รัฐสภา 6 ก.พ.- “มีชัย”เตรียมถกประเด็น ร่าง พ.ร.ป.สส.-สว. ขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญหรือไม่ ยังไม่ขอตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ย้ำ เลือกตั้งต้องสุจริต-เที่ยงธรรม-เป็นความลับ ให้ประชาชนรู้คุณค่าคะแนนเสียง
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการพิจารณาประเด็นที่ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ2560 ในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร ( ส.ส.) และ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งวุฒิสภา ( ส.ว.) ว่า เรื่องนี้กรธ.ต้องขอพิจารณาก่อน ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะขอตั้งกรรมาธิการร่วมหรือไม่ เพราะมีหลายประเด็นที่อาจมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ในทางปฏิบัติ อาทิ การขยายเวลาการเลือกตั้งจาก 08.00 น. ถึง 16.00 น. เป็น 07.00 น. ถึง 17.00 น.ซึ่งต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังเป็นเวลายามวิกาลด้วย ส่วนสาเหตุที่ กรธ. ไม่บัญญัติให้พรรคการเมืองจัดมหรสพในการหาเสียง เนื่องจากเรื่องนี้มีการห้ามมานานมาแล้ว เพราะ ยากต่อการควบคุม รวมถึงพรรคการเมืองเกิดความได้เปรียบ-เสียเปรียบกันเยอะ และยังปิดบังค่าใช้จ่ายได้ง่าย เกิดการติดสินบนชาวบ้าน
“แต่เราผ่อนปรนให้พรรคการเมือง สามารถร้องเพลง หรือจัดลำตัดเองได้ โดยใช้ความสามารถส่วนตัว ไม่ใช้เครื่องมือ ประเด็นเหล่านี้จะต้องพิจารณาดูว่าเข้าข่ายไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยเจตนารมณ์ในร่างกฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส. นั้น กรธ. ต้องการให้การออกเสียงของประชาชนเป็นความลับ สุจริต เที่ยงธรรม และให้ประชาชนรู้คุณค่าของคะแนนเสียง สิ่งใดที่ผิดจากนี้ จะเป็นปัญหา เช่น การให้บุคคลอื่น หรือกรรมการประจำหน่วย กาบัตรให้ผู้พิการทางสายตา ก็ไม่ถือเป็นการลงคะแนนโดยลับแล้ว ส่วนการห้ามรณรงค์โหวตโน ก็เท่ากับเป็นการมัดมือมัดเท้าประชาชน เพราะถือเป็นสิทธิของประชาชน ตราบใดที่ไม่มีการใส่ร้ายผู้สมัคร”นายมีชัย กล่าว
นายมีชัย ยังกล่าวถึงขบวนพาเหรดล้อการเมือง ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ครั้งที่72 ว่า “เป็นธรรมเนียมของนิสิต-นักศึกษา ที่ล้อกันทุกปี ในอดีตก็ล้อกันชัดเจนกว่านี้มาก แสดงว่าสู้คนรุ่นเก่าไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นความคิดและความเห็นของนักศึกษาที่ควรรับฟังไว้ไม่เสียหาย อย่าไปซีเรียสจนทำให้เกิดเรื่อง ส่วนที่มีมองว่ากิจกรรมของนักศึกษาเป็นการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนนั้น ถือเป็นกิจกรรมกีฬาของนักศึกษา จึงควรแยกแยะ และอย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่”.- สำนักข่าวไทย