มหาวิทยาลัยมหิดล 9 ธ.ค. –ประธาน ป.ป.ช. ระบุ การกำหนดคุณสมบัติกรรมกา ป.ป.ช.ขึ้นอยู่กับกรธ. ขณะเดียวกันเชื่อหากดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ชาติในอนาคตการทุจริตจะหมดไป ไม่จำเป็นต้องมีป.ป.ช.
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่ป.ป.ช.ยังไม่แถลงสรุปผลการตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในปี 2559 ว่า ได้มอบหมายให้เลขาธิการป.ป.ช.แถลงชี้แจง เพราะมีการทักท้วงว่าการสอบสวนของป.ป.ช.เป็นกระบวนการสอบสวนเบื้องต้น ซึ่งต้องส่งให้อัยการและศาลดำเนินการ หากชี้มูลไปแล้วสังคมจะไม่เข้าใจ อาจทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบ จากนี้ไปป.ป.ช.จะระมัดระวังการให้ข้อมูล เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนตัวเลขความเสียหายจากการทุจริตในแต่ละปี มีการสำรวจและประเมินความเสียหายยอดรวม 3 ปีกว่าแสนล้านบาท
ประธานป.ป.ช. กล่าวว่า ผู้ประกอบการต้องจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่รัฐ ร้อยละ 10-35 แต่สถานการณ์ในปี 2558 ลดลงเหลือไม่เกินร้อยละ 15 คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่าแสนล้านบาท ทั้งนี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์การคอรัปชั่นดีขึ้น สอดคล้องกับการที่รัฐบาลเห็นชอบยุทธศาสตร์ชาติการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช. ตระหนักว่าแม้สถานการณ์ทุจริตจะดีขึ้น แต่ประชาชนก็คาดหวังประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายที่มีความเป็นธรรมและเป็นไปด้วยความรวดเร็ว โดยจะเร่งกระบวนการทำงานของ ป.ป.ช.ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว
“คาดการณ์ว่าในอนาคตจะมีคดีทุจริตคอรัปชั่นมากขึ้น เพราะประชาชนกล้าที่จะร้องเรียนมากขึ้น จากความเชื่อมั่นในการทำงานของหน่วยงานรัฐ เมื่อพบเห็นก็จะร้องเรียนและแจ้งให้ตรวจสอบมากขึ้น โดยภายใน 3-5 ปี ถ้า ป.ป.ช.ทำงานมีประสิทธิภาพ คดีจะลดลง เนื่องจากคนจะเกรงกลัวไม่กล้าทำความผิด ซึ่งถือเป็นความท้าทาย ขณะเดียวกันหากสามารถดำเนินการตามแผนการแก้ไขปัญหาการทุจริตตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาล เชื่อว่าการทุจริตจะหมดไปและไม่จำเป็นต้องมีหน่วยงานป.ป.ช. อีก” พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว
พล.ต.อ.วัชรพล ยังกล่าวถึงคุณสมบัติของกรรมการ ป.ป.ช.ว่า เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. ที่ให้มีวาระการดำรงตำแหน่ง 7 ปี ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลบังคับ กรรมการชุดเดิมก็ยังคงทำหน้าที่ต่อจนครบวาระ จนกว่ากฎหมายลูกจะมีผลบังคับใช้.-สำนักข่าวไทย