สธ.ร่วมพัฒนาศักยภาพ “สุขศาลาพระราชทาน”

สธ.4มี.ค.-สธ.ร่วมพัฒนาศักยภาพสุขศาลาพระราชทาน 22แห่งให้บริการ แบบผสมผสาน เป็นที่พึ่งประชาชนในพื้นที่ทุรกันดารชายแดน และพื้นที่พิเศษ โดยมี รพช.ในพื้นที่เป็นแม่ข่ายและ รพ.สต.พี่เลี้ยงช่วยดูแล


นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ให้สัมภาษณ์ว่าตามที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำริให้พัฒนาห้องพยาบาลในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่ห่างไกลให้เป็นสุขศาลาพระราชทาน เป็นที่พึ่งด้านสุขภาพให้นักเรียนและประชาชนในพื้นที่ทุรกันดารชายแดน และพื้นที่พิเศษ ในภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งระบบส่งต่อ โดยมีโรงพยาบาลชุมชน (รพช.)ในพื้นที่เป็นแม่ข่ายให้คำปรึกษาผ่านระบบวิดีโอสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ เครื่องมือที่จำเป็น พัฒนาศักยภาพบุคลากร รวมทั้งมีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เป็นพี่เลี้ยงแก่บุคลากรสุขศาลาพระราชทานนั้น 


นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อไปว่า การจัดตั้ง“สุขศาลาพระราชทาน” เพื่อให้เป็นสถานบริการสาธารณสุข ให้ บริการขั้นพื้นฐานแบบผสมผสาน  มีทั้งงานรักษาพยาบาล ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทำคลอดฉุกเฉิน การส่งต่อผู้ป่วย งานส่งเสริมสุขภาพ การเฝ้าระวังป้องกันโรค เป็นศูนย์การเรียนรู้และสื่อสารสุขภาพ  ให้นักเรียนและประชาชน ได้รับข้อมูลข่าวสาร ความรู้ด้านสุขภาพที่ถูกต้องเหมาะสม และทันเหตุการณ์ สามารถจัดการสุขภาพตนเอง ครอบครัว ชุมชนได้อย่างเหมาะสม และยั่งยืน นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์ประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาสุขภาพนักเรียนและชุมชน  โดยการนำภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้านและสมุนไพรมาใช้ดูแลสุขภาพเบื้องต้น 


สำหรับการดำเนินงานของสุขศาลาพระราชทาน มีหน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมสนองงานตามพระราชดำริ  ประกอบด้วย สำนักงานโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี  กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน บริษัท ทีโอที(มหาชน)การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค คณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันอาณาจักรไทย รุ่นที่ 46 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั้งส่วนกลางและภูมิภาค จัดระบบบริการด้านสุขภาพในสุขศาลาพระราชทานเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2549 ปัจจุบันมี  20 แห่ง ใน 10 จังหวัด16 อำเภอ 53 หมู่บ้าน 4,073 ครัวเรือน มากกว่า 17,810คนและอีก2แห่งอยู่ระหว่างดำเนินการ คือที่ศูนย์การเรียนรู้ตำรวจตระเวนชายแดนบ้านโกแประ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน และศูนย์การเรียนรู้ตำรวจตระเวนชายแดนท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุญนาค อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง