แนะเยาวชนนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างยั่งยืน

456ทำเนียบฯ 5 ต.ค.-นายกฯ เป็นประธานเปิดโครงการเยาวชนอาเซียนเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพระยุคลบาท พร้อมให้โอวาทแก่เยาวชน เน้นเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประยุกต์ใช้สิ่งใหม่โดยไม่ทิ้งของเก่า และเห็นผลเป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่พิธีกรรมเฉพาะหน้า


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “เยาวชนอาเซียนเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพระยุคลบาท” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 พร้อมให้โอวาทแก่เยาวชนผู้แทนประเทศสมาชิกอาเซียน โดยเน้นย้ำให้เยาวชนเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อมุ่งหวังให้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตได้อย่างยั่งยืนในทุกด้าน ด้วยการพัฒนาคนทุกระดับให้มีความพอเพียงเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืน ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงทุกด้านและกระแสโลกาภิวัตน์ โดยย้ำว่า ต้องการให้เห็นผลเป็นรูปธรรม ไม่ใช่เพียงพิธีกรรมเฉพาะหน้า

123“ขณะนี้ วิธีการในการคิดนั้นหายไป ทำให้คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้คิดค้นเครื่องมือและเทคโนโลยี จะหายจากกระบวนการความคิด คิดยาว ๆ ไม่ค่อยได้ คิดได้แต่สั้น ๆ เพราะมีเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ เช่น เวลาเกิดปัญหาอะไร แทบไม่มีการค้นหาแนวทางแก้ปัญหาจากหนังสือ แต่จะค้นหาจากกุเกิ้ลและยูทูป ซึ่งสิ่งนี้ ก็ทำให้กระบวนการทางความคิดนั้นหายไป ประเทศไทยจึงต้องสร้างกระบวนการเรียนรู้ใหม่ให้ได้ โดยที่ไม่ทิ้งของเก่า โดยเฉพาะหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทุกประเทศต้องมีประวัติศาสตร์เป็นของตนเอง และวันนี้ก็มีประวัติศาสตร์เพื่อสร้างความภาคภูมิใจ ไม่ใช่สร้างความขัดแย้ง ดังนั้นขอให้ช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับทุกประเทศ โดยประชาชนของทุกประเทศ และนี่จะเป็นความยั่งยืนที่สอดคล้องกับการพัฒนาโลกอย่างยั่งยืนตามมติของสหประชาชาติ 167 เป้าหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทยจะต้องเดินหน้าไปอีก 14 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ยังต้องทบทวนว่าที่ผ่านมา ประเทศไทยมีหลักยึดมั่นอย่างไร ซึ่งต้องมองทุกด้านและต้องใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิตและแก้ปัญหาประเทศชาติ แม้ว่าจะมีความยาก แต่ไม่เกินความพยายามของทุกคน อยากให้เยาวชนทุกคนมีความเชื่อมโยงในทุกโครงการที่เป็นปประโยชน์กับการสร้างทรัพรยากรบุคคลในระยะยาว และมุ่งหวังให้ประเทศไทยพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยคำนึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย สิ่งเหลานี้จะเป็นความยั่งยืนในอีก 15 ปีข้างหน้า ซึ่ง 40 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเจอกับวิกฤตการณ์ต่าง ๆ มากมาย แต่ประเทศไทยใช้หลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการแก้ปัญหา ทำให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ได้ทันเวลา เพื่อเตรียมพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป ประเทศไทยมีประชาชน 70 ล้านคน ผมก็ทำเพื่อประชาชนทุกคน ไม่ใช่ทำให้ใครคนใดคนหนึ่ง ยืนยันว่าทุกรัฐบาลทำเพื่อคนไทยทุกคนอยู่แล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้โลกและอากาศอยู่ในสภาวะเปลี่ยนแปลง หลายอย่างมีปรากฏการณ์ที่อันตราย จึงต้องเตรียมความพร้อมด้วยตัวเราเอง เพราะทุกคนคือพลังสำคัญของโลก ดังนั้นจึงอยากให้พิจารณาว่าจะสามารถนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของประเทศไทยไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไร คำว่าประยุกต์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องต่อเนื่องและยั่งยืน โดยไม่ต้องบังคับด้วยกฎหมาย ทั่วโลกใช้กฎหมายมามากเพียงพอแล้ว และทำให้เกิดความขัดแย้งพอสมควร ดังนั้นจึงต้องทำให้ทุกคนมีจิตสำนึกว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศชาติสงบและปลอดภัย โดยไม่ได้มองเพียงแค่ความเดือดร้อนของตัวเอง คนใกล้ตัว ต้องนึกถึงผู้อื่นด้วย การพัฒนาคน ไม่ใช่การบังคับ แต่ต้องให้เรียนรู้การใช้ชีวิตในการเผชิญกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง จึงจะเรียกได้ว่าเป็นการปฏิรูปตนเองและทุกด้าน

