สองตายายใจบุญครองรักยาวกว่า60ปี

สมุทรสาคร 13 ก.พ.-ตาเพิ่มยายฉ่ำ คู่รักนักบุญ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงขายที่บริจาคโรงพยาบาลวัดกว่า 15 ล้านบาท


สีสันวันวาเลนไทน์ปีนี้ พาไปดูคู่รักนักบุญ อยู่อย่างพอเพียงที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นคู่รักของคุณตาเพิ่ม กับ คุณยายฉ่ำ ชาวบ้านเกาะ ทั้งคุณตาและคุณยายมีอายุย่างเข้า 90 ปี ครองรักกันมายาวนานถึง 62 ปีแล้ว ภายในบ้านเลขที่ 48 หมู่ที่ 1 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และที่น่าแปลกนอกจากความรักที่สามารถครองกันมาได้อย่างอายุมั่นขวัญยืนตามคำอวยพรของคนโบร่ำโบราณนั้น สิ่งที่กำหนดชะตาบ่งชี้ให้ทั้งสองตายายมาเป็นคู่เนื้อนาบุญกัน นั่นก็คือ คุณตาเพิ่ม กับ คุณยายฉ่ำ เกิดวันเสาร์เหมือนกัน เกิดเดือนกันยายนเหมือนกัน และเกิดพ.ศ.2472 ปีเดียวกัน แต่ที่ต่างกันก็ตรงที่คุณตาเพิ่มเกิดวันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2472 ส่วนคุณยายฉ่ำเกิดวันเสาร์ 13 กันยายน 2472 ห่างกันเพียง 7 วันเท่านั้น


คุณตาเพิ่ม ชาวบ้านเกาะ เล่าว่า ตนเองพบรักกับคุณยายฉ่ำได้เพราะญาติทั้งสองฝ่ายแนะนำและจับแต่งงานกัน ซึ่งสมัยนั้นก็ไม่ได้ขัดใจพ่อแม่ เมื่อพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายเห็นสมควรเหมาะสมกัน ก็ตกลงปลงใจแต่งงานครองเรือนร่วมกันมาตั้งแต่อายุ 27 ปี แล้วก็ช่วยกันทำมาหากินด้วยอาชีพดั้งเดิมของครอบครัวคือ การทำนา กับ เย็บจาก  เงินทุกบาทที่ได้มาก็ใช้จ่ายอย่างรู้คุณค่าเก็บหอมรอมริบเอาไว้ใช้ยามแก่เฒ่าเพราะไม่มีลูกที่จะมาเป็นที่พึ่งยามเป็นไม้ใกล้ฝั่ง รู้กิน รู้ใช้ อยู่อย่างพอเพียงตามแนวพระราชดำรัสที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงสอนไว้ ครั้นพอแก่ชราลงเมื่อตอนอายุ 60 ปี ได้จัดพิธีทำบุญเสริมมงคลชีวิต แต่ก็มีคนมาทักว่าเราสองคนชงกัน ให้หมั่นทำบุญสร้างพระใหญ่เสริมสร้างชีวิตที่ดี ซึ่งตากับยายก็ไม่ได้เชื่ออะไรมากนักในเรื่องปีชง แต่เชื่อในเรื่องบุญทำกรรมแต่ง หากเราหมั่นทำบุญ บุญกุศลก็จะหนุนนำให้เราอยู่อย่างมีความสุขทั้งในชาตินี้และชาติหน้าและสมหวังในหลายสิ่งหลายอย่างที่ตั้งใจไว้ ซึ่งคุณยายฉ่ำก็เห็นดีด้วย ดังนั้นจึงได้เริ่มขายแปลงนาที่มีอยู่ทั้งหมดรวมกัน 66 ไร่ เพื่อนำเงินที่ได้รับมาเอาไปบริจาคให้กับโรงพยาบาล 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลกระทุ่มแบน และ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) นอกจากนี้ก็ยังมีการบริจาคเงินและที่ดินให้กับวัดหลายแห่ง และสร้างอาคารเรียนให้อีกด้วย จนได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น จตุตถดิเรกคุณาภรณ์ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2560 

ส่วนในเรื่องความรักและหลักการครองเรือนที่คุณตาเพิ่ม กับ คุณยายฉ่ำ มีให้กันนั้น ทางด้านคุณยายฉ่ำ ชาวบ้านเกาะ ได้บอกถึงความประทับใจที่มีต่อคุณตาเพิ่มจนทำให้การครองเรือนมีมาได้อย่างยาวนาน คือ ความเข้าใจกัน ไม่ขัดแย้ง ไม่ทะเลาะกัน และที่สำคัญคือ การทำบุญร่วมกัน


