อดีต รมว.ศึกษาธิการ ถูกหวย 12 ล้าน

ภูมิภาค 3 มี.ค.61- รวมพลคนถูกหวย อดีต รมว.ศธ.ถูกหวย 12 ล้าน ส่วนที่หล่มสักถูกรางวัลที่ 1 คนละใบรวม 4 คน ขณะที่หนุ่มอุบลฯ ถูกรางวัลที่ 1 รับ 12 ล้าน ส่วนแม่บ้าน รพ.ถูกหวยรับ 6 ล้าน


นายศรีเมือง เจริญศิริ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ และอดีตสมาชิกวุฒิสมาชิก จังหวัดมหาสารคาม อายุ 75 ปี อยู่ตำบลดอนหว่าน อ.เมือง จ.มหาสารคาม ได้เดินทางเข้าไปที่ สภ.ดอนหว่าน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานว่าเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลประจำวันที่ 2 มีนาคม 61 หมายเลข 759415 จำนวน 2 ใบ เป็นเงิน 12 ล้านบาท 

นายศรีเมือง เปิดเผยว่า ตนเองเป็นคนชอบทำบุญ เมื่อเช้าพอดีเป็นวันเกิดของปึงเถ้ากง ที่ศาลปึงเถ้ากงในตัวจังหวัดมหาสารคาม พอได้ไปเป็นประธานไหว้ จึงได้บนบานท่านไว้ว่าตนเองถูกรางวัลตั้งแต่รางวัลที่ 2 มาทุกรางวัลแล้วยกเว้นรางวัลที่ 1 นี่ละยังไม่เคยถูกและได้ทราบมาว่าทางมูลนิธิจะทำซุ้มประตู เพราะไม่มี เลยจึงขอว่าถ้าถูกรางวัลที่ 1 จะบริจาคเพื่อสร้างซุ่มประตูนี้ พอไหว้เสร็จในช่วงสายก็กลับมาที่บ้านพอรางวัลออกก็เอาสลากออกมาตรวจก็พบว่าถูกรางวัลที่ 1 ตามที่ขอปึงเถ้ากงไว้จริงด้วย โดยสลากชุดนี้ตนได้ไปซื้อมาจากที่กรุงเทพมหานคร    


หล่มสักรวย! ถูกรางวัลที่ 1 คนละใบ รวม 4 คน

ส่วนที่อำเภอหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ มีผู้โชคดีถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 จำนวน 4 คน ซึ่งได้พร้อมใจกันเดินทางมาลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.หล่มสัก ไม่ได้นัดหมาย

คนแรก คือ นายธวัชชัย ทองตุ้ย อายุ 30 ปี ชาว ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ถูกลอตเตอรี่ 1 ใบ รับทรัพย์ 6 ล้านบาท เจ้าตัวเปิดเผยว่าเป็นเจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมูจำนวน 1,600 ตัว ก่อนหน้านี้ ได้ไปซื้อลอตเตอรี่กับแม่ค้าที่ตลาดหล่มสัก จำนวน 1 ใบ เงินที่ได้จะนำไปใช้หนี้สินที่กู้ยืมธนาคารมาลงทุนจำนวนหลายล้านบาท


คนที่ 2 ชื่อ นางจำนง ใสไหม อายุ 46 ปี ชาว ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก อาชีพเกษตรกร เล่าว่า ได้ซื้อลอตเตอรี่ 1 ใบ กับแม่ค้าที่ตลาดนัดที่วัดโพธิ์งอย บ้านห้วยลาน อ.หล่มสัก ซึ่งอยู่ในหมู่บ้าน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เมื่อซื้อเสร็จแล้วจึงเรียกญาติชื่อนางนงนุช ราษฏร์ดี มาซื้ออีก 1 ใบ โดยตั้งใจว่าจะนำเงินที่ได้ไปซื้อนาไว้ให้ลูกทำมาหากิน และเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูกหลาน

คนที่ 3 ชื่อนางนงนุช ราษฎร์ดี อายุ 44 ปี ชาว ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก เป็นแม่บ้านมีสามีเป็นชาวต่างชาติ ไปซื้อลอตเตอรี่ จำนวน 1 ใบ พร้อมกับญาติ คือนางจำนง ใสไหม (ที่ถูกรางวัลที่ 1 เช่นกัน) ที่ตลาดนัดที่วัดโพธิ์งอย อ.หล่มสัก เธอเล่าว่า กำลังจะเดินทางกลับต่างประเทศ แต่คงเดินทางกลับยังไม่ได้ เพราะต้องอยู่ขึ้นเงินรางวัลก่อนถึงจะเดินทางกลับพร้อมกับสามีชาวต่างชาติ เงินที่ได้จะเก็บไว้สำหรับดูแลพ่อและแม่ ที่อายุมากแล้ว 

คนที่ 4 ชื่อนางสาว หนูไผ่ ซาทัน อายุ 45 ปี ชาว ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ อาชีพเกษตรกร รับทรัพย์ 6 ล้านบาทเช่นกัน โดยเธอกล่าว ด้วยน้ำเสียงดีใจสุดๆ ว่า ตนซื้อลอตเตอรี่จากแม่ค้าชาวจังหวัดเลย ที่ตลาดคลองถมบ้านโนนทอง อ.หล่มสัก จำนวน 1 ใบ โดยเลขที่อยากได้ไม่มี คนขายจึงหยิบเลขรางวัลที่ 1 ให้แทน ตนจึงซื้อไว้ 1 ใบ เงินรางวัลที่ได้จะนำไปทำบุญและเป็นทุนการศึกษาให้ลูก

หนุ่มอุบลฯ สุดเฮงถูกรางวัลที่ 1 รับ 12 ล้าน

หนุ่มชิปปิ้งอุบลราชธานี สุดเฮง ตั้งใจซื้อหวยเลขท้าย 91 คว้า 12 ล้าน เป็นเศรษฐีใหม่แบบงงๆ ช่วงเย็นวานนี้ นายวรุธ เจียจันทร์ อายุ 27 ปี เดินทางมา สภ.เดชอุดม พร้อมสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 งวดที่ 9 ประจำวันที่ 2 มี.ค.61 หมายเลข 759415 ชุดที่ 04 และชุดที่ 25 เพื่อขอลงประจำวันเป็นหลักฐาน

นายวรุธเป็นชิปปิ้ง อยู่บริเวณด่านถาวรช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี คืนวันเสาร์ที่ 24 ก.พ. ฝันว่ามีคนเอาเงินมาให้ 1,500 บาท ตกเย็นวันอาทิตย์ก็ฝันอีกว่าคนมาบอกในฝันว่าให้ซื้อเลข 91 เช้ามาไปเล่าให้หัวหน้าฟัง ตั้งใจจะซื้อเลข 91 แต่พอเดินไปถึงร้านขายลอตเตอรี่ ตนเองก็งงๆ ไปบอกคนขายว่าจะซื้อ 15 พอกลับมาก็มางงกับตัวเองว่าทำไมถึงซื้อเลข 15 ทั้งที่ตั้งใจว่าจะซื้อ 91 แล้วก็เลยไปซื้อสลากอีก 1 ใบแถวชายแดนไทย – ลาว รวมงวดนี้ซื้อทั้งหมด 3 ใบ 

นายวรุธ ยังเล่าอีกว่า วันนี้ขณะที่ออกสลากตนเองกำลังขับรถเพื่อจะกลับบ้านที่อำเภอเดชอุดม ภรรยาได้ถ่ายผลการออกรางวัลมาให้ดูลงท้าย 415 ตนจึงได้ถ่ายจอดรถแล้วถ่ายสลากกลับไปให้ภรรยาจึงรู้ว่าถูกรางวัลที่ 1 ก่อนจะไปรับภรรยามาลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เดชอุดม สำหรับเงินรางวัลที่ได้ 12 ล้านบาท นายวรุธเปิดเผยว่าตนเองตั้งใจจะใช้หนี้ให้มารดา ทำบุญและทำธุรกิจเล็กที่บ้าน ส่วนอาชีพชิปปิ้งตนก็ยังคงจะทำเหมือนเดิมต่อไป

แม่บ้านโรงพยาบาลสุดเฮงถูกหวยรับ 6 ล้าน

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 2 มี.ค. ร.ต.อ.หญิง วราภรณ์ กลับเจริญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว รับแจ้งจาก นางยุพิน คันธารักษ์ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 ถ.เทศบาล 14 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว ที่เดินทางมาพร้อมกับญาติๆ จำนวน 6 คน ว่าถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 โดยเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดที่ 9 ชุดที่ 1 เลข 759415 จำนวน 1 ใบ ซึ่งตรงกับรางวัลที่ 1 เป็นเงินจำนวน 6 ล้านบาท จึงเดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นการป้องกัน

นางยุพิน กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นแม่บ้านที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ได้มาซื้อลอตเตอรี่ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 61 ที่ร้านท็อป ตลาดตระกูลสุข อ.เมือง จ.สระแก้ว โดยซื้อไปจำนวน 3 ใบ ที่ซื้อเลขนี้เมื่อมาถึงแผงได้เห็นและจะซื้อเลข 14 แต่ไม่มี จึงได้เอาเลข 15 แทน กระทั่งวันนี้ ลูกๆ หลานๆ ได้บอกว่าตนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จึงตกใจและดีใจ จากนั้นจึงได้ชักชวนกันมาแจ้งความไว้

นางยุพิน กล่าวอีกว่า หลังจากได้เงินมาแล้ว ตั้งใจจะนำเงินไปทำบุญจำนวน 1 ล้านบาท และแบ่งให้ลูกๆ ซึ่งตนมีลูกจำนวน 3 คน และเลี้ยงหลานอีก 5 คน ก็จะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาของบุตรหลานด้วย แต่ก็จะเก็บไว้ใช้ในอนาคต และตนก็ยังจะทำงานต่อไปจนกว่าจะทำไม่ไหวจึงจะหยุดพัก

บุกรวบเจ้ามือหวยเถื่อนรายใหญ่

ช่วงบ่ายวานนี้ (2 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับทหารรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบึงกาฬ และตำรวจ สภ.บุ่งคล้า สนธิกำลังกว่า 20 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเล่นการพนันหวยเถื่อน หวยใต้ดิน บริเวณบ้านเลขที่ 80 หมู่ 6 บ.บ้านภูสวาท ต.หนองเดิน อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ

เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว พบผู้ต้องหาทั้งชายและหญิง กำลังช่วยกันเขียนเลข ลงบันทึก คีย์ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ จำนวน 12 คน (ชาย 2  หญิง 10 ) มีพบอุปกรณ์ในการกระทำผิด ทั้ง 1.คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จำนวน 12  ชุด 2.เครื่องคิดเลข จำนวน 24  ตัว 3.สมุดบันทึกการซื้อขายหวย จำนวน  22 เล่ม 4.โพยหวยขนาดใหญ่ 68 แผ่น 5.สมุดฉีกจดหวย จำนวน 2 เล่ม 6.โพยหวยแผ่นเล็ก จำนวน 273 แผ่น 7.ปากกา จำนวน 20 ด้าม 8.เครื่องส่งแฟกซ์ จำนวน 1  เครื่อง และ 9.เงินสด จำนวน  56,444  บาท ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมนั้น เจ้ามือหวยได้พยายามติดสินบนกับเจ้าหน้าที่ด้วย 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสังเกตพบว่าผู้ต้องหาบางรายยังเป็นเยาวชน อายุไม่ถึง 20 ปี จึงควบคุมตัวทั้งหมดพร้อมตรวจยึดของกลาง นำไปสอบสวนต่อ ณ ที่ว่าการอำเภอบุ่งคล้า ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างจัดทำบันทึกสำนวน หากแล้วเสร็จ จะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บุ่งคล้า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมวงถก สมช. แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” เลื่อนวาระงาน เพื่อร่วมประชุม สมช. แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งเลื่อนการประชุมติดตามมาตรการป้องกันปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลเป็น 11.00 น. เพื่อมาร่วมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. หารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อสรุปมาตรการตอบโต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดน โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มารอต้อนรับ ซึ่งการร่วมประชุม กับ สมช. ในวันนี้นายกรัฐมนตรี ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าและเป็นการมาร่วมประชุมกับ สมช. เป็นครั้งแรก .-316 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “เตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารจากจุดปะทะ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “พลเอกเตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารออกจากจุดปะทะ ออกไป 200 เมตร กลับไปอยู่จุดเดิม ฝากข้อเสนอนี้ให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชา-สมเด็จฮุนเซน พิจารณา ย้ำไทยไม่ยอมรับศาลโลก ระบุไม่อยากให้เกิดสงคราม ยันเดินหน้าประชุมเจบีซี 14 มิถุนายนนี้ วอนเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังได้หารือร่วมกับ พลเอก เตีย เสฮา (Tea Seiha) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เมื่อวานนี้ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ว่า ได้มีการหารือกันว่าจะคลี่คลายกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดในขณะนี้ โดยรัฐบาลไทยได้ยืนยันแล้ว ว่าไม่อยากเห็นสงคราม และไทยไม่ได้กังวลที่จะมีการสู้รบ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการสูญเสีย ซึ่งไม่ต้องการเห็นตรงนั้น ดังนั้นความสัมพันธ์ที่มีอยู่จึงน่าจะพูดคุยกันได้ ดังนั้นได้มีการพูดคุยกันในภาพรวม โดยสรุปตนเองก็ได้ฝากไปว่า เมื่อคุยกันแล้วและเข้าใจจุดยืนของแต่ละฝ่ายแล้ว เราอยากให้เป็นการคุยจำกัดเฉพาะที่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา พร้อมยืนยันว่าไทยไม่ได้เข้าศาลโลก เพราะตั้งแต่ปี 2503 มา จนกระทั่งปี 2567 นายเศรษฐา ทวีศิลป์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 40% ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับมีร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 7-11 มิ.ย. 68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นสูง […]

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย