ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า “ท้อ” หากถูกสังคมกดดันอาจลาออก

กรุงเทพฯ 9 ก.พ.- ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า พร้อมพิจารณาลาออกจากราชการ หากถูกสังคมกดดันจนไม่มีที่ยืน ขณะเดียวกันยืนยันไม่ได้มีอำนาจอนุมัติให้เข้าพื้นที่ แค่ให้คำแนะนำเท่านั้น


น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เปิดเผยก่อนเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน กับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ในคดีการลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี โดยยืนยันว่าไม่ทราบประเด็นที่พนักงานสอบสวนต้องการข้อมูล ซึ่งจะเข้าให้ข้อมูลไปตามข้อเท็จจริงที่ทราบ โดยกรณีการเข้าพื้นที่ของนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวก เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ได้รับการประสานจากนายนพดล พฤกษะวรรณ ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการในกรมอุทยานฯ ว่ามีคนรู้จักจะขออนุญาตเข้าพื้นที่ไปศึกษาธรรมชาติ ซึ่งได้อธิบายไปว่าอำนาจหน้าที่ไม่ได้อยู่ในส่วนของตนรับผิดชอบแล้ว ต้องเป็นของพื้นที่บ้านโป่งเป็นผู้อนุญาต จึงได้ให้ข้อแนะนำเบอร์โทรศัพท์ในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ และได้โทรศัพท์ไปบอกกับเจ้าหน้าที่บ้านโป่งว่าจะมีคนติดต่อเข้าไปขออนุญาต หลังจากนั้นก็ได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับนายนพดลอีก 2 ครั้ง ครั้งแรกติดต่อไปแต่ไม่สามารถติดต่อได้ และครั้งสุดท้ายคือหลังจากที่ติดต่อกับนายนพดลได้แล้ว ทั้งนี้ยังยืนยันว่าไม่รู้จักกับนายนพดลหรือนายเปรมชัย เป็นการส่วนตัว รวมถึงนายวิเชียรที่เป็นหัวหน้าชุดจับกุม ก็รู้จักกันเพียงผิวเผิน นอกจากนี้ตนยังไม่เคยเห็นหนังสือขออนุญาตเข้าพื้นที่ และการออกหนังสือนุญาต ก็ต้องยื่นกับพื้นที่บ้านโป่ง ไม่ได้ส่งมาให้ตนอนุมัติแต่อย่างใด 

น.ส.กาญจนา ยอมรับว่ารู้สึกท้อแท้กับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าการที่เป็นคนแนะนำเรื่องการประสานงานจนนำไปสู่การลักลอบล่าสัตว์ป่า จะทำให้เกิดเหตุสลดใจขึ้น ไม่คิดว่ายังมีคนประเภทนี้อยู่ในสังคม และยังถูกสังคมมองว่าตนเองเป็นผู้ให้การสนับสนุน และหากสุดท้ายไม่มีที่ยืนในสังคมก็อาจพิจารณาลาออกจากตำแหน่ง ก่อนเกษียนอายุราชการที่เหลืออีกเพียง 1 ปี


ภายหลัง น.ส.กาญจนา เข้าให้ปากคำเสร็จสิ้นได้ออกมาเปิดเผยอีกครั้งว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำในเรื่องของลำดับช่วงเวลาการโทรศัพท์ประสานให้นายเปรมชัย กรรณสูตร และพวก เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ยืนยันว่าเป็นการแนะนำให้ทำตามขั้นตอน ซึ่งตนไม่มีอำนาจโดยตรงในการอนุญาตให้เข้าพื้นที่ แต่ให้ประสานกับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ขอเข้าพื้นที่ 

ทั้งนี้ในส่วนการขอเข้าพื้นที่ป่าของนายเจษฎาภรณ์ ผลดี หรือติ๊ก และนายเปรมชัย มาเปรียบเทียบกันนั้น ชี้เป็นการเข้าพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตเหมือนกัน ซึ่งในกรณีนายเจษฎาภรณ์ เป็นการร้องทุกข์กล่าวโทษ เข้าไปในพื้นที่ป่าที่ห้ามเข้า ส่วนนายเปรมชัยเป็นการเข้าพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต และมีความผิดเพิ่มเติมคือล่าสัตว์ป่า ทำให้ต้องถูกดำเนินคดี และภายหลังที่นายเปรมชัยถูกจับกุม และมีการเจรจาต่อรองตามคลิปเสียง ชุดจับกุมไม่ได้รายงานมาที่ตนแต่อย่างใด .-สำนักข่าวไทย


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

นายกฯไปสกล

นายกฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำบึงหนองหาร

นายกฯ ลงพื้นที่ สกลนคร-นครพนม ก่อนประชุม ครม.สัญจร ติดตามสถานการณ์น้ำบึงหนองหาร แนะหน่วยงานลิสต์ปัญหาให้ชัดเจน หลังพื้นที่สะท้อนระบบนิเวศเสื่อมโทรม บึงตื้นเขิน ขณะ ม.เกษตร ของบฯ 50 ล้านบาท ตั้งศูนย์ Wellness Center ภาคอีสาน ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ได้เบาะแสเพิ่ม โจร 30 วิ ล็อกเป้าชิงทอง 1.6 ล้าน

เหตุคนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนปลอม ชิงทองมูลค่า 1.6 ล้าน กลางห้างอุดรฯ ชุดสืบยังเร่งแกะรอยล่า ยืนยันได้วงจรปิดเส้นทางมาชิงทองและเส้นทางหนีแล้ว มั่นใจคนร้ายล็อกเป้ามาชิงทองร้านนี้ร้านเดียว

ป่วนใต้

คนร้ายซุ่มโจมตี ยะลา-ปัตตานี อส.ดับ 2 เจ็บ 1

คนร้ายซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ อส. ต่อเนื่อง 2 จุด ในพื้นที่ยะลาและปัตตานี เจ้าหน้าที่ อส. เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 1 นาย พร้อมวางเพลิงเผารถยนต์และยิงถล่มฐานปฏิบัติการอย่างอุกอาจ

กกต.สรุปเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 นครศรีฯ

กกต.สรุปการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 นครศรีธรรมราช “ก้องเกียรติ” กล้าธรรม คว้าชัย 38,680 คะแนน มีผู้มาใช้สิทธิ 69.45% บัตรเสีย 1,088 ใบ กกต.ลุยสอบเรื่องร้องเรียน หากไม่พบทุจริต ประกาศรับรองใน 60 วัน