กาญจนบุรี 9 ก.พ. – คดีหวยอลเวง 30 ล้าน แม้ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าใครคือเจ้าของลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 กันแน่ ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตตำรวจเกษียณอายุราชการ กับนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ แต่ว่ามีคลิปเสียงปริศนาถูกปล่อยออกมา
คลิปเสียงนี้มีความยาว 38 วินาที เป็นบทสนทนาระหว่างหญิงและชาย
เสียงผู้หญิงถามระบุตัวเลขว่าตัวเลขข้างหน้า 726 มันตรงไหม
เสียงผู้ชายบอกว่าไม่ตรง แต่เป็นเลข 337
หากนำไปเปรียบเทียบกับตัวเลขลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ที่มีตัวเลข 533726 ก็จะพบว่า เลขสามตัวหลัง 726 ตรงกัน แต่เลขหน้าที่พูดคุยในคลิปคือ 337 ไม่ตรงกับเลขหน้าของลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีเสียงผู้หญิงพูดอีกว่า “นึกว่าถูกรางวัลที่หนึ่ง”
หลังคลิปนี้ถูกปล่อยออกมาก็มีการตั้งข้อสังเกตว่าเสียงในคลิปคล้ายสำเนียงคนท้องถิ่นกาญจนบุรี และมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเสียงในคลิปเป็นใคร จะเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่
หลังจากมีคลิปเสียงออกมา ทีมข่าวไปที่โรงเรียน พบครูปรีชา บอกว่าได้ยินเสียงในคลิปแล้วรู้สึกเฉยๆ และไม่ขอแสดงความเห็นใดๆ หากใครมีหลักฐานอะไรขอให้นำไปแสดงกันในศาล ให้ศาลเป็นผู้พิจารณาตัดสิน จากนี้จะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น เพราะการนำเอาหลักฐานมาโต้กันผ่านสื่อเช่นนี้จะยิ่งสร้างความสับสนให้กับสังคม ส่วนตัวไม่กังวล เพราะยังเชื่อในความเป็นจริงและความบริสุทธิ์ของตนเอง
ทีมข่าวยังไปตามหานางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น แม่ค้าที่ขายลอตเตอรี่ให้กับครูปรีชา ที่แผงขายหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขากาญจนบุรี แต่ไม่พบ จึงไปหาที่บ้านพัก พบรถจักรยานยนต์จอดอยู่ 1 คัน และรถเข็นสาลี่ที่ใช้สำหรับขายขนมบ้าบิ่น อีก 1 คัน โดยมีบุตรชายของนางรัตนาพร ออกมาบอกว่า แม่ไปนอนค้างบ้านญาติตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และปิดประตูบ้านทันที อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลว่านางรัตนาพร หายตัวไปแล้ว 3 วัน
ด้านนายสิทธา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันนี้ (9 ก.พ.) ทีมทนายความพร้อม ร.ต.ท.จรูญ จะเข้าพบผู้บังคับการกองปราบปราม เพื่อมอบพยานหลักฐาน 2 ส่วนเพิ่มเติม คือ พยานบุคคลอีก 2 ปาก หนึ่งในนั้นเป็นคนใกล้ชิดครูปรีชา มั่นใจสามารถหักล้างพยานบุคคลทั้ง 40 ปากของครูปรีชาได้ อีกส่วนคือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถยืนยันได้ว่าใครพูดความจริง ส่วนคลิปเสียงที่มีการเผยแพร่ หากตำรวจมีคลิปน่าจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และทราบว่าตำรวจสามารถกู้ได้จากโทรศัพท์มือถือ
ด้าน พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปราม เผยล่าสุดมีหนังสือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้โอนคดีดังกล่าวจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 มาที่กองปราบปรามแล้ว โดยจะไปรับสำนวนการสอบสวน และนำมาตรวจสอบกับคำให้การของพยานทั้ง 40 ปาก ว่า ข้อมูลที่ชุดสืบสวนของกองปราบปรามลงพื้นที่สืบสวน ตรงกับคำให้การของพยานทั้งหมดหรือไม่ ส่วนจะเรียกสอบพยานทั้ง 40 ปากใหม่หรือไม่ ต้องรอความชัดเจนจากสำนวนทั้งหมดก่อน. – สำนักข่าวไทย