กสิกรไทยมองเศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่าศักยภาพ

กรุงเทพฯ  20 ก.พ. – กสิกรไทยมองจีดีพีไทยยังโตต่ำกว่าศักยภาพ ชี้นักลงทุนรอการเลือกตั้ง กระตุ้นกำลังซื้อและการลงทุน เตือนบาทผันผวนกรอบ 30.80-32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ 


นายกอบสิทธิ์ ศิลป์ชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจปี 2560 ที่สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศเติบโตร้อยละ 3.9 ว่า เป็นการเติบโตต่ำกว่าศักยภาพ ซึ่งควรจะเติบโตร้อยละ  5 และเกือบต่ำสุดในภูมิภาค เป็นรองเพียงสิงคโปร์เท่านั้น เพราะแม้การส่งออกจะดีขึ้น แต่อุปสงค์ในประเทศยังไม่ฟื้นตัว โดยธนาคารกสิกรไทยคาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวร้อยละ 4 เพราะยังรอการลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัว ซึ่งนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศยังรอความชัดเจนเรื่องการปฏิรูปการเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้ง หากมีการเลือกตั้งปลายปีนี้ตามโรดแมพที่วางไว้จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นและการลงทุนภาคเอกชนจะตามมา แต่หากเลื่อนออกไปอาจจะทำให้โครงการลงทุนเอกชนชะลอออกไปก่อน

นอกจากนี้ หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นปลายปีนี้ บรรดาพรรคการเมืองจะมีการหาเสียง โดยเน้นนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งมีกว่า 10 ล้านคนจะทำให้เม็ดเงินกระจายสู่ภาคการเกษตรและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจขายปุ๋ย วัตถุดิบการเกษตร เป็นต้น ทำให้บรรยากาศและกำลังซื้อเกษตรกรกลับมาคึกคัก 


นายกอบสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ปีนี้ต้องจับตาการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท เนื่องจากมีความผันผวนสูง โดยธนาคารกสิกรไทยมีการปรับประมาณการมาแล้ว 2 ครั้ง  โดยครั้งล่าสุดคาดว่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าสุดในรอบ 5 ปี ที่ 30.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลที่เงินบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลในระดับสูงมาจากการท่องเที่ยวขยายตัวดี โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยจำนวนมาก และทิศทางของเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง หลังสหรัฐมีท่าทีพอใจที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า อย่างไรก็ตามมองว่าหลังสงกรานต์เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่า เนื่องจากจะมีการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนประมาณ 37,000 ล้านบาท เงินทุนต่างชาติจะเริ่มไหลออก ประกอบกับหมดฤดูกาลท่องเที่ยว การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจะน้อยลง เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า โดยคาดว่าจะอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงปลายปี 

นายกอบสิทธิ์ กล่าวว่า มาตรการดูแลเงินบาทอาจมีข้อจำกัด เพราะถ้าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าแทรกแซงค่าเงินบาทจะสุ่มเสี่ยงต่อการที่สหรัฐอาจจะใช้เป็นข้ออ้างใช้มาตรการกีดกันทางการค้าไทย เพราะขณะนี้ประเทศไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  เกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูงถึงร้อยละ 8 ของจีดีพี หากไทยแทรกแซงค่าเงินเกินร้อยละ 2 อาจจะสุ่มเสี่ยงเข้าเงื่อนไขสหรัฐกีดกันทางการค้าไทย แม้ว่าประเทศไทยอาจไม่ใช่เป้าหมายเหมือนจีนกับเม็กซิโก ก็ตาม.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