นายกฯ เน้นย้ำ ไทยมุ่งแก้ปัญหาละเมิดสิทธิเสรีภาพจริงจัง

ทำเนียบฯ  12 ก.พ.-  นายกฯ ย้ำ ไทยมุ่งหวังแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิเสรีภาพอย่างจริงจัง  คนทำผิดต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม  ระบุ ใครละเมิดกฎหมาย ทำผิดในไทย ต้องส่งตัวกลับไปลงโทษที่ประเทศต้นทาง หวังทุกประเทศจะปฏิบัติเช่นเดียวกับไทย


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานประกาศวาระแห่งชาติ “สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน”  พร้อ,ปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า   ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ละเลยต่อการดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชน แต่ขออย่าอ้างถึงแค่รัฐธรรมนูญ ทั้งที่มีกฎหมายลูกอีกเยอะ ที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ จึงขอศึกษาให้เข้าใจ    

นายกรัฐมนตรี  รัฐมุ่งหวังในการลดปัญหา โดยกำหนดเป้าหมายและประเด็นที่ชัดเจน  โดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรมและการเมืองการปกครอง ที่ยังมีปัญหา โดยเฉพาะการเมืองกับกฎหมาย ที่ต้องสร้างสมดุลในการไปสู่ประชาธิปไตย แต่ปัญหาอย่างหนึ่งที่สำคัญ คือ ประชาชนไม่เข้าใจกฎหมาย จึงอยากให้นักสิทธิมนุษยชนช่วยสร้างความเข้าใจ โดยเฉพาะประชาชนต้องเข้าใจรัฐธรรมนูญ   และเรียนรู้กฎหมายลูก ที่เป็นแนวทางปฏิบัติให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข


“ผมเป็นไม่ได้เป็นผู้นำที่ดีที่สุด แต่ยืนยันมีความตั้งใจในการเข้ามาแก้ปัญหาประเทศ จึงขอให้ทุกคน รวมทั้ง ทูตจากประเทศต่างๆ เข้าใจ และต้องสื่อสานกันทั้ง 2 ทาง  หากพบว่าประเทศไทยมีปัญหาในเรื่องใดก็ขอให้แจ้งมา ซึ่งรัฐบาลพร้อมชี้แจงและตรวจสอบทั้งหมด แต่ที่สำคัญต้องแยกกัน ระหว่างการละเมิดกฎหมายและละเมิดสิทธิ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า  รัฐบาลนี้มุ่งดูแลประชาชนทุกกลุ่ม และขจัดอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน  รัฐบาลไม่เคยละเมิดสิทธิมนุษยชนกับใคร ตามที่มีบางกลุ่มพยายามให้ข้อมูล  ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากทำผิด  แต่สำหรับบางคน ได้ดำเนินการตามกระบวนยุติธรรมครบถ้วนแล้ว มีบทลงโทษแล้ว ยังเคลื่อนไหวอยู่ในต่างประเทศ 

“เรื่องเหล่านี้จะต้องดำเนินการอย่างไร หลายประเทศมองเป็นเรื่องภายในแต่ละประเทศ แต่ผมมองว่า ประเทศไทยเองก็มีศักดิ์ศรี มีความเป็นมนุษย์  ใครที่ละเมิดกฎหมาย และมาทำผิดในประเทศไทยก็ดำเนินคดี และมีการส่งตัวกลับไปตามกฎหมาย ไปลงโทษที่ประเทศต้นทาง ดังนั้น ทุกประเทศก็น่าจะเคารพในสิ่งเหล่านี้  อย่าให้มีความเคลื่อนไหวของคนที่ทำผิดกฎหมาย  ไทยเคารพกฎหมายของประเทศอื่น ดังนั้น ประเทศอื่นก็ควรเคารพกฎหมายประเทศไทยด้วยเช่นกัน ถึงจะเรียกว่านั่น คือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของไทย” นายกรัฐมนตรี กล่าว 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการของสมาคมเครือข่ายโกลบอล คอมแพ็ก ประเทศไทย ซึ่งเป็นการรวมตัวของภาคเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน  และกล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้ยังขาดความเข้าใจในเรื่องของสิทธิมนุษยชน  ความจริงแล้วสิทธิมนุษยชนต้องไม่ละเมิดกฎหมาย และต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่สังคมที่ปรองดอง แต่ขณะนี้ประเทศไทยมี 2 คน ขยับอยู่ต่างประเทศ แต่กลับทำให้คนป่วนไปหมดในประเทศ  ส่วนตัวจึงไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้เยี่ยมชมเกมส์ SIM Democracy ซึ่งเป็นเกมส์เมืองประชาธิปไตย ให้ผู้เล่นทอยลูกเต๋า เปิดการ์ด แล้วให้แก้ปัญหาในเรื่องของสิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตย  ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอให้มีการตั้งกติกาที่จะต้องลดความขัดแย้งและมีธรรมาภิบาลในสังคมด้วย  และกล่าวว่า หากใครทำผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกัน ได้กล่าวย้ำอีกครั้งว่า “ขยับทีเป็นข่าวไปหมดเดือดร้อนคนทั้งประเทศ”  .- สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน