มทภ.1 มอบนโยบายทีมขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมยั่งยืนระดับตำบล

กองทัพภาคที่ 1 19 ก.พ.- แม่ทัพภาคที่ 1 ประชุมมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติแก่กำลังพลชุดปฏิบัติการทีมขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมยั่งยืนระดับตำบลทั้ง 26 จังหวัด ขอให้ทุกหน่วยสร้างความรับรู้และเข้าใจกับประชาชน


พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 1 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 1 เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายก่อน ปฏิบัติงานการสนับสนุนโครงการไทยนิยมยั่งยืน ต่อผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 1 ผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 1 รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฝ่ายทหาร กรรมการระดับจังหวัด และเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับตำบลในการตอบสนองนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ทีมขับเคลื่อนระดับตำบลจัดเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเข้าไปร่วมเป็นคณะกรรมการ ซึ่งจะเน้นย้ำให้กำลังพลเข้าใจบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบต่อโครงการฯ รวมทั้งนำชุดความรู้ทั้ง 10 ชุด เช่น สัญญาประชาคม คนไทยไม่ทิ้งกัน รู้สิทธิ รู้หน้าที่รู้กฎหมาย ตลอดจนรู้รักประชาธิปไตยไทยนิยม ไปเผยแพร่ขับเคลื่อนสร้างความรับรู้และเข้าใจให้กับประชาชนถึงการทำงานของรัฐบาลและสำรวจความต้องการของประชาชนแล้วนำมาเสนอเป็นแผนงานโครงการในการพัฒนาพื้นที่ต่อไป

พล.ท.กู้เกียรติ  กล่าวในที่ประชุมว่า เชื่อมั่นว่าในส่วนของกำลังพลของกองทัพภาคที่ 1 ที่ถูกคัดเลือกจาก กอ.รมน. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในจำนวน 2,647 นาย เป็นผู้ที่มีความสามารถ มีความชำนาญ สามารถทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ได้ดี พร้อมกันนี้ขอให้ทุกหน่วยทำความเข้าใจกับวัตถุประสงค์ของโครงการไทยนิยมยั่งยืน ในฐานะที่ตนเองรับราชการทหารอยู่ในกองทัพภาคที่ 1 มากกว่า 30 ปี และเคยอยู่ในหลาย ๆ ส่วนงาน จึงทราบดีว่ากำลังพลได้รับการฝึกและปลูกฝังเป็นอย่างดี ตามลำดับ ทุกชั้นยศ จึงมั่นใจว่าจะร่วมมือกันทำโครงการไทยนิยมยั่งยืนให้เข้มแข็งตามนโยบายของรัฐบาล


สำหรับกองทัพภาคที่ 1 มีพื้นที่รับผิดชอบจำนวน 26 จังหวัดภาคกลาง แบ่งการปฏิบัติออกเป็น 4 ห้วงเวลา ห้วงละ 20 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ เป็นการ Kick Off พร้อมกันทั่วประเทศ ตำบลละหนึ่งหมู่บ้าน ด้วยการเยี่ยมเยียนรายครัวเรือน ค้นหาความต้องการของประชาชนเพื่อจัดทำโครงการเสนอตามกรอบการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ ห้วงที่สองช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงต้นเมษายน เป็นการสร้างการรับรู้และปฎิบัติตามสัญญาประชาคม ห้วงที่ 3 และ 4 ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม เป็นการสร้างการรับรู้ ปรับความคิดเพื่อการมีส่วนร่วมพัฒนาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและจะสิ้นสุดโครงการฯ ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2561.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง