กรุงเทพฯ 13 ก.พ.- จีพีเอสซีเล็งขยายการลงทุนผลิตไฟฟ้ารับการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี ในขณะที่ไทยออยล์ รักษาความเป็นผู้นำระดับ Gold Class ต่อเนื่องเป็นปีที่ห้า ในด้านความยั่งยืนของอุตสาหรรมการกลั่นและการตลาดน้ำมันและก๊าซ
นายเติมชัย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่าทิศทาง ปี 2561 บริษัทฯ ยังคงกำหนดเป้าหมายการขับเคลื่อนธุรกิจที่จะมีการเติบโตในพื้นที่มาบตาพุด จ.ระยอง ทั้งในด้านปริมาณกำลังการผลิต และจำนวนลูกค้า ที่จะมีอัตราการขยายตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะการใช้ไฟฟ้า และไอน้ำ ที่เกิดขึ้นจากการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งกลุ่ม ปตท. มีแผนการขยายการลงทุน และ GPSC ในฐานะเป็นแกนนำด้านพลังงานไฟฟ้าและสาธารณูปโภค มีความพร้อมที่จะลงทุนในด้านการผลิต และพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System: ESS) การพัฒนาโครงการ Smart Grid ร่วมกับพันธมิตร เพื่อมารองรับโครงการต่างๆ ของปตท. และขยายไปยังกลุ่มลูกค้าอื่นในพื้นที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 19,917 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,175 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณการขายไฟฟ้าและไอน้ำเพิ่มขึ้น ทั้งจากโรงผลิตไฟฟ้าสาธารณูปการ ระยอง และโรงไฟฟ้า IRPC Clean Power ระยะที่ 2 พร้อมรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการเข้าไปถือหุ้นในโรงไฟฟ้าต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ ประกาศจ่ายปันผลปี 2560 ในอัตราหุ้นละ 1.25 บาท จากผลประกอบการครึ่งปีแรกหุ้นละ 0.45 บาท ที่จ่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2560 และสำหรับครึ่งปีหลังอีก 0.80 บาทต่อหุ้น
นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด กล่าวว่า บริษัท ได้รับการจัดอันดับโดย RobecoSAM ซึ่งเป็นผู้ทำการประเมินความยั่งยืนให้แก่ DJSI ให้ไทยออยล์เป็นผู้นำระดับ Gold Class ด้านความยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ห้าในอุตสาหกรรมการกลั่นและการตลาดน้ำมันและก๊าซของโลก ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของ RobecoSAM Sustainability Award 2018
“ในครั้งนี้ บริษัทขนาดใหญ่ของโลกกว่า 3,501 แห่ง ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในการประเมินความยั่งยืนโดย RobecoSAM โดยแบ่งการประเมินออกเป็น 60 อุตสาหกรรม โดย Gold Class ถือเป็นระดับสูงสุด กล่าวคือเป็นองค์กรชั้นนำที่ให้ความสำคัญต่อการจัดการความยั่งยืน อันเป็นวิธีการหนึ่งในการสร้างมูลค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระยะยาว โดยการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งการสร้างโอกาสต่อธุรกิจภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม”นายอธิคม กล่าว.- สำนักข่าวไทย
