ศูนย์ข้อมูลฯ คาดอสังหาริมทรัพย์ปี 61 โตร้อยละ 7.9

ธอส.สำนักงานใหญ่ 8 มี.ค. – ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์คาดอสังหาฯ ปี 61 เติบโตร้อยละ 7.9 คาดบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ  โครงการเปิดใหม่ 100,000 ยูนิต กว่า 600,000 ล้านบาท ยอมรับเฟดขึ้นดอกเบี้ยมีผลตัดสินใจซื้อบ้านครึ่งปีหลัง  


นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยปี 2561 ว่า ภาพรวมคาดว่าขยายตัวด้านหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยร้อยละ 7.9 และขยายตัวด้านมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ร้อยละ 10.8  ด้านยอดปล่อยใหม่สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวร้อยละ  2.8 นับว่าทิศทางการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินยังดีต่อเนื่อง  

ขณะที่การขยายตัวที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนร้อยละ 10.9 เมื่อแยกเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล คาดการณ์ว่าขยายตัวด้านหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยร้อยละ 8.9 สูงกว่าภาพรวมทั้งประเทศ  มีอัตราการขยายตัวด้านมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ร้อยละ 13.9 และมีอัตราการขยายตัวด้านยอดปล่อยใหม่สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อที่อยู่อาศัยร้อยละ  2.8 และมีอัตราการขยายตัวที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนร้อยละ 15.3 โดยอาคารชุดยังเป็นตัวนำตลาด เพราะประชาชนยังต้องการสูง นับว่าภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง  ตลาดที่อยู่อาศัยยังคงอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล นับว่าการเป็นเติบโตของอาคารชุดเป็นหลัก  โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมราคาแพงในตลาดบน ซึ่งเป็นการเพิ่มลักษณะมูลค่ามากกว่าการเพิ่มจำนวนยูนิต 


ส่วนภูมิภาค คาดการณ์ว่าขยายตัวด้านหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยร้อยละ 6.8 มีอัตราการขยายตัวด้านมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ร้อยละ  5.5 และมีอัตราการขยายตัวด้านยอดปล่อยใหม่สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อที่อยู่อาศัยร้อยละ  2.8 และมีอัตราการขยายตัวที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนร้อยละ 4.3 ขณะที่ในภูมิภาคเป็นการเติบโตในตลาดทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวเป็นหลัก  คาดการณ์ว่าปี 2561 ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลจะมีหน่วยโครงการเปิดขายใหม่ประมาณ 117,100 หน่วย ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 2.8  มีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 107,800-128,800 หน่วย สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยในภูมิภาคมีหน่วยที่อยู่อาศัยเสนอขายรวม 111,300 หน่วย แบ่งเป็น โครงการบ้านจัดสรร 79,900 หน่วย และโครงการอาคารชุด 31,400 หน่วย โดยมีมูลค่าการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ  29 บริษัทมีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 611,800 ล้านบาท น้ำหนักการลงทุนยังเป็นผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นหลัก โดยอาคารชุดยังเกาะอยู่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้ากรุงเทพฯ ชั้นใน ขณะที่ 5 จังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพฯ เริ่มคอนโดมิเนียมเติบโตสูง คือ นนทบุรีและสมุทรปราการ บริษัทเอกชนเริ่มหันกลับมาลงทุนในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงมากกว่าการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาค  สำหรับยอดเหลือขายร้อยละ 30 นับว่ามีการเป็นระดับปกติของตลาด นับว่าไม่เหลือมากเกินไปสามารถขายออกไปได้ 

หลังจากภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยปี 2560 เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีแนวโน้มที่ดีกว่าตลาดที่อยู่อาศัยในภูมิภาค คาดการณ์ว่าสถานการณ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศในปี 2561 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จะมีการขยายตัวร้อยละ 10.7 ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดภูมิภาค ขยายตัวร้อยละ 4.2  เมื่อพิจารณาประเภทโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ พบว่าปี 2560 มีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล รวม 385 โครงการ จำนวน 113,926 หน่วย มูลค่ารวม 491,878 ล้านบาท จำนวนโครงการลดลงจากปี 2559 ร้อยละ 18.6 จำนวนหน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 ขณะที่มูลค่าโครงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.9  เมื่อแยกตามประเภทบ้านและระดับราคา พบว่า โครงการบ้านจัดสรรเปิดตัวใหม่ปี 2560 เป็นประเภททาวน์เฮ้าส์มากที่สุด ร้อยละ 67 ของจำนวนหน่วยที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด และส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท ขณะที่โครงการอาคารชุดเปิดตัวใหม่เป็นประเภท 1 ห้องนอนมากที่สุดร้อยละ 74.8 ของหน่วยที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมด และส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท โดยทำเลที่มีหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุด 5 อันดับแรก ประเภทบ้านจัดสรร ได้แก่ 1.สมุทรปราการ 2.ลำลูกกา – คลองหลวง – ธัญบุรี – หนองเสือ 3.บางกรวย – บางใหญ่ – บางบัวทอง – ไทรน้อย 4.มีนบุรี – หนอกจอก – คลองสามวา – ลาดกระบัง และ 5.เมืองนนทบุรี – ปากเกร็ด

นายวิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของตลาด แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีท่าทีขยับเพิ่มดอกเบี้ยสูงขึ้น ในส่วนของไทยมองว่าครึ่งปีแรกยังมีอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม เพราะเศรษฐกิจไทยยังค่อย ๆ ฟื้นตัว จึงต้องใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่หากสหรัฐปรับเพิ่มดอกเบี้ยหลายครั้งสูงขึ้นมากอาจกดดันให้ไทยปรับเพิ่มตามไปด้วยอาจกระทบต่อการตัดสินใจกู้ซื้อบ้านครึ่งปีหลัง แต่คาดว่าไม่กระทบต่อภาระการผ่อนชำระของประชาชนมากเกินไป เพราะคงใช้แผนรีไฟแนนซ์เข้ามาปรับพอร์ตสินเชื่อ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก