บีซีพีจี ร่วมพัฒนานิคม Smart Park ระยอง

กรุงเทพฯ 7 ก.พ. – บีซีพีจีร่วมขับเคลื่อน EEC สู่ Thailand 4.0 สร้าง New Energy Economy ในนิคมฯ Smart Park จ.ระยอง


วันนี้ (7 ก.พ.2561) บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) จับมือพันธมิตร 6 หน่วยงาน ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่  บีซีพีจี กล่าวว่า บริษัทได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่  EEC : นิคมอุตสาหกรรม Smart Park กับ กนอ.  โดยใช้พลังงานสะอาดมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Development) และเป็นอุตสาหกรรมที่อยู่ในกลุ่ม New S-Curve โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงหรือมีนวัตกรรมในการต่อยอด  โดยจะนำนวัตกรรมระดับโลกในธุรกิจพลังงานสะอาดมาใช้ในการสร้าง New Energy Economy ใน Smart Park นอกเหนือไปจากการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปและซื้อขายไฟฟ้าผ่านอินเทอร์เน็ต ด้วยการพัฒนาระบบการบริหารจัดการพลังงาน (Demand Side Management) และระบบสาธารณูปโภคอื่น ๆ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด


“บีซีพีจีจะศึกษาและพัฒนาการบริหารจัดการความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าจากเทคโนโลยีพลังงานสะอาด สร้างนวัตกรรมพลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) ด้วยเทคโนโลยี Blockchain ที่ทันสมัยและเหมาะสม รวมทั้งการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาและบริหารจัดการระบบสาธารณูปโภคอื่น ๆ เพื่อการประหยัดพลังงานและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพให้สอดคล้องกับพื้นที่และสภาพแวดล้อมของโครงการฯ และจะใช้โครงการดังกล่าวเป็นต้นแบบในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต” นายบัณฑิตกล่าว

สำหรับความร่วมมือครั้งนี้เป็นไปตามแผนขยายธุรกิจ 3 ปีของบริษัท ซึ่งจะลงทุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศ  ซึ่งปี 2561 บริษัทฯ มีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าอีก 200 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 600 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2560 โดยวางแผนไว้ว่า170 เมกะวัตต์จะมาจากธุรกิจ Wholesale ทั้งในและต่างประเทศ ส่วนอีก 30 เมกะวัตต์ จะมาจากกำลังการผลิตไฟฟ้าในส่วนที่เป็น Retail ผ่านธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปในประเทศในรูปแบบต่าง ๆ

ทั้งนี้ โครงการนิคมอุตสาหกรรม Smart Park ตั้งอยู่บริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง เป็นส่วนหนึ่งของนิคมอุตสาหกรรมาบตาพุด จังหวัดระยอง พื้นที่ประมาณ 1,466 ไร่ เป็นนิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ.ดำเนินการเอง  พิจารณาการลงทุน 4 กลุ่มอุตสาหกรรมใน New S-Curve ที่สามารถต่อยอดจากแหล่งวัตถุดิบเม็ดพลาสติกซึ่งเป็นวัตถุดิบแหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศที่อยู่ในพื้นที่มาบตาพุดเชื่อมโยงระหว่างกันเหมาะสมกับพื้นที่และชุมชน ได้แก่ 1. อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ (Robotics) 2. อุตสาหกรรมการบิน อวกาศและโลจิสติกส์ (Aerospace and Logistics) 3. อุตสาหกรรมดิจิทัล (Digital) 4. อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub). – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง