กรมศิลปากรเดินหน้าทวงคืนโบราณวัตถุ

กทม. 8 ก.พ. – การประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทยในวันนี้ มีการเปิดข้อมูลใหม่ว่า กรมศิลปากรพบองค์ประกอบโบราณสถานของไทยอีก 5 ชิ้น ในพิพิธภัณฑ์ที่สหรัฐ ขณะที่ทางการสหรัฐอายัดทับหลัง 2 ชิ้น ที่ไทยได้ทวงคืนมาก่อนหน้านี้แล้ว รอเพียงการประสานและตรวจสอบเอกสาร


ภาพถ่ายเสาติดผนังแสดงรูปสตรี ทำจากหินทราย ศิลปะร่วมสมัยช่วงพุทธศตวรรษที่ 17 ถูกพบนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์นอร์ตัน ไซมอน สหรัฐ เป็น 1 ใน 5 ชิ้นที่เป็นองค์ประกอบโบราณสถานของไทยที่กรมศิลปากรค้นพบและยืนยันล่าสุด โดยเสาติดผนังชิ้นนี้มีหลักฐานภาพถ่ายที่ปรากฏรายงานการสำรวจและขุดแต่งโบราณวัตถุสถานในภาคอีสานของกรมฯ เมื่อเกือบ 60 ปีก่อน โดยพบเสาติดผนังนี้อยู่ที่ปราสาทพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ กรมศิลปากรนำภาพถ่ายที่พบที่พิพิธภัณฑ์เชื่อมต่อกับภาพช่องว่างของเสาจริงที่ปราสาทพนมรุ้ง โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์พบว่าเข้ากันได้พอดี       


จากผลการศึกษาทำให้ไทยมั่นใจว่าเป็นโบราณวัตถุที่ถูกลักลอบนำออกนอกประเทศ เช่น เดียวกับอีก 4 ชิ้น ที่พบในพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย เมืองซานฟรานซิสโก คือ เสาติดผนังปราสาทพนมรุ้ง ฝั่งประตูทางเข้าทิศเหนือของปราสาทประธาน ทับหลังสลักภาพเรื่องรามายณะ เหนือกรอบประตู ด้านทิศใต้ของปราสาทพนมรุ้ง เมื่อทดลองตามโปรแกรมพบว่าขนาดพอดีกัน ประติมากรรมรูปม้าที่มีหลักฐานภาพถ่ายเก่าในหนังสือ ปราสาทเขาพนมรุ้ง ตีพิมพ์เมื่อปี 2531 และทับหลังแสดงภาพรูปบุคคลเหนือแนวหงส์ ที่มีหลักฐานพบว่าทับหลังเป็นลวดลายเดียวกันกับที่พบที่ปราสาทหินพิมาย จ.นครราชสีมา 


อธิบดีกรมศิลปากรให้ข้อมูลว่า เตรียมทำหนังสือผ่านกระทรวงต่างประเทศไปยังสำนักสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ เพื่อยืนยันหลักฐานต่างๆ และติดตามทวงคืนจากอีก 2 พิพิธภัณฑ์ที่พบล่าสุด นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมกลุ่มประโคนชัยอีก 18 รายการ ที่จะทำหนังสือทวงคืน และมีหญิงชาวอเมริกันประสงค์จะคืนโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ให้ไทยอีก 13 รายการ

มีข้อมูลด้วยว่า ทางการสหรัฐยังขอให้ไทยรับคืนโบราณวัตถุอีก 69 รายการ ที่ส่วนใหญ่เป็นประติมากรรมกลุ่มสำริด และเครื่องดินเผายุคบ้านเชียงเพิ่มเติมอีกด้วย การลักลอบค้าโบราณวัตถุ เกิดขึ้นมากในอดีตและการติดตามทวงคืนในปัจจุบันกำลังใช้ความพยายามหลายวิธี ทั้งการใช้เอกสารทางวิชาการยืนยันแหล่งกำเนิด และกฎหมายคุ้มครองโบราณสถาน โบราณวัตถุ ที่ห้ามการขนย้ายโบราณวัตุออกนอกประเทศ ซึ่งต่างประเทศให้ความสำคัญกับกฎหมายนี้

การประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ในวันนี้ยังมีการรายงานความคืบหน้ากรณีทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นทับหลังที่มีการส่งหนังสือทางการไปชุดแรกเพื่อขอทวงคืนจากสหรัฐ  มีข้อมูลว่า ขณะนี้ทับหลังทั้งสองไม่ได้ถูกนำมาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์แล้ว และมีสถานะถูกยึดอายัดไว้ ความล่าช้าส่วนหนึ่งมาจากเอกสารในการติดตามทวงคืนที่ไม่ได้แปลเป็นภาษาอังกฤษส่งให้กระทรวงการต่างประเทศเพื่อส่งต่อให้ทางการสหรัฐ เพิ่งจะมีฉบับแปลลงนามเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 ขั้นตอนต่อจากนี้ เมื่อสหรัฐได้รับเอกสารทางการของไทยแล้วก็จะดำเนินเรื่องส่งคืนทับหลังทั้งสองชิ้นให้ไทยในอนาคต แต่ไม่ชัดเจนว่านานแค่ไหน. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว