หนุ่มเมาทุบตาวัย 84 ดับ แค่เดินตัดหน้ารถ



นครพนม 4 ต.ค.- หนุ่มเมาคลั่ง ใช้ไม้ทุบตาวัย 84 ปี ดับ นำศพทิ้งน้ำ เหตุแค่เดินตัดหน้ารถ ตร.ตามแกะรอยจับทันควัน


5-10-2559 0-01-40 5-10-2559 0-02-13

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (4 ต.ค.) ร.ต.อ.ทนงศักดิ์ อุประจันทร์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม รับแจ้งเหตุพบศพคนจมน้ำตายที่บริเวณสะพานห้วยเซกาใหญ่ ริมถนนทางเข้าหมู่บ้าน พื้นที่ บ.เหล่าประดา หมู่ 5 ต.นาใน อ.โพนสวรรค์ รอยต่อกับ บ.หนองปลาดุก ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลอำเภอโพนสวรรค์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพผู้ตายเป็นชาย อยู่ในสภาพนอนคว่ำหน้า จมน้ำอยู่ในริมตลิ่ง แต่ระดับน้ำไม่ลึก สามารถมองเห็นร่างผู้เสียชีวิต สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีน้ำเงิน ตรวจสอบตามร่างกายพบร่องรอยการทำร้ายทุบตีด้วยของแข็ง บริเวณศีรษะหลายจุด ยังมีคราบเลือดอาบตามร่างกาย คาดว่าจะเสียชีวิตมาไม่เกิน 24 ชั่วโมง ทราบชื่อภายหลังคือ นายทองคำ ศรีคำ อายุ 84 ปี ชาวบ้าน บ.หนองดู่ ต.นาใน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบ รวบรวมเก็บหลักฐาน เพื่อประกอบการดำเนินคดี ติดตามคนร้าย เนื่องจากเชื่อว่าสาเหตุมาจากถูกทำร้ายร่างกาย

จนกระทั่งภายหลัง ตำรวจได้เร่งสืบสวนแกะรอย จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ คือ นายวีรศักดิ์ ขันธวิชัย หรืออุ้ม อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 46 หมู่ 21 บ้านหนองปลาดุก ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม พร้อมรถที่ใช้ก่อเหตุ เป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน บฉ 7053 นครพนม ซึ่งยังพบมีคราบเลือดติดภายในกระบะรถ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน สารภาพว่าได้ลงมือเหตุจริง เนื่องจากช่วงก่อนเกิดเหตุประมาณ เวลา 07.00 น. ได้ดื่มเหล้ากับเพื่อนในหมู่บ้าน เนื่องจากเป็นคนที่ติดเหล้า ชอบดื่มเหล้าเมาอาละวาดเป็นประจำ ไม่มีครอบครัว ทำงานรับจ้างทั่วไป แต่เหล้าหมด จึงไปขอเงินมาซื้อเหล้าดื่มกับเพื่อน แต่ยายไม่ให้ ทำให้เกิดโมโหขาดสติ ก่อนขับรถมาจากหมู่บ้าน เพื่อออกไปหาเพื่อน ถึงที่เกิดเหตุพบผู้ตายเดินตัดหน้ารถกะทันหัน จึงเบรกด้วยความโมโห และตะโกนถามว่า อยากมีเรื่องมั้ย แต่ผู้ตายไม่โต้ตอบ เพราะเป็นคนชรา ยิ่งทำให้โมโหจัด และจอดรถคว้าไม้ ยาวประมาณ 1 เมตร ทุบศีรษะ จนผู้ตายล้มฟุบ หมดสติ ก่อนพยายามอุ้มร่างผู้ตายขึ้นรถ โดยไม่สนใจสายตาของชาวบ้าน ก่อนนำศพไปทิ้งบริเวณห้วยสะพานทางเข้าหมู่บ้าน จากนั้นขับรถหนีกลับไปตั้งหลักที่บ้าน และล้างคราบเลือดออกจากรถ แต่หนีไม่รอด เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ปิดบังซ่อนเร้นเหตุแห่งการตาย คุมตัวไปดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้

ปภ.ยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ใช่ผลจากอาฟเตอร์ช็อก

ปภ.แถลงชี้แจงกรณีสถานการณ์อพยพออกจากอาคาร ยืนยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ได้เป็นผลกระทบจากอาฟเตอร์ช็อก ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก

นายกฯ ติดตามภารกิจช่วยเหลือคนติดซาก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ติดตามภารกิจช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ใต้ซากอาคาร พร้อมให้กำลังใจทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่

ตึกถล่มแผ่นดินไหว

72 ชั่วโมง ยังมีหวังพบผู้รอดชีวิตตึก สตง. ถล่ม

ใกล้ครบ 72 ชั่วโมงเหตุตึก สตง. ถล่ม แต่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายาม และยังมีความหวังในการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซาก