นนทบุรี 24 ก.ค. – เจ้าของบ้านหนุ่มวัย 29 ปี สุดทนกับพฤติกรรมเพื่อนบ้าน ตั้งวงกินเหล้า เปิดเพลงเสียงดังเกือบทุกวัน พอเตือนก็ถูกคู่กรณีข่มขู่และพาพวกมาทำร้ายร่างกาย ต้องย้ายหนีและติดป้ายประกาศขายบ้าน
กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนายชุติพนธ์ อายุ 29 ปี กำลังล้างรถอยู่บริเวณหน้าบ้าน ก่อนมีรถยนต์สีดำขับมาจอด จากนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์ 3 คน มีนายเต้ สวมเสื้อยืดสีดำ ส่วนอีก 2 คน ไม่ทราบชื่อ สวมเสื้อสีแดง เดินลงจากรถแล้วปรี่เข้ามาหานายชุติพนธ์ ก่อนชายสวมเสื้อสีแดงรูปร่างท้วม จะชกต่อยนายชุติพนธ์ได้รับบาดเจ็บ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างออกมาห้ามปรามกลุ่มชายฉกรรจ์ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ค.66 เวลาประมาณ 08.15 น. พื้นที่ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) นายชุติพนธ์ และ น.ส.สุธามาศ ภรรยา ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 3 คน พูดจาข่มขู่หาเรื่อง แล้วชกต่อยนายชุติพนธ์ได้รับบาดเจ็บขณะยืนล้างรถยนต์อยู่หน้าบ้าน หลังโทรร้องเรียนเจ้าของที่ดินให้เตือนข้างบ้านเรื่องตั้งวงดื่มสุราแล้วส่งเสียงดังเกือบทุกวัน ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ทำให้ไม่ได้หลับไม่ได้นอน อดทนมานานกว่า 1 ปี ถูกข่มขู่ประจำจนอยู่ไม่ได้ ต้องย้ายบ้านหนี เนื่องจากกลัวเรื่องอิทธิพล พร้อมประกาศขายบ้าน
นายชุติพนธ์ บอกว่า ตอนเกิดเหตุกลุ่มคนที่ทำร้ายตนเดินมาถามว่าตนไปฟ้องอะไรเจ้าของที่ จากนั้นกลุ่มคนดังกล่าวพุ่งเข้ามาบีบคอและชกหน้าตน 3-4 หมัด โชคดีลุงข้างบ้านเข้ามาห้าม ซึ่งหนึ่งในกลุ่มที่มาทำร้ายตนรู้จักชื่อคนเดียว คือ เต้ สวมเสื้อสีดำ ซึ่งชายทั้ง 3 คน ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากตนไปฟ้องเรื่องส่งเสียงดัง
ด้าน น.ส.สุธามาศ บอกว่า บ้านข้างตนเสียงดังมานานแล้วเกือบ 1 ปี อดทนมานาน ก่อนตัดสินใจโทรหาเจ้าของที่ให้ช่วยคุยเจรจา พอคู่กรณีทราบเรื่องว่าตนไปฟ้องจึงไม่พอใจเลยมาต่อยแฟนตน โดยพฤติกรรมจะนั่งจับกลุ่มร้องเพลงและเปิดเพลงเสียงดัง หนักสุดเลิกเวลา 03.00 น. เร็วสุดประมาณ 24.00 น. โดยจะรวมตัวกันสัปดาห์หนึ่งประมาณ 5 วัน ตอนนี้ตนต้องหลบมาอยู่ที่อื่น เนื่องจากกลัวไม่ปลอดภัย แจ้งความตำรวจ สภ.ปากเกร็ด แล้ว แต่ตำรวจบอกว่าให้ไปเอาชื่อ-นามสกุลจริงบ้านข้างๆ มาให้ ตนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงนำเรื่องมาร้องเรียนสื่อมวลชน และอยากให้ตำรวจดำเนินคดีคนทำร้ายร่างกายแฟนของตน
ขณะที่นายจตุรพร เจ้าของรถยนต์สีดำที่มีปากเสียงกับผู้เสียหาย บอกว่า วันเกิดเหตุตนขับรถมาบริเวณหน้าบ้านของคู่กรณี ตนเข้าไปคนเดียว ไม่ได้ยกพวกไป ก่อนถามว่าทำไมไม่เดินมาคุยกัน ทำไมถึงไปฟ้องเจ้าของที่ เพราะเจ้าของที่โทรมาคุยกับตนว่าคู่กรณีโทรมาฟ้องว่าพวกตนร้องคาราโอเกะเสียงดังถึงตี 2 ตี 3 ทั้งที่ตนกลับบ้านแค่เที่ยงคืน ยอมรับว่าเดินไปใกล้เขาแต่ไม่ได้ทำอะไร ส่วนรุ่นพี่ 2 คน เขาเห็นว่าตนมีปัญหาจึงเดินมาดูแล้วเกิดมีปากเสียงกัน ดึงกันไปมา แล้วพลาดมือไปโดนหน้าคู่กรณี
เมื่อเวลา 22.00 น. วานนี้ (23 ก.ค.) ทางนายจตุรพร พร้อมพวก 2 คน เข้าให้ปากคำกับตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ในกรณีดังกล่าวแล้ว.-สำนักข่าวไทย