กรุงเทพฯ 7 ต.ค.- ประธาน ป.ป.ช. ยืนยันนามสกุล จันทร์โอชา ไม่มีผลต่อการสอบสวนคดีสร้างฝาย-ตั้งบริษัทในทัพภาค 3 ขณะที่ พล.อ.ประวิตร เหมาลำไปประชุมฮาวาย ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจตรวจสอบ
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวถึง กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม กับพวก รวม 4 คน กรณีอำนวยความสะดวกในการใช้ทรัพย์สินราชการ ให้นางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภรรยา ในฐานะนายกสมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเดินทางไปสร้างฝาย ที่ จ.เชียงใหม่ และกรณี พล.อ.ปรีชา ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ ช่วยเหลือห้างหุ้นส่วนจำกัดของบุตรชาย ให้ได้รับงานก่อสร้างในกองทัพภาคที่ 3 ว่า ป.ป.ช.อยู่ในระหว่างแสวงหาข้อเท็จจริง จะต้องรวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วน
“ยืนยันว่า แม้ผู้ถูกร้องเรียนจะนามสกุล จันทร์โอชา ก็ไม่มีผลต่อการสอบสวนใดๆ ส่วนการที่เลขาฯ ป.ป.ช. ออกมาแถลงชี้แจงการทำคดีต่างๆ เมื่อวานนี้ (7ต.ค.) ก็เพื่อให้สังคมเข้าใจว่า ป.ป.ช.กำลังทำอะไรอยู่ เพราะคดีที่ ป.ป.ช.ดำเนินการเกี่ยวข้องกับความผิดทางอาญา ดังนั้น ต้องใช้เวลาในการแสวงหาข้อเท็จจริง และไต่สวนอย่างรัดกุม” พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว
ส่วนการตรวจสอบกรณีเช่าเหมาลำเครื่องบินไปประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา ที่ มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า มีส่วนราชการที่มีอำนาจดำเนินการตรวจสอบอยู่แล้ว หากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบต่อ ก็ต้องไปดูว่าอยู่ในข่ายอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ด้วยหรือไม่ หากมีผู้มาร้องเรียนเรื่องนี้ ต่อ ป.ป.ช. ก็ต้องดูเหตุและผล เพราะอาจเป็นการก้าวล่วงหน่วยงานอื่นๆ ได้