ขณะที่คุณตาเพิ่ม บอกว่า วิธีการครองเรือนที่ทำให้อยู่ด้วยกันได้อย่างยาวนานและมั่นคงที่อยากจะฝากถึงหนุ่มๆ สาวๆ คนรุ่นหลังสมัยนี้ก็คือ การหมั่นสร้างความดีร่วมกัน ทำดีต่อกัน ช่วยกันทำมาหากิน อยู่ด้วยกันอย่างพอเพียง ไม่ทะเลาะกัน มีความรักให้กันเสมอ มีความเชื่อใจกัน และที่สำคัญคือ ต้องสร้างบุญ สร้างกุศลร่วมกัน เพื่อที่ชาติหน้าจะได้เกิดมาคู่กันอีกและสมหวังในบางสิ่งที่ขาดหายไปในชาตินี้ด้วย ส่วนผลของบุญที่ทำร่วมกันและเห็นผลในชาตินี้คือ การได้ครองคู่กันมาอย่างยาวนานถึง 62 ปี และ การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงทั้งสองคน แม้วันนี้แต่ละคนจะมีโรคประจำตัวบ้าง แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นโรคที่ร้ายแรงอะไรมากนัก และยังโชคดีที่ได้เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลสมุทรสาคร หมั่นมาตรวจสุขภาพให้ตลอด

นอกจากนี้คุณตาเพิ่ม กับ คุณยายฉ่ำ ยังได้ทำพินัยกรรมสั่งเสียไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า หากคนใดคนหนึ่งเสียชีวิตลง ก็ให้ทำการสวดศพคนละ 3 คืน จากนั้นก็ให้เก็บศพคนที่เสียชีวิตก่อนเอาไว้ รอจนกว่าอีกคนจะเสียชีวิตตามไป เมื่อสวดศพคนที่สองแล้วเป็นเวลา 3 คืน ให้เป็นไปตามความเห็นชอบของผู้จัดการศพว่าสมควรจะทำพิธีเผาศพทั้งสองตายายเมื่อไหร่ ก็ให้ทำการเผาได้ แต่ก่อนเผาต้องสวดอีก 2 คืน และต้องเผาพร้อมกัน ที่เดียวกัน โดยใช้เมรุอยุธยา 2 หลัง ส่วนค่าทำศพทั้งหมด ตลอดจนรายจ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำศพ ตั้งแต่เริ่มต้นจนแล้วเสร็จทุกขั้นตอนรวมถึงเงินบริจาคที่จะมอบให้แก่วัดด้วยนั้น ทางคุณตาเพิ่มและคุณยายฉ่ำ ได้ทำหนังสือพินัยกรรมสั่งเสีย  1 ฉบับ ไว้เป็นที่เรียบร้อยอย่างรายละเอียดทุกขั้นตอนแล้ว และสำหรับเงินที่คุณตาเพิ่ม กับ คุณยายฉ่ำ สองตายายอายุ 90 ปี ที่ได้ร่วมกันตั้งใจบริจาคให้กับวัด โรงเรียนและโรงพยาบาลนั้นรวมเป็นเงินในขณะนี้ไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมวงถก สมช. แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” เลื่อนวาระงาน เพื่อร่วมประชุม สมช. แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งเลื่อนการประชุมติดตามมาตรการป้องกันปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลเป็น 11.00 น. เพื่อมาร่วมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. หารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อสรุปมาตรการตอบโต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดน โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มารอต้อนรับ ซึ่งการร่วมประชุม กับ สมช. ในวันนี้นายกรัฐมนตรี ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าและเป็นการมาร่วมประชุมกับ สมช. เป็นครั้งแรก .-316 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “เตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารจากจุดปะทะ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยวงหารือ “พลเอกเตีย เสฮา” เสนอกัมพูชาถอนทหารออกจากจุดปะทะ ออกไป 200 เมตร กลับไปอยู่จุดเดิม ฝากข้อเสนอนี้ให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชา-สมเด็จฮุนเซน พิจารณา ย้ำไทยไม่ยอมรับศาลโลก ระบุไม่อยากให้เกิดสงคราม ยันเดินหน้าประชุมเจบีซี 14 มิถุนายนนี้ วอนเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังได้หารือร่วมกับ พลเอก เตีย เสฮา (Tea Seiha) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เมื่อวานนี้ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ว่า ได้มีการหารือกันว่าจะคลี่คลายกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดในขณะนี้ โดยรัฐบาลไทยได้ยืนยันแล้ว ว่าไม่อยากเห็นสงคราม และไทยไม่ได้กังวลที่จะมีการสู้รบ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการสูญเสีย ซึ่งไม่ต้องการเห็นตรงนั้น ดังนั้นความสัมพันธ์ที่มีอยู่จึงน่าจะพูดคุยกันได้ ดังนั้นได้มีการพูดคุยกันในภาพรวม โดยสรุปตนเองก็ได้ฝากไปว่า เมื่อคุยกันแล้วและเข้าใจจุดยืนของแต่ละฝ่ายแล้ว เราอยากให้เป็นการคุยจำกัดเฉพาะที่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา พร้อมยืนยันว่าไทยไม่ได้เข้าศาลโลก เพราะตั้งแต่ปี 2503 มา จนกระทั่งปี 2567 นายเศรษฐา ทวีศิลป์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 40% ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับมีร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 7-11 มิ.ย. 68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นสูง […]

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย