โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน 6 มี.ค. – ครม.อนุมัติงบกว่า 5 พันล้านบาท แก้ปัญหาการเงินหลักประกันสุขภาพ นายกฯ ยันไม่ล้มเลิกโครงการ แจงใช้งบประมาณมากขึ้นทุกปี คาดปี 2563 จะใช้งบมากกว่า 2 แสนล้านบาท ฝากช่วยกันศึกษา เพราะหลายประเทศเจ๊งไปแล้ว และเปลี่ยนเป็นสนับสนุนเฉพาะบางกลุ่ม บางโรค
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2561 เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายในการจัดบริการสาธารณสุขปีงบประมาณ 2561 จำนวน 2 รายการ วงเงินรวม 5,186.13 ล้านบาท ได้แก่ ค่าใช้จ่ายบริการสำหรับผู้ป่วยในภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จำนวน 4,186.13 ล้านบาท และค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุข 1,000 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของบุคลากร และช่วยเหลือหน่วยงานบริการที่ประสบปัญหาทางการเงิน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้ขอความร่วมมือสื่อมวลชน ให้ช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชน เพราะคนไทยชื่นชมหลักการของประกันสุขภาพ แต่ลืมคิดไปว่างบประมาณที่ใช้เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ในปี 2560 จำนวนกว่า 1.6 แสนล้านบาท ปี 2561 เพิ่มขึ้นเป็น 1.7แสนล้านบาท คาดว่าในปี 2562 จะเพิ่มขึ้นไปถึง 1.9 แสนล้านบาท คำนวณตามอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุ คาดว่างบประมาณจะมากกว่า 2 แสนล้านบาท ในปี 2563
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ในหลายประเทศที่มีการเพิ่มงบประมาณในเรื่องหลักประกันสุขภาพอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ตอนนี้เจ๊งไปแล้ว หลายประเทศจึงเปลี่ยนเป็นสนับสนุนเฉพาะบางกลุ่ม บางโรค นายกฯ จึงฝากเป็นข้อมูลให้ทุกคนช่วยกันศึกษา เพราะรายได้ของรัฐไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย อัตราภาษีที่เคยเก็บได้ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากเดิม แล้วอย่างนี้จะมีงบประมาณไปทำอย่างอื่นได้หรือไม่ ขอให้ทุกคนไปคิดวิธีแบ่งเบาภาระของชาติ ถ้าคิดว่าทุกอย่างต้องได้อย่างสมบูรณ์แบบ เหมือนที่ประเทศอื่นเขาทำ ต้องดูว่าเขาเก็บภาษีเท่าไรกัน แต่ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีนโยบายที่จะขึ้นภาษี และไม่ยกเลิกระบบหลักประกันสุขภาพ.-สำนักข่าวไทย