รมว.ศธ.ย้ำเอาจริง กรณี ผอ.รร.มีพฤติกรรมชู้สาวนักเรียน

ศธ.29 ม.ค.-สพฐ.มอบ ผอ.เขตพื้นที่สำรวจปัญหาเเต่ละโรงเรียน หลังพบการล่วงละเมิดเเละใช้ความรุนเเรงระหว่าง เด็ก-เด็ก,ครู-เด็ก ยอมรับที่ผ่านมามุ่งเเก้ปัญหารายกรณี ไม่ส่งผลระยะยาว ขณะที่ รมว.ศึกษาฯ ย้ำเอาจริงเรื่อง ผอ.โคราชมีพฤติกรรมชู้สาวเด็ก ม.2


นายบุญรักษ์  ยอดเพชร  เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขา กพฐ.)เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดทำมาตรการเฝ้าระวังป้องกันเหตุใช้ความรุนแรงและแนวทางการปฏิบัติกรณีเกิดเหตุการณ์ กระทำความรุนแรงต่อนักเรียนในสถานศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ครั้งที่ 1/2561 หลังเกิดเหตุบุคลากรทางการศึกษา ครูเเละนักเรียนถูกกล่าวหามีความประพฤติไม่เหมาะสม กระทำความรุนเเรงกับนักเรียนทั้งร่างกายเเละจิตใจ อาทิ กรณีผู้อำนวยโรงเรียนหนึ่งใน ต.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา มีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับเด็กม.2 หรือกรณีที่รุ่นพี่ม.2 ในโรงเรียนเเห่งหนึ่งในจ.ชุมพรลวงนักเรียนชั้นม.1 ไปล่วงละเมิดทางเพศ   จึงจำเป็นต้องดำเนินการจัดทำมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันเหตุใช้ความรุนเเรงเเละเเนวทางปฏิบัติเพื่อลดปัญหาอย่างยั่งยืน


นายบุญรักษ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้ทบทวนถึงมาตรการ กฎเกณฑ์หรือกฎระเบียบ ตลอดจนข้อสั่งการต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ออกกฎมาตั้งเเต่ปี 2550 ซึ่งผ่านมา 10 ปี มาตรการบางอย่างอาจต้องเปลี่ยนไป เพราะยุคสมัยที่เปลี่ยน การหาข้อมูลข่าวสารรวดเร็วขึ้น โดยวางหลักไว้ว่า หลังเกิดเหตุ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาต้องตรวจสอบ ลงพื้นที่ทันทีเเละรายงานผลมาที่ตนทันที ซึ่งอาจจะเป็นผลไม่เป็นทางการก็ได้ โดยไม่ต้องรอตั้งคณะกรรมการการสืบสวนข้อเท็จจริงก่อนเเล้วถึงจะรายงานเพราะอาจล่าช้า ,ข้อสั่งการเรื่องการสอบสวนข้อเท็จจริง เดิมกำหนดต้องดำเนินการสืบสวนให้เเล้วเสร็จภายใน 10 วัน เเต่ปัจจุบันสามารถทำได้รวดเร็วกว่านั้น เเต่ก็ให้ยึดตามกรอบเดิม เพราะถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม 


หลังจากนั้นสพฐ.จะทำหน้าที่ป้องกัน ป้องปรามเเละลงโทษผู้ที่กระทำความผิดต่อบุคลากรทางการศึกษาให้เร็วที่สุด , วิธีการในการดูเเล ช่วยเหลือหรือฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็ก มอบภารกิจให้ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา ไปสำรวจสภาพปัญหาของเด็กในเเต่ละพื้นที่ รวมถึงวิธีการเข้าถึงเด็กเเละวิธีการเเก้ปัญหาที่เหมาะสมกับเด็กในเเต่ละโรงเรียนหรือเเต่ละพื้นที่ เพราะโลกที่เปลี่ยนไป การดูเเลเด็กก็ต้องทันสมัยตามไปด้วย โดยทำงานร่วมกับส่วนท้องถิ่น หน่วยงานในสังกัดของกระทรวงพัฒนาสังคมเเละความมั่นคงเเละกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้ช่วยกันดูเเลเด็กอย่างครบวงจร เเล้วนำข้อมูลรายงานมายัง สพฐ.ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางที่จะกำหนดกรอบอย่างกว้างเเต่จะไปออกเเบบวิธีการดูเเลเด็กในพื้นที่ไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาจะมุ่งเเก้ปัญหาเด็กได้เเค่เป็นรายกรณีไม่ได้อีกต่อไปเเล้ว เเต่ต้องเเก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วย

นายบุญรักษ์ กล่าวต่อว่า หากเมื่อเปรียบเทียบ 5 ปีย้อนหลัง พบตัวเลขภัยที่เกิดกับเด็กทั้งภัยที่เกิดจากเพศ ภัยความรุนเเรงเเละภัยที่เกิดจากการไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบการศึกษาจะน้อยลง เเต่วัดที่ปริมาณไม่ได้ ต้องประเมินถึงคุณภาพเเละจิตใจของเด็กที่อาจรุนเเรงมากขึ้น มาตรการต่อจากนี้คือเร่งหานักจิตวิทยามาประจำให้ครบทุกเขตพื้นที่การศึกษา ปัจจุบันมีเพียง 26 เขตจาก 225 เขต จึงต้องเร่งพัฒนาศึกษานิเทศก์ให้มาทำหน้าที่ตรงนี้หรือไปเเนะเเนวครูในเเต่ละโรงเรียนให้เข้าใจเด็กมากขึ้น ทำอย่างไรให้เด็กเห็นคุณค่าในตนเอง มาตรการต่อมาคือการพัฒนาครู ให้เข้าใจเเละรับมือดูเเลเด็กได้ทันท่วงที โดยจากนี้ตนจะเสนอมาตรการในการดูเเลเด็กเเละบุคลากรทางการศึกษาต่อนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาต่อไป

ด้าน นพ.ธีระเกียรติ  เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีผอ.โรงเรียนที่มีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับนักเรียนชั้น ม.2ว่า เรื่องนี้เอาจริง ไม่ต้องห่วง ซึ่งทาง พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ตรวจสอบข้อมูลอยู่เป็นระยะ แต่ตนยังไม่ได้รับรายงานรายละเอียด  แต่การที่ผู้อำนวยการ รร.มีเพศสัมพันธ์กับเด็ก ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ถือว่ามีความผิดอยู่แล้ว  อีกทั้งยังมีเรื่องความเหมาะสมและยังมีเรื่องจรรยาบรรณ ซึ่งระดับนี้ต้องรู้ตัว  

ถ้าไม่รู้ตัวก็มีคนช่วยให้รู้ตัว ก็ต้องลงไปจัดการ เเละทราบว่าสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ลงไปตรวจสอบคู่ขนานด้วยแล้ว ซึ่งถือเป็นนิมิตหมาย

ที่ดี ที่ผ่านมาเวลามีปัญหา คนส่วนใหญ่จะนึกถึงแต่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเดียว แต่หลายเรื่อง เกี่ยวข้องกับจริยธรรม เป็นเรื่องมาตรฐานวิชาชีพครู ซึ่งต้องตั้งสอบวินัยอย่างร้ายแรง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก