แท็กซี่เสียหลักชนท้ายกระบะปลาพลิกคว่ำกระจายเกลื่อนถนน

ปทุมธานี 24 ก.พ.-เกิดเหตุแท็กซี่เสียหลักชนท้ายรถกระบะบรรทุกปลาพลิกคว่ำ บริเวณคลองหนึ่ง รังสิต-นครนายก จ.ปทุมธานี ปลาเกือบ 2 ตันกระจายเกลื่อนถนน ส่วนที่บริเวณซอยรังสิต-นครนายก 33 หน้าวัดแสงสรรค์ รถเก๋งชนจักรยานยนต์ ตาย 1



ร.ต.อ.บุรินทร์ ทองก่อ ร้อยเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถจักรยานยนต์ และคนเดินเท้ามีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณซอยรังสิต-นครนายก 33 หน้าวัดแสงสรรค์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยรถกู้ชีพเทศบาลนครรังสิตและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 รายทราบชื่อ นายพรสวรรค์ เชื้อบุญ อายุ 23ปี สภาพศพนอนเสียชีวิตอยู่หน้าประตูทางเข้าวัด ใกล้กันพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าสีดำ เสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทางได้รับความเสียหายทั้งคัน ส่วนขับรถเก๋งทราบชื่อนายวีระพงษ์ โง้วสกุล อายุ 35 ปี เป็นพนักงานของบริษัท รถกู้ชีพเทศบาลนครรังสิต นำส่งโรงพยาบาลบางประกอก รังสิต 2 ไปก่อนแล้ว และยังมีคนเดินเท้าถูกรถเก๋งชนได้รับบาดเจ็บอีก 1 คนทราบชื่อนายสมพร นามเชื้อ ไม่ทราบอายุ รถกู้ชีพเทศบาลนครรังสิตนำส่งโรงบาลแพทย์รังสิต และยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซุกิ ของผู้ตายถูกชนชนล้อหน้าขาดชิ้นส่วนกระจายอยู่เต็มถนน


จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุบอกว่า ตนกำลังกางเต็นท์เพื่อจัดงานวัดได้ยินเสียงดังสนั่นและเห็นคนขับรถจักรยานยนต์ลอยตกลงมากระแทกกับพื้นและแน่นิ่งไป ตนจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ด้าน ร.ต.อ.บุรินทร์ ทองก่อ หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วจึงได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ส่วนคนขับรถเก๋งจะได้นำตัวมาสอบปากคำอีกครั้งหลังออกจากโรงพยาบาลแล้วพร้อมทั้งได้ให้แพทย์ตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายว่ามีหรือไม่

แท็กซี่เสียหลักชนท้ายกระบะปลาพลิกคว่ำกระจายเกลื่อนถนน

ส่วนอีกคดี ร.ต.อ.ศุภชัย ศรีสุวัฒน์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกปลาพลิกคว่ำ บริเวณคลองหนึ่ง ถนนรังสิต-นครนายก ขาเข้า ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยอาสาสมัครร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ พลิกตะแคงติดอยู่กับการ์ดเรลริมถนน โดยมีปลายี่สกตกกระจายเกลื่อนถนน โดยมีนายทวนทัย ว่องไว อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกปลายืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ห่างออกไปประมาณ 40 เมตร พบรถแท็กซี่ เขียว-เหลือง ยี่ห้อโตโยต้า พลิกหงายท้องล้อชีฟ้า กระจกด้านหลังแตกกระจาย ส่วนคนขับได้วิ่งหลบหนีไปก่อนหน้าแล้ว

จากการสอบถามนายมวนทัย ว่องไว บอกว่าตนเองขับรถบรรทุกปลายี่สกจำนวนเกือบ 2 ตันจาก อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี เพื่อจะนำไปส่งให้ลูกค้าที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม โดยมีภรรยา นางคมคาย สิทธิวงศ์ษา อายุ 52 ปี นั่งมาด้วย  ขณะที่ตนเองขับมาถึงตรงจุดเกิดเหตุได้มีรถแท็กซี่คู่กรณีวิ่งเข้ามาชนท้ายด้านขวาอย่างแรงจนทำให้รถเสียการทรงตัวพลิกตะแคงส่งผลให้ปลาเกือบ 2 ตันกระจายเกลื่อนถนน ส่วนภรรยาได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก อาสาสมัครกู้ภัยได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลไปแล้ว


ด้านนายเสรี  มิตรโกสุม อายุ 55 ปี คนขับรถบรรทุกปลา กล่าวว่า ตนเองขับรถบรรทุกปลาตามกันมาจากบ่อปลา อ.บ้านสร้าง จำนวน 10 คัน เพื่อจะนำปลาไปส่งที่จังหวัดสมุทรสาคร และนครปฐม โดยตนเองนั้นขับมาเป็นคันที่ 2 เมื่อมาถึงตรงจุดเกิดเหตุเห็นรถแท็กซี่เลี้ยวกลับตรงจุดกลับรถอย่างรวดเร็ว และเสียหลักพุ่งชนแท่งแบริเออร์ อย่างแรงก่อนจะเข้ามาพุ่งชนรถของเพื่อนที่บรรทุกปลาวิ่งนำหน้าอยู่จนเสียการทรงตัวพลิกตะแคงปลาตกกระจายเต็มถนน ส่วนรถแท็กซี่คันก่อเหตุก็หมุนอยู่กลางถนนหลายรอบก่อนจะพลิกหงายท้องท้องล้อชีฟ้า โดยมีคนขับไม่ทราบชื่อคลานออกมาไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาและเดินมาเพื่อจะแสดงตัวเป็นพลเมืองดีเพื่อช่วยเหลือเพื่อนของตน จากนั้นก็วิ่งหนีพวกตนและเพื่อนที่ขับรถมาด้วยได้วิ่งไล่จับแต่ไม่ทัน

ด้าน ร.ต.อ.ศุภชัย ศรีสุวัฒน์ หลังจากตรวจสอบบันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานหมดแล้ว ได้ให้รถยกมาเคลื่อนย้ายรถแท็กซี่ไว้ที่ของกลางก่อนเชิญตัว นายมวนทัย ว่องไว สอบปากคำเพิ่มเติมและจะติดตามตัวคนขับแท็กซี่คันก่อนเหตุมาสอบปากคำและดำเนินคดีต่อไป

อุบัติเหตุรถกระบะชนประสานงารถตู้โดยสาร


ส่วนช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.00 น.เจ้าหน้าที่กู้ภัยและศูนย์แพทย์นเรนทร ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถกระบะชนประสานงากับรถตู้โดยสาร มีผู้โดยสารเป็น เจ้าหน้าที่ ข้าราชการ โรงพยาบาลกระบี่โดยสารมาเต็มคันรถ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เกิดเหตุที่ถนนตรัง-สิเกา บ้านเขาแก้ว  หมู่ที่ 2 ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง ทางศูนย์แพทย์นเรนทรได้ประสานลูกข่ายนำรถพยาบาลฉุกเฉินพร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 10 คัน มาทำการปฐมพยาบาลและรับผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลศูนย์ตรัง และ รพ.สิเกา มีผู้บาดเจ็บเป็นคนขับรถตู้ 1 คน ลูกคนขับรถตู้ 1 คน เจ้าหน้าที่ข้าราชการโรงพยาบาลจังหวัดกระบี่ 12 คน คนขับรถยนต์กระบะ 1 คนและเด็กอีก 1 คน รวมผู้โดยสารและคนขับรถทั้ง 2 คันได้รับบาดเจ็บรวม 14 คน

เจ้าหน้าที่กู้ภัยบางส่วนอำนวยความสะดวกร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะถนนสายนี้มีปริมาณการจรรถมีจำนวนมาก เมื่อเกิดอุบัติเหตุก็ส่งผลให้รถติดแถวยาว เมื่อมีการลำเลียงคนเจ็บไปยัง 2 โรงพยาบาลจนเสร็จสิ้น ก็ทราบว่า รถยนต์กระบะขับมุ่งหน้าไป บ้านนาเมืองเพชร ต.นาเมืองเพชร ส่วนรถตู้โดยสารเดินทางมาจาก อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เพื่อกลับบ้านที่อ.สิเกา ส่วนรถตู้ของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกระบี่ กำลังจะเดินทางกลับ จ.กระบี่ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถกระบะตอนเดียวยี่ห้อเชฟโรเลตสีน้ำเงิน คนขับเป็นชาย พร้อมเด็ก ขับข้ามเลนมายังฝั่งของรถตู้ ทำให้เกิดการชนกันเสียงดังสนั่นหวั่นไหว รถตู้มีรอยเบรก ตกไหลถนนพลิกคว่ำ ทำให้ผู้โดยสารและคนขับได้รับบาดเจ็บทั้ง 14 คน ส่วนรถกระบะหลังการชนด้านหน้ารถพังยับเยินจอดขวางถนน มีคนขับชายและเด็กมาด้วย 2 คนบาดเจ็บ รวมคนเจ็บทั้งหมด 16 คน ในเวลาต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.สิเกา อ.สิเกา เดินทางมาตรวจสถานที่เกิดเหตุ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]