กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- ตำรวจเร่งขยายผลออกหมายจับพยานให้การเท็จลอตเตอรี่รางวัล 30 ล้านบาท ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ผู้บังคับการกองปราบปฏิเสธไม่ทราบจำนวนผู้ที่จะถูกออกหมายจับ
พลตำรวจโทฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง กล่าวถึงกรณีการขยายผลออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ระหว่างนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา และร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล ว่า คณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบคำให้การพยานแต่ละราย เพื่อพิจารณาว่าพยานรายใดให้การอย่างไร เพราะเหตุใดให้การเป็นเท็จ ซึ่งจะเร่งทำให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้
โดยผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ ได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุมี 3 คน มีการดำเนินคดี 2 คน คือครูปรีชา และนางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ส่วนกลุ่มที่กำลังพิจารณาออกหมายจับคือกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับสถานที่เกิดเหตุ และกลุ่มกองเชียร์ เช่น คนที่อ้างว่าจะขอแบ่งซื้อลอตเตอรี่ / คนที่อ้างว่าเห็นเลขในกระเป๋าครูปรีชา รวมถึงคนที่ออกมาเคลื่อนไหวให้สัมภาษณ์ไปในทิศทางต่างๆ จนทำให้สังคมเกิดความสับสน ซึ่งจะต้องคัดแยกว่าใครบ้างเข้าข่ายให้การเท็จ หรือเข้าข่ายผิดกฎหมายอื่นอีก
ส่วนการพิจารณาจะยึดตามคำให้การของพยานเดิม ประกอบกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งจากข้อมูลคำให้การพยานที่มีอยู่ ส่วนใหญ่ให้การว่าเป็นเรื่องที่จดจำได้ ไม่มีหลักฐานใดรองรับคำให้การ
สำหรับการดำเนินคดีกับตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ จะให้พนักงานสอบสวนเข้าร้องทุกข์กับ ปปป. อีกครั้ง หลังส่งสำนวนคดีนี้ให้อัยการแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดการปนกันของสำนวนคดี จากนั้นต้องให้ ป.ป.ช. เป็นผู้พิจารณาต่อไปตามกระบวนการ
ด้านพลตำรวจตรีไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า เรื่องการออกหมายจับผู้ต้องหาที่เหลือ ได้มอบหมายให้ พันตำรวจเอกชาคริต สวัสดี และพันตำรวจเอกสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บังคับการกองปราบปราม เป็นผู้เข้าร่วมประชุมเพื่อหารือในเรื่องนี้ ซึ่งตนยังไม่ได้รับรายงานว่าจะมีการไปขอออกหมายจับใครบ้าง ส่วนการออกหมายจับผู้ต้องหาที่เหลือ คงเป็นหน้าที่ของคณะพนักงานสอบสวนที่ต้องเป็นผู้ไปขอออกหมายจับ คิดว่าไม่ต้องถึงมือตนเอง.-สำนักข่าวไทย