มท.1 ประชุม กก.ขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมยั่งยืน

ทำเนียบฯ 30 ม.ค.-รมว.มหาดไทย ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมยั่งยืน เน้นการลงพื้นที่สร้างความรับรู้ให้ประชาชน และให้ทุกฝ่ายร่วมบูรณาการการทำงานสอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน โดยมีคณะรัฐมนตรี ตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

โดย พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อเป็นการวางกรอบแนวทางในการปฏิบัติงานตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน รวมทั้งติดตามความคืบหน้าที่ได้ดำเนินการ พร้อมให้ทุกฝ่ายบูรณาการขับเคลื่อนการทำงานในระดับพื้นที่ตามแนวทางประชารัฐ และให้การทำงานสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 รวมทั้งยุทธศาตร์การพัฒนาพื้นที่เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนและชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม


ด้านตัวแทนหน่วยงานความมั่นคง ได้ชี้แจงในที่ประชุมว่าจะร่วมกับทุกกระทรวงนำสัญญาประชาคมลงไปสู่ประชาชน โดยกระทรวงการคลังจะดำเนินการต่อเนื่องจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ครั้งนี้มีเงื่อนไขว่าใครมาแสดงตนอยากใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐต้องมารับฟังความเห็น นอกจากนี้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพร้อมสัญญาประชาคมลงไปสู่ประชาชนสร้างคุณธรรมจริยธรรม และเรื่องประชาธิปไตยไทยนิยม อย่างไรก็ตาม การทำงานโครงการไทยนิยมยั่งยืนจะดำเนินการต่อเนื่อง พร้อมทั้งบูรณาการกับทุกหน่วยงาน โดยยึดโครงการประชารัฐเป็นหลัก

ขณะที่ตัวแทนด้านกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงในที่ประชุมถึงสัญญาประชาคม และแนวทางการสร้างความปรองดอง ว่า ช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการสร้างความปรองดองได้จัดทำร่างสัญญาประชาคม นำความเห็นของกลุ่มการเมืองต่าง ๆ มาใช้เพื่อวางกรอบสัญญาประชาคม โดยรัฐบาลต้องลงไปสร้างความรับรู้เกี่ยวกับสัญญาประชาคมให้แก่ประชาชน โดยใช้กระบวนการ 3 ขั้นตอน คือ 1.บูรณาการงานกับทุกหน่วยงาน 2.ให้เจ้าหน้าที่และวิทยากรลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ 3.การขยายผลและประเมินผลเพื่อสร้างการรับรู้ต่อไป ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมจะร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย โดยใช้ผู้ว่าราชการจังหวัดขับเคลื่อนการรับรู้และการจัดทำร่างชุดความรู้เพื่อใช้ในการลงพื้นที่ต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง