ชุมพร 17 ก.พ.-ล่าระทึก แก๊งลักรถหรูส่งภาคใต้ ขับรถแหกด่านสกัดหลังสวน แต่ไปไม่รอด หลังโดนจับยังปากแข็ง อ้างทำงานได้เงินเดือนหลายหมื่น ไม่มาเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้หรอก สุดท้ายตำรวจงัดหลักฐานใบแจ้งความรถหายมายัน อึ้ง! คนร้ายนามสกุลเดียวกับ สวป.หัวหน้าชุดจับกุม
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้(17 ก.พ.)พ.ต.อ.นิรันดร์ กันจู ผกก.สภ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งจาก พล.ต.ต.ทนัย อภิชาตเสนีย์ รอง ผอ.ศปจร.ตร.ให้สกัดจับรถยนต์ถูกขโมยจากพื้นที่ กทม.กำลังขับมุ่งหน้าเข้าพื้นที่ อ.หลังสวน จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ไพศาล ศรีสวัสดิ์ สวป. นำกำลังตั้งด่านสกัดที่ป้อมตำรวจบ้านพะเนียด ริมถนนสายเอเซีย 41 ขาล่องใต้ และกำลังอีกส่วนรอสกัดที่ริมถนนเอเชีย 41 หมู่ 6 ต.บ้านควน อ.หลังสวน เนื่องจากคาดว่าคนร้ายน่าจะแหกด่านสกัดในจุดแรก
ต่อมามีรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน ฆน-904 กทม. ตรงตามที่ได้รับแจ้ง วิ่งมาด้วยความเร็วสูง และเป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้ รถฟอร์จูนเนอร์ไม่ยอมหยุดให้ตรวจ กลับแหกด่านมุ่งหน้าลงใต้ต่อไปด้วยความเร็วสูง เจ้าหน้าที่จึงวิทยุให้กำลังตำรวจในจุดที่เตรียมไว้ นำรถยนต์ออกมาขวางบนถนน เมื่อรถฟอร์จูนเนอร์ชะลอคงวามเร็ว จึงนำกำลังตำรวจเข้าจับกุมทันที ภายในรถพบพ่อแม่ลูก นำตัวมาที่ป้อมตำรวจบ้านพะเนียด เพื่อทำการสอบสวนเบื้องต้น
จากสอบสวนทราบชื่อคนขับคือ นายอำพล ศรีสวัสดิ์ อายุ 47ปี ส่วนผู้หญิงเป็นภรรยา ชื่อ น.ส.ลัดดาวรรณ วงษ์ศักดิ์ อายุ 32 ปี และเด็กชายอายุ 4 ขวบ เป็นลูกของคนทั้งสอง โดยนายอำพลให้การอ้างว่า ยืมรถเพื่อนมาจาก กทม.จะไปเยี่ยมญาติที่ จ.สุราษฏร์ธานี ไม่รู้เรื่องการขโมยรถแต่อย่างใด เพราะตนมีอาชีพขับรถบรรทุกของษริษัทขนส่งแห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา ได้เงินเดือนร่วม 3 หมื่นบาท อีกทั้งเอาลูกเมียมาด้วย คงไม่มาเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้นำหลักฐานที่เจ้าของรถได้แจ้งความรถหายไว้ที่ สน.บางพลัด กรุงเทพฯ มายืนยัน โดยรถคันดังกล่าวถูกคนร้ายก่อเหตุทุบกระจกหน้าแล้วขโมยรถไปขณะจอดไว้ที่ข้างกำแพงรั้วข้างบ้านพักในซอยบรมราชชนนี 4 เขตบางพลัด กทม.เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบภายในรถ ยังพบเศษชิ้นส่วนกระจกหน้า คาดว่าคนร้ายคงรีบไปเปลี่ยนกระจกหน้า แต่ไมได้นำเศษกระจกเก่าทิ้งไป อีกทั้งเอกสารต่างๆในรถไม่ตรงกับตัวรถด้วย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรกับสองสามีภรรยา และประสานงานตำรวจ สน.บางพลัด กทม.เดินทางมารับตัวไปดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ ในระหว่างจับกุม ตำรวจได้ขอดูบัตรประชาชนนายอำพล เมื่อเห็นนามสกุล “ศรีสวัสดิ์” ซึ่งตรงกับนามสกุลของ พ.ต.ท.ไพศาล ศรีสวัสดิ์ สวป.หัวหน้าชุดจับกุม ทำเอาตำรวจทั้งหมดหันมาบอก พ.ต.ท.ไพศาลว่า “เอ้า ญาติของท่าน” แต่เมื่อ สวป.เห็นหน้าตานายอำพล ก็บอกว่าไม่เคยรู้จักมาก่อน อาจบังเอิญที่นามสกุลเหมือนกันก็ได้ เนื่องจากนามสกุลนี้มีเยอะมากทั่วประเทศ แม้กระทั่งเจ้าของบริษัทเงินกู้รายใหญ่ก็นามสกุลนี้เช่นเดียวกัน และยังบอกว่าถ้าเป็นญาติกันจริง ก็ต้องดำเนินคดีเต็มที่ เนื่องจากในสายตระกูลของตน ไม่มีใครเป็นโจรแน่นอน.-สำนักข่าวไทย