สนพ.ยืนยันภาคใต้ต้องมีโรงไฟฟ้าหลัก

กรุงเทพฯ 7 ก.พ.-สนพ.ระบุมีความจำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าหลักในภาคใต้เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ขณะที่เกาะกง ยูติลิตี้ พร้อมส่งไฟจากกัมพูชามาให้ภาคใต้


ในการเสวนาเรื่อง “ผ่าทางตัน:โรงไฟฟ้าถ่านหิน” จัดโดยชมรมคอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์ไทย   นายทวารัฐ สูตบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ย้ำว่า ระบบไฟฟ้าภาคใต้ยังมีความเสี่ยง ยังต้องการโรงไฟฟ้าหลักเพิ่ม เพราะการเชื่อมสายส่งไฟฟ้าเพื่อส่งไฟฟ้าลงไปจากภาคกลางไปสู่ภาคใต้นั้น สามารถส่งไฟฟ้าได้ไม่เกิน 650 เมกะวัตต์เท่านั้น และอาจส่งได้ลดลงหากเกิดภาวะฝนฟ้าคะนอง ขณะที่ภาคใต้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าถึงวันละ 2,600 เมกะวัตต์ในช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยวในเดือนมีนาคมของทุกปีช่วงกลางคืน ซึ่งช่วงความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดหรือ พีค ต่างจากภาคกลางกรุงเทพที่ความต้องการใช้พีคในช่วงกลางวัน โดยบ้านเรือนใช้ไฟฟ้าร้อยละ 32 ท่องเที่ยวร้อยละ 36 โรงงานร้อยละ 27  และส่วนอื่น ๆ ใช้ไฟฟ้าร้อยละ 5 ดังนั้นภาคใต้ จึงมีความจำเป็นต้องมีโรงไฟฟ้าหลักเพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว  ฉะนั้น จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาการสร้างโรงไฟฟ้าหลักต่อไป โดยพิจารณา ทั้งเชื้อเพลิงและสถานที่ 

นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน กล่าวว่า ในปัจจุบันและในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ยังไม่มีความจำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าในภาคใต้ แต่ภาคใต้เศรษฐกิจเติบโตสูงกว่าภาคอื่น ส่งผลให้ความต้องการกระแสไฟฟ้าสูงกว่าภาคอื่นๆ ไปด้วย โดยความต้องการใช้ไฟฟ้าโตประมาณร้อยละ  5 ต่อปี ส่งผลให้ในอีก 5 ปีข้างหน้า ความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้จากที่ปัจจุบันมีความต้องการวันละ 2,500-2,600 เมกะวัตต์ต่อวัน จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 500 เมกกะวัตต์ต่อวัน ส่งผลให้กำลังผลิตที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ซึ่งอาจส่งไฟฟ้าจากภาคกลางลงไปเสริมหรือซื้อไฟฟ้าจากประเทศมาเลเซียเข้ามาเสริมเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ภาคใต้จึงเกิดภาวะไม่มีเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าเกิดขึ้น และทำให้มีจำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าในภาคใต้ที่ต้องศึกษาความเหมาะสมต่อไป 


ด้านปริมาณสำรองไฟฟ้าของประเทศไทย โดยภาพรวมมีเพียงพอ โดยพิจารณาจากความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 28,000 เมกะวัตต์ ขณะที่ปริมาณสำรองไฟฟ้าของประเทศ มีสูงกว่าคิดเป็นร้อยละ 30 สาเหตุที่ปริมาณสำรองไฟฟ้ามีอยู่สูง เนื่องจากได้วางแผนการผลิตไฟฟ้าไว้ตามคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจที่จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ว่าเศรษฐกิจโตร้อยละ 3.4 -4.1 แต่ 10 ปีที่ผ่านมาการเติบโตจริงน้อยกว่าคาดการณ์บางปีโตร้อยละ 2 หรือร้อยละ 1 บางปีโตเศรษฐกิจไทยโตไม่ถึงร้อยละ 1  อย่างไรก็ตาม ปริมาณสำรองไฟฟ้าที่สูงร้อยละ 30 เป็นปริมาณสำรองที่ผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งหากมีปัญหาติดขัดในเรื่องแหล่งก๊าซ ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ก็จะทำให้สูญเสียกำลังผลิตสำรองไฟฟ้าทันที ที่สำคัญกำลังการผลิตไฟฟ้าจะต้องเป็นกำลังการผลิตที่พึ่งพาได้ในเชิงเศรษฐศาสตร์ และไม่แพงเกินไป

ปัจจุบัน โรงไฟฟ้าในภาคใต้ 2,160 เมกะวัตต์ ไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดที่อยู่ที่ 2,500 เมกะวัตต์ต่อวัน ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้ยังขาดอยู่ทำให้ปัจจุบันต้องส่งจากภาคกลางไปช่วยอีก 460 เมกะวัตต์ต่อวัน เมื่อรวมกันจะทำให้มีกำลังไฟฟ้ารวม 2,600 เมกะวัตต์ จึงเพียงพอในช่วงที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดหรือช่วงพีคของภาคใต้

 นายธีรพจน์ กษิรวัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเกาะลันตา กล่าวว่า การศึกษาโรงไฟฟ้ากระบี่ ยังไม่ตอบโจทย์การพัฒนาของจังหวัดกระบี่และการท่องเที่ยวฝั่งทะเลอันดามัน ที่ผ่านมาการศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างโรงไฟฟ้าที่กระบี่ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ใช้ข้อมูลเท็จมานำเสนอในรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และไม่มีการศึกษาข้อมูลทางเศรษฐกิจทางประมง หากได้รับผลกระทบจะกระทบในวงกว้าง และหากมีการจะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขึ้นที่กระบี่จริง เชื่อว่าอาจซ้ำรอยกับโรงไฟฟ้าถ่านหินที่แม่เมาะ และการเก็บข้อมูลปัจจุบันไม่มีการเก็บตัวอย่างเลือดประชาชนในพื้นที่ ดังนั้นต้องศึกษาให้ครบถ้วนรอบด้าน ปัจจุบันมีการแยกการศึกษาการก่อสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่กับท่าเรือออกจากกัน ทำให้ไม่ต้องทำการศึกษาผลกระทบด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพหรือ EHIA ขณะเดียวกันพื้นที่ที่จะสร้างโรงไฟฟ้าที่กระบี่ ปรากฎว่า มีค้างคาวแม่ไก่อยู่ แสดงถึงความอุดมสมบรูณ์ของพื้นที่ ขณะที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนจังหวัดกระบี่เป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ


นายบรรพต แสงเขียว ประธานบริษัท เกาะกง ยูติลิตี้ จำกัด  กล่าวว่า บริษัทในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้า พร้อมเป็นทางเลือกที่จะช่วยแก้ปัญหาความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ เพราะบริษัทมีโครงการที่จะลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเกาะกง ขนาดกำลังการผลิต 4,000 เมกะวัตต์ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา จึงพร้อมที่จะส่งไฟฟ้ามายังภาคใต้ ระยะทาง 1,150 กิโลเมตรที่อำเภอหลังสวน จ.ชุมพร โดยจะขายไฟฟ้าให้ กฟผ.ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะ 30-35 ปี ที่ราคาเฉลี่ย 2.67-2.86 บาทต่อหน่วย  โดยบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างสายส่งและโอนกรรมสิทธิ์ให้ กฟผ.โดยขอใช้สิทธิ์ในสายส่งเป็นเวลา 30-35 ปี  สำหรับแผนการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าเกาะกง แบ่งเป็น 4 ระยะคือ ระยะแรกกำลังการผลิต 1,000 เมกะวัตต์ ประมาณปี 2567 และโรงไฟฟ้าเกาะกง ระยะที่ 2-4 ประมาณปีพ.ศ. 2568 ปี 2569 และปี พ.ศ.2570 ตามลำดับ โครงการนี้ การลงทุนและถือหุ้นใหญ่โดยรัฐวิสาหกิจจีน รวมทั้งเงินทุน และเทคโนโลยี ดังนั้นจากความสัมพันธ์การเมืองที่พัฒนาของกลุ่มประเทศอาเซียนและข้อตกลงต่าง ๆ ทำให้ไม่น่าจะมีกระทบจากการเมืองต่อการส่งไฟฟ้ามายังภาคใต้ของประเทศไทย- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

18 ส.ค. – ปมร้อน “หลวงพ่ออลงกต” ขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดทางให้ตรวจสอบวัด ล่าสุด “หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออก ขอเวลาจัดการทุกเรื่อง คาด 1 เดือนชัดเจน วันนี้ (18 ส.ค.) มีกระแสข่าวว่า “พระราชวิสุทธิประชานาถ” หรือ “หลวงพ่ออลงกต” ประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อรับผิดชอบต่อสถานการณ์และเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินไปอย่างโปร่งใส ขณะที่ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กำลังติดตามข่าวดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับหนังสือขอลาออกอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเกิดความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ส่วนเหตุผลที่หลวงพ่ออลงกตลาออก คาดว่าเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ พศ.แจ้งวัดหักลดหย่อนเงินบริจาคต้องผ่านระบบ e-Donation ผอ.พศ. ยังกล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมสรรพากรทำหนังสือแจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แจ้งว่ากำหนดให้การบริจาคให้แก่วัด มูลนิธิ สมาคม กองทุน และองค์การต่างๆ ซึ่งผู้บริจาคได้รับสิทธิหักลดหย่อนเงินบริจาค ต้องใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรเท่านั้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 […]

“ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย ลั่นไม่เคยพูดยุบ ศบ.ทก.

ทำเนียบ 18 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย​ ต้องรอผลประชุม​ RBC​-GBC มอบตำรวจภูธร​ภาค​ 3 รับเรื่องร้องทุกข์​ประชาชน-​ราชการ​ ส่งอัยการสั่งฟ้องแพ่ง​-อาญา​ “กัมพูชา” ส่วนฟ้อง “ฮุนเซน​” หรือ​ “ฮุน​ มาเนต​” ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย​ ไม่ตอบจัดการเครือข่ายนักการเมืองในไทย​ ชี้​หากทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเปิดเผย​ ลั่น​ไม่เคยพูดสักคำ​ ยุบ ศบ.ทก. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชายังต้องเฝ้าระวัง จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการเจรจาเขตแดนทั้งหลายยังไม่จบง่ายๆ และยังรอการประชุม ตามกรอบต่างๆ ซึ่งการประชุม RBC จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 25-27 สิงหาคมนี้ ขณะที่วันที่ 8-10 กันยายนจะเป็นการประชุม GBC ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยราชการติดตามข่าวสาร และประสานงานกันอย่างมีเอกภาพ โดยเฉพาะในเรื่องข่าวสารที่สร้างความสับสนและความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมยอมรับว่าขณะนี้มีกระบวนการไอโอ จึงขอช่วยกัน อย่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลยึดผลประโยชน์ประเทศชาติอธิปไตยของประเทศทรัพย์สินและชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ขณะเดียวกันที่ประชุม สมช.ยังมีการพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการคุกคามอธิปไตยของไทย […]

ทบ.แจงบ้านหนองจานอยู่ในเขตไทย เดิมเป็นที่ลี้ภัยชาวเขมร

กองทัพบก 18 ส.ค.- ทบ. แจงพื้นที่บ้านหนองจาน อยู่ในเขตประเทศไทย เดิมเคยเป็นที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชาลี้ภัยจากการสู้รบชั่วคราว ภายหลังพบมีการขยายชุมชน ละเมิด MOU43 แม้ฝ่ายไทยมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทยบริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณบ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่าสำหรับปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย