งที่รับผิดชอบในช่วงเวลาดังกล่าวได้เกษียณอายุราชการไปเมื่อเดือนตุลาคม 2560 แต่ตามระเบียบราชการ หน่วยงานต้นสังกัดยังสามารถตั้งคณะกรรมการสอบวินัยได้ภายใน 180 วันหลังเกษียณฯ ฉะนั้นหลังจากที่พบว่าทั้ง 2 จังหวัดดังกล่าวมีมูลความผิด ตนจึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยไปแล้วเมื่อเร็วๆนี้แล้วเช่นกัน
แต่เมื่อ ถามว่ารู้สึกหนักใจหรือไม่ที่ ป.ป.ท.ได้ตรวจพบการทุจริตขยายผลไปหลายจังหวัด นางนภากล่าวว่า รู้สึกหนักใจเหมือนกัน แต่จะดำเนินการแก้ปัญหาให้ดีที่สุด นำคนผิดมาลงโทษ ขณะเดียวกันก็วางมาตรการให้ชัดเจน รัดกุมเพื่อดำเนินการต่อไป
ขณะที่ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยถึงข้อเรียกร้อง นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้เพิ่มตัวแทนภาคประชาชนเข้าไปร่วมในคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งมี พ.ต.ท.เธียรรัตน์ วิเชียรสรรค์ ผู้ตรวจราชการ สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อให้การสอบสวนมีความน่าเชื่อถือ ว่า ต้องดูระเบียบราชการว่าสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งก่อนตั้งคณะกรรมการดังกล่าวตนก็ได้ศึกษาอย่างรอบคอบแล้ว ส่วนที่มากดดันให้ตั้งกรรมการดังกล่าวตามข้อเสนอภายใน 7 วัน ไม่งั้นจะไปยื่นหนังสือกับนายกรัฐมนตรี ก็เชิญเลย.-สำนักข่าวไทย