กรุงเทพฯ 28 ม.ค.-ความคืบหน้าการตรวจสอบแหวนเพชรและนาฬิกาหรูของ “พล.อ.ประวิตร” ป.ป.ช.กำลังเร่งแสวงหาข้อเท็จจริง คาดจะรวบรวมพยานหลักฐานแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ก่อนชี้มูลความผิดหรือไม่
นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีนาฬิกาและแหวนเพชรของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกพยานที่ถูกกล่าวถึงมาสอบปากคำบางส่วนแล้ว เหลือเพียง 1 คนที่เป็นพยานปากสำคัญ แต่ขณะนี้เดินทางไปต่างประเทศ ป.ป.ช.จึงนัดให้ปากคำภายในสัปดาห์หน้า อีกทั้งได้ส่งหนังสือไปยังตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาภายในประเทศ 13 แห่ง เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง อยู่ระหว่างรอผล คาดจะรวบรวมพยานหลักฐานได้เสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้
โดยขั้นตอนการพิจารณาไต่สวน ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริง หากครบถ้วน ก็สามารถชี้ได้ว่า มีมูลหรือไม่ หากมีมูล ป.ป.ช.จะตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนและเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลอีกครั้ง โดยคณะอนุกรรมการจะไต่สวนก่อนเสนอให้ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ พิจารณาต่อไป
สำหรับประเด็นนาฬิกาหรู เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ระหว่างร่วมถ่ายรูปกับคณะรัฐมนตรี “ประยุทธ์ 5” บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล หลัง พล.อ.ประวิตร ยกมือขึ้นบังแสงแดด สื่อมวลชนสังเกตเห็นแหวนเพชรและนาฬิกาสุดหรูเรือนหลักล้านบนข้อมือ ซึ่งเป็นนาฬิกาแบรนด์ “ริชาร์ด มิลล์” จากสวิตเซอร์แลนด์มูลค่าประมาณ 3.6 ล้านบาท และเมื่อตรวจสอบที่มาของนาฬิกาหรู ไม่ได้อยู่ในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.ก่อนเข้ารับตำแหน่ง และ พล.อ.ประวิตร พยายามเลี่ยงการตอบคำถามมาตลอด ก่อนจะเปิดเผยภายหลังว่า นาฬิกาหรูเป็นของเพื่อนรัก ซึ่งเป็นนักธุรกิจดัง ให้หยิบยืมใส่ชั่วครั้งชั่วคราว และนำไปคืนแล้ว
27 ธันวาคม 2560 พล.อ.ประวิตร ส่งหนังสือชี้แจงที่มาของแหวนเพชรและนาฬิกาหรูไปยัง ป.ป.ช. ระบุเป็นของเพื่อนให้ยืมมาใส่ ก่อน ป.ป.ช.จะมีการเรียกบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นเอกชน 4 ราย เข้าให้ข้อมูล
5 มกราคม ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ให้ พล.อ.ประวิตร ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับแหวน นาฬิกา และข้อสงสัยที่ ป.ป.ช. ติดใจเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 2 ภายใน 15 วัน และจะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้อง 4 คน ซึ่งเป็นภาคเอกชนทั้งหมดมาให้ปากคำและนัดหมายไปดำเนินการนอกสถานที่ โดยไม่ขอให้รายละเอียด
กระทั่ง 24 มกราคม เลขาธิการ ป.ป.ช.ขอให้ พล.อ.ประวิตร ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเป็นครั้งที่ 3 หลังพบมีนาฬิกาทั้งหมด 25 เรือน และนัดพยานปากสำคัญที่เหลืออีก 1 ปาก ด้าน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ขอถอนตัวจากการพิจารณาเรื่องนี้ โดยให้เหตุผลเพื่อความโปร่งใส.-สำนักข่าวไทย
