เตรียมลงพื้นที่สำรวจความต้องการประชาชนในโครงการไทยนิยมยั่งยืน 21 ก.พ.นี้

ทำเนียบฯ 20 ก.พ.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เตรียมลงพื้นที่ทั่วประเทศครั้งแรก 21 ก.พ.นี้ เพื่อสำรวจปัญหาและความต้องการของประชาชนในโครงการไทยนิยมยั่งยืน เชื่อโครงการนี้แก้ปัญหาที่มามีตลอด 10 ปีได้


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความพร้อมในโครงการไทยนิยมยั่งยืน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่สำรวจปัญหาและความต้องการของประชาชนในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.) กว่า 7,500 ทีม ว่า มีความเชื่อมั่นว่าคนไทยและเจ้าหน้าที่มีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนตามแนวทางของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และยังเชื่อว่าโครงการไทยนิยมยั่งยืนจะสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศไทยที่เกิดขึ้นมาตลอดทั้ง 10 ปีได้  โดยได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ใน 2 เรื่องหลัก คือ การสำรวจความต้องการของประชาชน เพื่อให้คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และที่สำคัญเน้นเรื่องความโปร่งใสทุกระดับ โดยยืนยันจะไม่มีการดำเนินโครงการในรูปแบบการจัดซื้อครุภัณฑ์ และนายกรัฐมนตรีจะประเมินผลงานในทุกระดับด้วย

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวด้วยว่า ขอให้ประชาชนเปิดใจมองโลกแง่ดี ยืนยันเป็นการพูดสิ่งที่ดี ไม่ใช่การใส่ร้ายใคร แต่เป็นการเรียนรู้ระบบประชาธิปไตยแนวทางปฎิบัติตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และไม่มีความกังวลที่จะลงพื้นที่พบปะประชาชนในช่วงที่รัฐบาลกำลังประสบภาวะปัญหาทางการเมือง


“ผมเองมองโลกในแง่ดี และเชื่อว่าบ้านเมืองจะดีได้ ทุกคนต้องร่วมมือกัน และมั่นใจด้วยว่าสิ่งที่ไปพูดไม่ได้ไปให้ร้ายใคร ซึ่งโครงการไทยนิยมยั่งยืน จะสามารถแก้ปัญหาที่มีมาตลอด 10 ปีได้ ส่วนตัวมีความมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ดี โดยไม่มีความกังวลใด ๆ เพราะเชื่อว่าสังคมจะดีได้” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ มั่นใจว่าจะทำให้สังคมดีขึ้น เพราะสิ่งที่นำไปพูดและให้ความรู้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ดี ขณะเดียวกันภาคเอกชนและประชาสังคมได้ร่วมลงพื้นที่เติมเต็มในการดูแลประชาชนด้วย ส่วนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ หลังจากที่ได้สำรวจความต้องการแล้ว จะมีการใช้งบ ใน 3 กลุ่ม คือ เรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กระทรวงการคลังจะเป็นผู้รับผิดชอบ , การพัฒนาให้เกิดขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งอาจจะใช้งบ ประมาณ 200,000-250,000 บาทต่อต่อโครงการ และโครงการที่เกี่ยวกับการเกษตร ซึ่งเน้นย้ำให้ดำเนินโครงการมีผลผลิตสอดรับกับความต้องการของตลาด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม