กรุงเทพฯ 4 มี.ค. – กรมการขนส่งทางบกเผยเก็บภาษีรถประจำปีเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ไตรมาสแรกปี 61 สูงถึง 1,890 ล้านบาท โดยประชาชนยังคงนิยมชำระภาษีรถผ่านสำนักงานขนส่ง
นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2561 (ต.ค.-ธ.ค.60) กรมการขนส่งทางบกสามารถจัดเก็บภาษีรถประจำปีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครกว่า 1,890 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาเก็บได้ 1,726 ล้านบาท
สำหรับช่องทางที่ประชาชนนิยมเลือกใช้บริการมากที่สุด คือ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 5 จำนวน 996,071 ราย สามารถจัดเก็บภาษีรถได้กว่า 1,417 ล้านบาท รองลงมาเป็นการใช้บริการรับชำระภาษีรถผ่านช่องทาง “เลื่อนล้อ ต่อภาษี (Drive Thru for Tax) ” ชำระภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถ 128,455 ราย จัดเก็บภาษีได้กว่า 227 ล้านบาท และการใช้บริการรับชำระภาษีรถที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีในวันเสาร์ – อาทิตย์ทั้ง 14 สาขา ตามโครงการ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)” มีประชาชนมาใช้บริการ 105,822 ราย จัดเก็บภาษีรถได้กว่า 149 ล้านบาท ส่วนการชำระภาษีรถผ่านอินเทอร์เน็ต 35,339 ราย จัดเก็บภาษีได้กว่า 49 ล้านบาท และที่ศูนย์บริการร่วมคมนาคมเชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินที่ให้บริการทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 15.00 น. มีผู้มาใช้บริการ 19,564 ราย จัดเก็บภาษีได้ 23 ล้านบาท
นายกมล กล่าวว่า กรมฯ พัฒนาและอำนวยความสะดวกประชาชนสามารถใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีได้ทุกที่ทั่วประเทศไทย ลดขั้นตอน ลดระยะเวลา บนมาตรฐานความถูกต้อง ชัดเจน มีระบบความปลอดภัย คุ้มครองสิทธิ์เจ้าของรถ ทั้งทางแอพพลิเคชั่น Truemoney Wallet, แอพพลิเคชั่น mPAY ทุกเครือข่ายสัญญาณ, เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th นอกจากนี้ ยังร่วมกับเครือข่ายทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เช่น เคาน์เตอร์เซอร์วิส ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ที่ทำการไปรษณีย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีด้วย.-สำนักข่าวไทย