คุมตัว “ชิต สายเบิร์น” ชี้จุดก่อเหตุท่ามกลางเสียงสาปแช่ง

กาฬสินธุ์ 16 ก.พ.-ตำรวจคุมตัว “ชิต สายเบิร์น” ผู้ต้องหาก่อเหตุขับกระบะยิงนักศึกษาชายบาดเจ็บสาหัสและฉุดนักศึกษาหญิงไปข่มขืนในกาฬสินธุ์ไปชี้จุดเกิดเหตุ หลังเข้ามอบตัวเกรงว่าจะถูกจับตาย พร้อมสารภาพข่มขืนนักศึกษาถึง 4 ครั้ง


ชุดสืบสวน สภ.นามน ควบคุมตัวนายทิษณุ โถนารัตน์ อายุ 29 ปี หรือ “ชิต สายเบิร์น” ชาวอำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาในคดีพยายามฆ่าและข่มขืน หลังก่อเหตุขับกระบะสีดำ ปาดหน้าจักรยานยนต์นักศึกษาชาย-หญิงมหาวิทยาลัยชื่อดังในกาฬสินธุ์ ก่อนก่อเหตุฉุดนักศึกษาหญิงไปข่มขืนบนเขาภูพานและยิงนักศึกษาชายที่ใบหน้าได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังผู้ต้องหาดอดเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.คำม่วง เมื่อช่วงเช้า เพราะเกรงว่าจะถูกวิสามัญ

โดยตำรวจพาผู้ต้องหาพร้อมปืนพกขนาด 9 มม. ไปชี้รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน บย 8560 ซึ่งเป็นรถคันที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงชี้จุดบริเวณแค็บที่ใช้สำหรับข่มขืนเหยื่อ จากนั้นพาตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ ตั้งแต่บริเวณที่คนร้ายพบเห็นนักศึกษาชายหญิง ที่ขี่รถจักรยานยนต์มาติดไฟแดง ตรงแยกทางเข้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง โดยระหว่างนั้นคนร้ายตัดสินใจขับรถเบียดแต่พลาด หลังจากนั้นได้ตัดสินใจขับรถเบียดและเข้าทำร้ายอีกครั้งที่หน้าวัดชุมชนบ้านนามน ก่อนใช้อาวุธปืนยิงนักศึกษาชายที่ใบหน้า และฉุดนักศึกษาหญิงขึ้นรถกระบะ  ขับพาเหยื่อตรงขึ้นเขาภูพาน และจอดรถที่ข้างทาง ใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้นักศึกษาสาวถอดเสื้อผ้าแล้วลงมือขืนใจถึง 3 ครั้ง


จากนั้นได้ขับรถไปปั๊มแห่งหนึ่งเพื่อเติมน้ำมัน และขับต่อไปยังสกลนคร ก่อนแวะข้างทางเพื่อทำการขืนใจนักศึกษาสาวอีก 1 ครั้ง ก่อนนำตัวไปปล่อยทิ้งไว้ข้างทางที่บ้านหนองผำ ต.โคกคูิ อ.ภูพาน จังหวัดสกลนคร โดยบังคับให้เหยื่อวิ่งลอดรั้วลวดหนาม และให้โอกาสหนีโดยการนับ 1 ถึง 10 ทำให้นักศึกษาสาวต้องวิ่งหนีเอาตัวรอดแบบไม่คิดชีวิต


โดยการชี้จุดแต่ละแห่ง มีประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจ พร้อมตะโกนสาปแช่งให้ประหารชีวิตคนร้าย เนื่องจากมีพฤติกรรมโหดเหี้ยม ทำให้ตำรวจต้องกันประชาชนออกจากพื้นที่เพราะกลัวสถานการณ์บานปลายกลายเป็นการรุมประชาทัณฑ์

ก่อนหน้านั้นระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหารายนี้ แพทย์นิติเวชและชุดพิสูจน์หลักฐาน ได้เก็บดีเอ็นเอที่กระพุ้งแก้มผู้ต้องหา รวมถึงเส้นผม เพื่อนำไปประกอบพยานหลักฐานเพื่อสรุปสำนวนดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าสาเหตุที่ทำเพราะทะเลาะกับภรรยาและต้องการหาที่ระบาย จากนั้นจึงก่อเหตุสะเทือนขวัญ ส่วนกรณีที่ปล่อยตัวนักศึกษาสาวเป็นอิสระเพราะไม่ต้องการเอาชีวิต แต่การยิงนักศึกษาชายจนบาดเจ็บสาหัส ยอมรับว่าเกิดจากเมายาบ้า

สำหรับวันพรุ่งนี้ (17 ก.พ.) พนักงานสอบสวน สภ.นามน จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอีกครั้ง คาดว่าอาจมีประชาชนให้ความสนใจมาติดตามคดีนี้เป็นจำนวนมาก จึงอาจต้องมีการเสริมกำลังดูแลความปลอดภัยเพราะอาจเสี่ยงถูกรุมประชาทัณฑ์เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ซิงซิง

ผลมติพบ “ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์-ปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

“ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์ หลังผลมติคัดแยก-คัดกรองออกแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองแล้ว ให้ พม.ดูแลต่อ ขณะที่ทีมกฎหมายของดาราจีน เผยเจ้าตัวปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

เลือกตั้ง อบจ.

กกต.เปิดตัว “หมูเด้ง” เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

กกต.จัดกิจกรรม kick off เปิดตัว “หมูเด้ง” เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. ภายใต้แนวคิด “สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง” ด้าน “อิทธพร” ให้ความมั่นใจพร้อมจัดการเลือกตั้งอย่างสุจริต

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ฝุ่นpm

เขตหนองแขม อ่วมฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง

คนกรุงเทพฯ อ่วม คุณภาพอากาศเช้านี้ ฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานอยู่ระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ 1 พื้นที่ เขตหนองแขม และอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 69 พื้นที่