จันทร์บุรี 5 ก.พ. – กระทรวงดิจิทัลฯ-พาณิชย์-อุตสาหกรรม จับมือสนับสนุนร้านค้าดิจิทัลชุมชน ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน
นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมผลักดันร้านค้าดิจิทัลชุมชน จากโครงการร้านค้าดิจิทัลชุมชนด้าน e-Commerce เพื่อจัดทำเป็นจุดติดตั้งระบบงานค้าปลีก ณ ที่ทำการไปรษณีย์อนุญาตเอกชนขลุง จ.จันทรบุรี เพื่อสนับสนุนให้ชุมชนสามารถใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในชุมชนผ่านการขายสินค้าและบริการท้องถิ่นในรูปแบบออนไลน์
ด้วยการอาศัยศักยภาพของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ที่มีเครือข่ายสาขาที่ทำการไปรษณีย์กระจายอยู่ทั่วประเทศประมาณ 5,000 แห่ง ด้วยการเชื่อมโยงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุมทุกหมู่บ้าน จากโครงการเน็ตประชารัฐ เพื่อใช้เป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้า ทั้งระบบร้านค้าออนไลน์ หรือที่ทำการไปรษณีย์ และผ่านแคตตาล็อก (ออฟไลน์) การพัฒนารูปแบบบรรจุหีบห่อ การกระจายสินค้า การจัดส่งสินค้าไปยังผู้ซื้อทั่วประเทศผ่านระบบงานอิเล็กทรอนิกส์ (e-Logistics) การพัฒนาระบบการรับชำระเงิน (e-Payment) รองรับการชำระเงินค่าสินค้าด้วยเงินสด บัตรประเภทต่าง ๆ ด้วยรูปแบบการชำระเงินแบบออนไลน์และการเก็บเงิน ปลายทาง หวังใช้ศูนย์ดิจิทัลชุมชนที่มีอยู่จำนวน 2,000 แห่ง เพื่อให้รายย่อยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตตั้งเป็นร้านค้าดิจิทัลนับหมื่นแห่งทั่วประเทศผ่านไปรษณีไทย
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ พร้อมสนับสนุน ร้านค้าประชารัฐรักสามัคคีทั่วประเทศ 40,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อนำสินค้าและบริการของชุมชนมาซื้อขายข้ามภูมิภาคไปยังจังหวัดอื่น ติดตั้งระบบงานค้าปลีก ( POS) สามารถบริหารสตอกสินค้า การจำหน่ายสินค้า การลงทะเบียนสมาชิก การสั่งซื้อสินค้าจากผู้ขายมาจำหน่ายให้แก่สมาชิกในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือเกิดการแลกเปลี่ยนวัตถุดิบระหว่างสมาชิก ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมส่งเสริมมาตรฐานสินค้า (มอก.S) นอกจากมาตรฐาน มพช.ของกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจ และยังส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อบูรณาการร่วมกันทั้ง 3 กระทรวงจึงต้องคัดเลือกร้านค้าประชารัฐรักษ์สามัคคี ศูนย์ดิจิทัลชุมชน ร้านค้าสหกรณ์การเกษตร ที่ทำการไปรษณีย์อนุญาต รวมถึงร้านค้าประชารัฐรักสามัคคีที่มีความเหมาะสม ที่มีพื้นที่ตั้งตามโครงการเน็ตประชารัฐ 24,700 จุด เพื่อติดตั้งระบบ POS และขยายผลการติดตั้งระบบ POS ให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน 75,030 หมู่บ้าน โดยติดตั้งในปีงบประมาณ 61 จำนวน 10,000 แห่ง.-สำนักข่าวไทย