ห่วงประชามติผ่านไปรษณีย์เจอสวมสิทธิ

กทม.11 พ.ย. – สว.พิสิษฐ์ ห่วง ประชามติผ่านไปรษณีย์เจอสวมสิทธิ รอฟัง “ไปรษณีย์” แจงระบบยืนยันตัวตน พร้อมรับได้ ปรับเกณฑ์ประชามติชั้นครึ่ง


นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอต่อแนวทางสายกลางเพื่อแก้ไขความเห็นต่างระหว่าง สว. และ สส. ต่อเกณฑ์การผ่านประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ ระหว่างการใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น และ เสียงข้างมากชั้นเดียว ว่า ในข้อเสนอให้ใช้เกณฑ์ผ่านชั้นครึ่ง คือ มีจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ และได้เสียงเห็นชอบที่เป็นเสียงข้างมากของผู้ออกมาใช้สิทธิ ซึ่งไม่มีประเด็นคะแนนที่ต้องชนะเสียงโนโหวต เป็นประเด็นที่ตนรับได้ แต่ขณะนี้ตนยังไม่ได้คุยกับ สว. ที่ร่วมเป็นกมธ. อีก 13 คน อย่างไรก็ดียังมีประเด็นที่ต้องรอการรับฟังข้อมูลประกอบ คือ การชี้แจงของบริษัทไปรษณีย์ไทยต่อความพร้อมของการออกเสียงประชามติ และระบบยืนยันตัวตน ที่ยืนยันต่อการใช้สิทธิประชามตินั้นเป็นไปตามเจตจำนงค์ของผู้มีสิทธิอย่างแท้จริง และป้องกันการสวมสิทธิโดยบุคคลอื่น

“ผมเห็นด้วยกับการทำประชามติผ่านระบบไปรษณีย์เพราะเป็นช่องทางที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และเข้าถึงได้ง่าย รวมถึงประหยัดค่าใช้ แต่ยังมีข้อกังวลถึงระบบยืนยันตัวตน ว่า คนที่มีสิทธินั้นลงคะแนนจริง หากไปรษณีย์ยืนยันว่าทำได้ไม่มีปัญหา และพร้อมใช้ การปรับบทบัญญัติให้เป็นเสียงข้างมากชั้นครึ่งผมพร้อมสนับสนุน” นายพิสิษฐ์ กล่าว


นายพิสิษฐ์ กล่าวว่าในการประชุมกมธ.ฯ วันที่ 20 พ.ย. ขณะนี้ตัวแทนของไปรษณีย์ไทยตอบรับเข้าร่วมประชุมแล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะมีข้อซักถามในรายละเอียดต่างๆ ซึ่งรวมถึงความพร้อมของระบบ การยืนยันตัวตนและการทำงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นั้น ยังไม่แน่ใจ ทั้งนี้เข้าใจว่ากกต.อยู่ระหว่างเตรียมตัวไปดูงานที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจะมีการจัดทำประชามติในระหว่างวันที่ 24-27 พ.ย. นี้ ดังนั้นในความเห็นของตนควรมีการประชุมอีก 1 นัดหลังจากนั้นเพื่อให้ กกต.เข้าชี้แจง

เมื่อถามว่ากรณีที่ตัวแทนของไปรษณีย์ไทยชี้แจงแต่พบความไม่พร้อม100% ทิศทางการพิจารณาความเห็นต่างของกมธ.จะเป็นอย่างไร นายพิสิษฐ์ กล่าวว่าในการประชุมที่ผ่านมา ฝ่าย สส. และสว. ล้วนยืนยันในหลักการแต่ละฝ่ายสนับสนุนแบบเสียงแข็ง ดังนั้นหากไม่เปลี่ยนแปลงต้องใช้การโหวตของแต่ละสภาฯ และหากมีฝ่ายหนึ่งที่ไม่รับ ต้องพักร่างกฎหมายไว้ 180 วัน และจากนั้นต้องให้ สภาฯ ยืนยัน ซึ่งเชื่อว่าจะยืนยันในหลักการเสียงข้างมากชั้นเดียว แต่หากตกลงกันได้ว่าปรับเป็นเสียงข้างมากชั้นครึ่ง จะเดินไปสู่การทำประชามติ และหากระบบไปรษณีย์พร้อม ตนมองว่าสามารถทำประชามติได้ทันที และเมื่อไรก็ได้ โดยไม่ต้องรอให้พร้อมกับการเลือกตั้งท้องถิ่น และตนมองว่าการทำประชามติผ่านไปรษณีย์เป็นความชอบธรรม ประชาชนเข้าถึงได้ และได้ใช้สิทธิได้เต็มที่

เมื่อถามว่าในความขัดแย้งในเรื่องกฎหมายประชามติจะมีผลกระทบต่อภาพใหญ่ของการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ นายพิสิษฐ์​ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวต้องรอให้เปิดสมัยประชุมและมีเรื่องเสนอต่อสภา อีกครั้ง อย่างไรก็ดีตนมองว่าในหลักการแก้รัฐธรรมนูญต้องเป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ทำประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ 3 ครั้ง คือ ครั้งแรกถามประชาชนว่าอยากให้แก้หรือไม่ ครั้งสอง คือ เมื่อมีการแก้ไขให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ และครั้งสาม เมื่อมีร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว ซึ่งหากพิจารณารายละเอียดแล้วไม่รู้จะจบภายในกี่ปี ไม่รู้ว่า สว. จะหมดวาระไปก่อนหรือไม่ .319.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

บุญทรงรายงานตัว

“บุญทรง” รายงานตัวครั้งแรกหลังได้พักโทษ

“บุญทรง” รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติครั้งแรก หลังได้รับการพักโทษจากคดีทุจริตจำนำข้าว ด้านลูกชายเผยพ่อตั้งใจบวชหลังพ้นโทษ

ชุมนุมเกาหลีใต้

นายกฯ ขอคนไทยในเกาหลีใต้ เลี่ยงพื้นที่ชุมนุม

“นายกฯ แพทองธาร” ขอคนไทยในเกาหลีใต้ ระมัดระวังหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม ติดตามข่าวสถานทูตใกล้ชิด หวังสถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว

อัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว

อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากจีนสู่ไทย

“ชูศักดิ์” นำคณะผู้แทนไทยเดินทางไปยังวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในไทยเป็นการชั่วคราว ณ ท้องสนามหลวง ระหว่าง 5 ธ.ค. 67 – 14 ก.พ. 68