741“การคิดใหม่ทั้งหมด บางทีอาจไม่ถูกต้อง ก็ต้องนำของเก่ามาคิดด้วย ดังนั้นเยาวชนต้องให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ ไม่ใช่แค่สองบรรทัดในกุเกิ้ลหรือยูทูปเท่านั้น ทั้งนี้ในอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น หากไม่มีหลักการยึดมั่น ก็จะมีการแย่งชิงผลประโยชน์ เอาเปรียบ มีความเหลื่อมล้ำกัน ความเป็นธรรมก็ไม่เกิด และจะทำให้เกิดความขัดแย้งจนนำไปสู่สงครามการสู้รบอย่างแน่นอน วันนี้จึงต้องมาพูดคุยเรื่องหลักการในการดำรงชีวิต และเยาวชนแต่ละประเทศที่มาพบกันในวันนี้สามารถแลกเปลี่ยนหลักการกันได้ จะได้ไม่มีความขัดแย้งกันในวันหน้า” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในช่วงนี้ถือว่าในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน จึงต้องคิดต่อยอด พร้อมพัฒนาเชื่อมโยง แต่อย่ามองแค่สมาชิกอาเซียนเท่านั้น ควรเชื่อมโยงถึงระดับโลกเพื่อพัฒนาประเทศให้ได้ผลและยั่งยืน สิ่งสำคัญ คือ เมื่อพบปะแลกเปลี่ยนกันกับประเทศต่าง ๆ ต้องยิ้มแย้มให้กัน ไม่ใช่มีแต่ความขัดแย้ง เพราะทุกคนคือมนุษยชนด้วยกันทั้งสิ้น จึงขอให้เยาวชนทุกคนมีความสามัคคีและมิตรภาพต่อกัน มีเหตุผลในการดำเนินชีวิต มีการวางแผนการใช้ชีวิต เช่น แผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปีของรัฐบาลว่าประเทศไทยจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างไร ก็ต้องพิจารณาให้เป็นอย่างดี เช่น การลงทุนต้องวางแผนอนาคต ลงทุนแต่น้อยก่อน แล้วค่อยสร้างให้แข็งแรง ไม่ใช่การลงทุนเพิ่มแต่แรกแล้วหวังว่าอีก 20 ปีจะได้เงินทุนคืนมา สิ่งนี้คือปัญหาในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ อย่าเอาเงินในอนาคตมาใช้ก่อนมากจนเกินไป โดยที่ไม่มีหลักประกันความเสี่ยงมาคุ้มครอง เพราะขณะนี้สถานการณ์การเงินของโลกมีปัญหา


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ โลกกำลังเข้าสู่โลกการปฏิรูปเศรษฐกิจสมัยที่ 4 ของโลก คือ การใช้เทคโนโลยีระดับสูงเพื่อลดต้นทุนการผลิต แต่ประเทศไทยต้องคำนึงถึงแรงงานไทยด้วย ขณะที่สินค้าเกษตร นับวันก็ยิ่งลดลง จึงต้องส่งเสริมให้มีมูลค่าสูงขึ้น ด้วยการรวมพลังของเยาวชนทุกคน แม้ว่าคนรุ่นใหม่ไม่ชอบทำงานด้านการเกษตร เพราะมีรายได้น้อย แต่ต้องร่วมกันพัฒนาให้อาเซียนเป็นธนาคารอาหารของโลกให้ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย