เจ้าของบ้านยอมรับ เบรกแตก! ขวานฟันรถจอดขวางหน้าบ้าน

กรุงเทพฯ 20 ก.พ.- เจ้าของบ้านที่ถูกจอดรถกีดขวางทางเข้าออก ตั้งโต๊ะแถลง ทนนานกว่า 10 ปี เรียกร้องให้ กทม. เข้ามาแก้ปัญหาย้ายตลาดออกจากพื้นที่ พร้อมยืนยันว่า การทุบรถไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ 


นางสาวบุญศรี แสงหยกตระการ เจ้าของบ้านเลขที่ 37/208 ซอยหมู่บ้านเสรีวิลล่า พร้อมครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อน จากการเปิดตลาดสวนหลวง ร.9 แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ใช้ขวานและเสียมทุบทำลายรถยนต์ที่จอดขวางบริเวณประตูทางออกหน้าบ้าน เธอบอกว่า เหตุการณ์ในคลิป เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าเธอได้ใช้ความพยายามในการตามหาตัวเจ้าของรถเกือบ 30 นาที โดยบีบแตรดังตลอดเวลา และได้โทรศัพท์แจ้ง 191 จส.100  ตามหาเจ้าของรถให้มาเลื่อนออกแล้ว หางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เธอตัดสินใจทุบรถ คือเมื่อเจ้าของรถมาถึง ก็บอกว่าได้ยินเสียงแตรแล้วแต่ยังซื้อของไม่เสร็จ จากนั้นเจ้าของรถก็ยังไม่ยอมเลื่อนรถทันที ยังประวิงเวลาทำธุระอยู่อีกนานเกือบ 30 นาที จึงตัดสินใจใช้เครื่องมือทำลายสิ่งกีดขวางทางเข้าออกบ้าน ซึ่งเธอมองว่าไม่ใช่การทำเกินกว่าเหตุ แต่เป็นความชอบธรรมในการปกป้องสิทธิ์ของตนเองเนื่องจากพื้นที่นี้เป็นพื้นที่หมู่บ้านจัดสรร ไม่ใช่พื้นที่สาธารณะ 


นอกจากนี้นางสาวบุญศรี ยังเล่าถึงปัญหาที่ต่อสู้มานานกว่า 10 ปี ทั้งเรื่องเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญระหว่างการขนส่งสินค้าเข้าตลาด การจอดรถกีดขวางทางเข้าออกทำลายต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมกำแพงบ้าน รวมถึงปัญหาการลักลอบใช้ไฟฟ้า จนทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นเป็นหลักหมื่นบาท ซึ่งทั้งหมดมีการฟ้องร้องไปยังศาลปกครองแล้ว 3 คดี ซึ่งคดีที่ 1 และ 2 มีคำสั่งให้คุ้มครองแล้ว และเรื่องที่เกิดขึ้นก็จะร้องเรียนไปยังศาลว่า ยังคงมีการละเมิดคำสั่งศาล

ส่วนกระแสข่าวในโลกโซเชียล ที่ระบุว่า อดีตเคยออกจากบ้านไม่ได้ จนทำให้บิดาเสียชีวิตนั้น ไม่เป็นความจริง มีเพียงมารดา ที่ป่วยจึงต้องนำตัวไปพักรักษาที่โรงพยาบาลเพราะกังวลว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน จะไม่สามารถนำส่งโรงพยาบาล ได้ทันเวลา ส่วนแนวทางการแก้ปัญหา อยากฝากถึง กทม. ให้จัดการย้ายตลาดออกไปจากชุมนุม และคืนความสุขให้กับประชาชนในหมู่บ้านที่มีกว่า 293 ครัวเรือน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย