อดีต รมว.ศึกษาธิการ ถูกหวย 12 ล้าน

ภูมิภาค 3 มี.ค.61- รวมพลคนถูกหวย อดีต รมว.ศธ.ถูกหวย 12 ล้าน ส่วนที่หล่มสักถูกรางวัลที่ 1 คนละใบรวม 4 คน ขณะที่หนุ่มอุบลฯ ถูกรางวัลที่ 1 รับ 12 ล้าน ส่วนแม่บ้าน รพ.ถูกหวยรับ 6 ล้าน


นายศรีเมือง เจริญศิริ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ และอดีตสมาชิกวุฒิสมาชิก จังหวัดมหาสารคาม อายุ 75 ปี อยู่ตำบลดอนหว่าน อ.เมือง จ.มหาสารคาม ได้เดินทางเข้าไปที่ สภ.ดอนหว่าน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานว่าเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลประจำวันที่ 2 มีนาคม 61 หมายเลข 759415 จำนวน 2 ใบ เป็นเงิน 12 ล้านบาท 

นายศรีเมือง เปิดเผยว่า ตนเองเป็นคนชอบทำบุญ เมื่อเช้าพอดีเป็นวันเกิดของปึงเถ้ากง ที่ศาลปึงเถ้ากงในตัวจังหวัดมหาสารคาม พอได้ไปเป็นประธานไหว้ จึงได้บนบานท่านไว้ว่าตนเองถูกรางวัลตั้งแต่รางวัลที่ 2 มาทุกรางวัลแล้วยกเว้นรางวัลที่ 1 นี่ละยังไม่เคยถูกและได้ทราบมาว่าทางมูลนิธิจะทำซุ้มประตู เพราะไม่มี เลยจึงขอว่าถ้าถูกรางวัลที่ 1 จะบริจาคเพื่อสร้างซุ่มประตูนี้ พอไหว้เสร็จในช่วงสายก็กลับมาที่บ้านพอรางวัลออกก็เอาสลากออกมาตรวจก็พบว่าถูกรางวัลที่ 1 ตามที่ขอปึงเถ้ากงไว้จริงด้วย โดยสลากชุดนี้ตนได้ไปซื้อมาจากที่กรุงเทพมหานคร    


หล่มสักรวย! ถูกรางวัลที่ 1 คนละใบ รวม 4 คน

ส่วนที่อำเภอหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ มีผู้โชคดีถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 จำนวน 4 คน ซึ่งได้พร้อมใจกันเดินทางมาลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.หล่มสัก ไม่ได้นัดหมาย

คนแรก คือ นายธวัชชัย ทองตุ้ย อายุ 30 ปี ชาว ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ถูกลอตเตอรี่ 1 ใบ รับทรัพย์ 6 ล้านบาท เจ้าตัวเปิดเผยว่าเป็นเจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมูจำนวน 1,600 ตัว ก่อนหน้านี้ ได้ไปซื้อลอตเตอรี่กับแม่ค้าที่ตลาดหล่มสัก จำนวน 1 ใบ เงินที่ได้จะนำไปใช้หนี้สินที่กู้ยืมธนาคารมาลงทุนจำนวนหลายล้านบาท


คนที่ 2 ชื่อ นางจำนง ใสไหม อายุ 46 ปี ชาว ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก อาชีพเกษตรกร เล่าว่า ได้ซื้อลอตเตอรี่ 1 ใบ กับแม่ค้าที่ตลาดนัดที่วัดโพธิ์งอย บ้านห้วยลาน อ.หล่มสัก ซึ่งอยู่ในหมู่บ้าน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เมื่อซื้อเสร็จแล้วจึงเรียกญาติชื่อนางนงนุช ราษฏร์ดี มาซื้ออีก 1 ใบ โดยตั้งใจว่าจะนำเงินที่ได้ไปซื้อนาไว้ให้ลูกทำมาหากิน และเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูกหลาน

คนที่ 3 ชื่อนางนงนุช ราษฎร์ดี อายุ 44 ปี ชาว ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก เป็นแม่บ้านมีสามีเป็นชาวต่างชาติ ไปซื้อลอตเตอรี่ จำนวน 1 ใบ พร้อมกับญาติ คือนางจำนง ใสไหม (ที่ถูกรางวัลที่ 1 เช่นกัน) ที่ตลาดนัดที่วัดโพธิ์งอย อ.หล่มสัก เธอเล่าว่า กำลังจะเดินทางกลับต่างประเทศ แต่คงเดินทางกลับยังไม่ได้ เพราะต้องอยู่ขึ้นเงินรางวัลก่อนถึงจะเดินทางกลับพร้อมกับสามีชาวต่างชาติ เงินที่ได้จะเก็บไว้สำหรับดูแลพ่อและแม่ ที่อายุมากแล้ว 

คนที่ 4 ชื่อนางสาว หนูไผ่ ซาทัน อายุ 45 ปี ชาว ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ อาชีพเกษตรกร รับทรัพย์ 6 ล้านบาทเช่นกัน โดยเธอกล่าว ด้วยน้ำเสียงดีใจสุดๆ ว่า ตนซื้อลอตเตอรี่จากแม่ค้าชาวจังหวัดเลย ที่ตลาดคลองถมบ้านโนนทอง อ.หล่มสัก จำนวน 1 ใบ โดยเลขที่อยากได้ไม่มี คนขายจึงหยิบเลขรางวัลที่ 1 ให้แทน ตนจึงซื้อไว้ 1 ใบ เงินรางวัลที่ได้จะนำไปทำบุญและเป็นทุนการศึกษาให้ลูก

หนุ่มอุบลฯ สุดเฮงถูกรางวัลที่ 1 รับ 12 ล้าน

หนุ่มชิปปิ้งอุบลราชธานี สุดเฮง ตั้งใจซื้อหวยเลขท้าย 91 คว้า 12 ล้าน เป็นเศรษฐีใหม่แบบงงๆ ช่วงเย็นวานนี้ นายวรุธ เจียจันทร์ อายุ 27 ปี เดินทางมา สภ.เดชอุดม พร้อมสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 งวดที่ 9 ประจำวันที่ 2 มี.ค.61 หมายเลข 759415 ชุดที่ 04 และชุดที่ 25 เพื่อขอลงประจำวันเป็นหลักฐาน

นายวรุธเป็นชิปปิ้ง อยู่บริเวณด่านถาวรช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี คืนวันเสาร์ที่ 24 ก.พ. ฝันว่ามีคนเอาเงินมาให้ 1,500 บาท ตกเย็นวันอาทิตย์ก็ฝันอีกว่าคนมาบอกในฝันว่าให้ซื้อเลข 91 เช้ามาไปเล่าให้หัวหน้าฟัง ตั้งใจจะซื้อเลข 91 แต่พอเดินไปถึงร้านขายลอตเตอรี่ ตนเองก็งงๆ ไปบอกคนขายว่าจะซื้อ 15 พอกลับมาก็มางงกับตัวเองว่าทำไมถึงซื้อเลข 15 ทั้งที่ตั้งใจว่าจะซื้อ 91 แล้วก็เลยไปซื้อสลากอีก 1 ใบแถวชายแดนไทย – ลาว รวมงวดนี้ซื้อทั้งหมด 3 ใบ 

นายวรุธ ยังเล่าอีกว่า วันนี้ขณะที่ออกสลากตนเองกำลังขับรถเพื่อจะกลับบ้านที่อำเภอเดชอุดม ภรรยาได้ถ่ายผลการออกรางวัลมาให้ดูลงท้าย 415 ตนจึงได้ถ่ายจอดรถแล้วถ่ายสลากกลับไปให้ภรรยาจึงรู้ว่าถูกรางวัลที่ 1 ก่อนจะไปรับภรรยามาลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เดชอุดม สำหรับเงินรางวัลที่ได้ 12 ล้านบาท นายวรุธเปิดเผยว่าตนเองตั้งใจจะใช้หนี้ให้มารดา ทำบุญและทำธุรกิจเล็กที่บ้าน ส่วนอาชีพชิปปิ้งตนก็ยังคงจะทำเหมือนเดิมต่อไป

แม่บ้านโรงพยาบาลสุดเฮงถูกหวยรับ 6 ล้าน

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 2 มี.ค. ร.ต.อ.หญิง วราภรณ์ กลับเจริญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว รับแจ้งจาก นางยุพิน คันธารักษ์ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 ถ.เทศบาล 14 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว ที่เดินทางมาพร้อมกับญาติๆ จำนวน 6 คน ว่าถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 โดยเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดที่ 9 ชุดที่ 1 เลข 759415 จำนวน 1 ใบ ซึ่งตรงกับรางวัลที่ 1 เป็นเงินจำนวน 6 ล้านบาท จึงเดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นการป้องกัน

นางยุพิน กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นแม่บ้านที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ได้มาซื้อลอตเตอรี่ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 61 ที่ร้านท็อป ตลาดตระกูลสุข อ.เมือง จ.สระแก้ว โดยซื้อไปจำนวน 3 ใบ ที่ซื้อเลขนี้เมื่อมาถึงแผงได้เห็นและจะซื้อเลข 14 แต่ไม่มี จึงได้เอาเลข 15 แทน กระทั่งวันนี้ ลูกๆ หลานๆ ได้บอกว่าตนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จึงตกใจและดีใจ จากนั้นจึงได้ชักชวนกันมาแจ้งความไว้

นางยุพิน กล่าวอีกว่า หลังจากได้เงินมาแล้ว ตั้งใจจะนำเงินไปทำบุญจำนวน 1 ล้านบาท และแบ่งให้ลูกๆ ซึ่งตนมีลูกจำนวน 3 คน และเลี้ยงหลานอีก 5 คน ก็จะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาของบุตรหลานด้วย แต่ก็จะเก็บไว้ใช้ในอนาคต และตนก็ยังจะทำงานต่อไปจนกว่าจะทำไม่ไหวจึงจะหยุดพัก

บุกรวบเจ้ามือหวยเถื่อนรายใหญ่

ช่วงบ่ายวานนี้ (2 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับทหารรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบึงกาฬ และตำรวจ สภ.บุ่งคล้า สนธิกำลังกว่า 20 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเล่นการพนันหวยเถื่อน หวยใต้ดิน บริเวณบ้านเลขที่ 80 หมู่ 6 บ.บ้านภูสวาท ต.หนองเดิน อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ

เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว พบผู้ต้องหาทั้งชายและหญิง กำลังช่วยกันเขียนเลข ลงบันทึก คีย์ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ จำนวน 12 คน (ชาย 2  หญิง 10 ) มีพบอุปกรณ์ในการกระทำผิด ทั้ง 1.คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จำนวน 12  ชุด 2.เครื่องคิดเลข จำนวน 24  ตัว 3.สมุดบันทึกการซื้อขายหวย จำนวน  22 เล่ม 4.โพยหวยขนาดใหญ่ 68 แผ่น 5.สมุดฉีกจดหวย จำนวน 2 เล่ม 6.โพยหวยแผ่นเล็ก จำนวน 273 แผ่น 7.ปากกา จำนวน 20 ด้าม 8.เครื่องส่งแฟกซ์ จำนวน 1  เครื่อง และ 9.เงินสด จำนวน  56,444  บาท ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมนั้น เจ้ามือหวยได้พยายามติดสินบนกับเจ้าหน้าที่ด้วย 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสังเกตพบว่าผู้ต้องหาบางรายยังเป็นเยาวชน อายุไม่ถึง 20 ปี จึงควบคุมตัวทั้งหมดพร้อมตรวจยึดของกลาง นำไปสอบสวนต่อ ณ ที่ว่าการอำเภอบุ่งคล้า ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างจัดทำบันทึกสำนวน หากแล้วเสร็จ จะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บุ่งคล้า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]

“พิเชษฐ์” ชิงปิดประชุมสภาฯ หลังถกวุ่นเสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 17 ก.ค.- “พิเชษฐ์” ทำแฮตทริก ชิงปิดประชุมสภาฯ หลัง “สส.ปชน.” เสนอนับองค์ประชุม ขณะที่ สส.เพื่อไทย ขอให้นับแบบขานชื่อ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ขณะรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 66 และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินประจำปีงบประมาณ 2566 ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมีผู้อภิปรายไปเพียงคนเดียวคือนายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรคประชาชน ทำให้นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปรายว่า เห็นสมาชิกในห้องประชุมบางตาอยากจะเช็คความตั้งใจการทำงานของสส.ฝ่ายรัฐบาล จึงขอนับองค์ประชุม และมีผู้รับรองถูกต้องจากนั้นนายพิเชษฐ์ กดออดเรียกสมาชิกพร้อมกล่าวว่า “ไม่อยากอภิปรายแล้วหรือ” พร้อมทั้งขอให้วิปรัฐบาลแจ้งสส.ที่อยู่ในห้องประชุมอื่นเพื่อรีบเข้าห้องประชุมใหญ่ ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การขอนับองค์ประชุมและมีผู้รับรอง ถือเป็นสิ่งสวยงาม แต่หากมีคนเสนอให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ คงใช้เวลาถึงค่ำ ดังนั้น ขอร้องเพื่อนสมาชิก เดือนนี้ขออย่านับองค์ประชุมเลย แล้วไปนับองค์ประชุมเดือนหน้า […]

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]