รัฐสภา 7 ต.ค.- สนช.รับหลักการ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เพื่อให้กฎหมายมีประสิทธิภาพและให้การยึดทรัพย์สอดคล้องกับสภาพสังคมในปัจจุบัน โดยให้การบังคับคดีครอบคลุมถึงสังหาริมทรัพย์ไม่มีรูปร่าง
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ลักษณะ 2 การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง) ตามที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า เนื่องจากบทบัญญัตินี้ตามกฎหมายเดิมได้ใช้บังคับมานาน ทำให้ไม่เหมาะสมต่อสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ใช้เป็นไปอย่างล่าช้า ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน จึงเห็นสมควรให้แก้ไขร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เพื่อให้การยึดทรัพย์สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
เป็นการกำหนดประเภทของทรัพย์ที่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี เนื่องจากประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน เป็นการบังคับคดีกับอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ ที่มีรูปร่างเท่านั้น ยังไม่ครอบคลุมถึงสังหาริมทรัพย์ไม่มีรูปร่าง ซึ่งมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาสามารถได้รับชำระหนี้อย่างเต็ม และกำหนดการใช้สิทธิของผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี รวมทั้งกำหนดให้ปรับปรุงอำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดี กรณีการบังคับคดีในหนี้กระทำการและหนี้งดเว้นกระทำการ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีบทบัญญัติที่ครบถ้วนสมบูรณ์
จากนั้น ที่ประชุม ได้มีมติรับหลักการวาระ 1 ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งวาระแรก ด้วยคะแนน 168 ต่อ 2 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 21 คน แปรญัตติ 15 วัน และกำหนดระยะเวลาดำเนินการภายใน 60 วัน.-สำนักข่าวไทย