วิษณุระบุ เลื่อนเลือกตั้งไม่เกินก.พ.62

ทำเนียบรัฐบาล 25 ม.ค.-รองนายกฯ เผยโรดแมปเลือกตั้งจะชัดเจนหลังกฎหมายเลือกตั้งบังคับใช้ ระบุแม้จะต้องเลื่อนก็ไม่เกินกุมภาพันธ์ 62


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย จัดกิจกรรม “สื่ออยากรู้รัฐบาลอยากเล่า” ในหัวข้อกฏหมายหลายรสกับอนาคตประเทศไทย โดยเชิญสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลและตัวแทนสื่อจากหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงคอลัมนิสต์เข้าร่วมรับฟังและซักถาม ที่อาคารภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยระหว่างการเสวนามีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง11 และ ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊คไทยคู่ฟ้าอีกช่องทางหนึ่งด้วย 

นายวิษณุ กล่าวถึงเรื่องรัฐบาลอยากเล่าว่า ตลอดระยะเวลาที่รัฐบาลบริหารงาน ได้ออกพระราชบัญญัติ 280 ฉบับ ซึ่งกฏหมายทั้งหมดเป็นกฏหมายที่ส่วนราชการรอคอยเป็นเวลานาน ติดขัด ขับเคลื่อนไม่ได้ รวมถึงกฏหมายที่ประชาชนรอคอย อาทิ เรื่องของภาษีอุ้มบุญและอีกหลายเรื่องที่ติดต่อราชการไม่สะดวก เสียรายทาง เสียใต้โต๊ะ  ตลอดจนต่างประเทศที่เราไปเซนต์สัญญา รัฐบาลจึงจำเป็นต้องออกกฏหมายมาบังคับใช้  เพื่อตอบสนองการทำงานของรัฐบาล เพื่อประชาชนและพันธะระหว่างประเทศ และหากเทียบกับก่อนที่ คสช.เช้ามาถอยไป 7 ปีก่อนหน้า สภาที่มาจากการเลือกตั้งออกกฏมายเพียง 120 ฉบับใน 7 ปี และไม่สามาถสนองความต้องการของกระทรวง ทบวง กรมได้ทัน    


“สำหรับกฏหมายที่โดดเด่นที่รัฐบาลออกไปแล้วมีผลกับพันธะระหว่างประเทศ ที่สำคัญ อาทิ เกี่ยวกับเรื่องงาช้าง กฏหมาย การบินพลเรือน ไอเคโอ เรื่องประมง ไอยูยู ส่วน เรื่องปากท้องประชาชน ได้ออกกฏหมายหลักประกันทางธุรกิจ หลักจากประกาศใช้ ผู้แทนธนาคารโลกมาขอบคุณที่มีกฏหมายนี้ออกมา เพราะจะยกระดับธุรกิจการค้าโลกของไทยมากยิ่งขึ้น ส่วนการลงทุนเรื่องอื่น การส่งเสริมการลงทุน ซื้อขายสินค้าที่ไม่เป็นธรรม การเรียกรับผลประโยชน์จากการทุจริต รัฐบาลออกกฏหมายชิ้นโบว์แดงคือพระราชบัญญัติอำนวยความสะดวกที่กำหนดให้ทุกส่วนราชการต้องทำคู่มือให้ประชาชนทราบว่าขั้นตอนการมาติดต่อหน่วยงาน ระยะเวลาและเอกสารที่ต้องใช้ หากไม่เป็นไปตามที่ระบุประชาชนสามารถร้องเรียนเจ้าหน้าที่ได้” นายวิษณุ กล่าว

นายวิษณุ  กล่าวถึงกฏหมายเกี่ยวกับการปราบปราบการทุจริต ซึ่งมีหน่วยงานดูแลอยู่ทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) ที่บูรณาการงานร่วมกันเรื่องการตรวจสอบและป้องกันการทุจริต 

“พระราชบัญญัติอำนวยความสะดวกช่วยลดเรื่องการทุจริตได้มาก และขณะนี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) อยู่ระหว่างพิจารณาร่างพระราชบัญญัติผลประโยชน์ขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวม เพื่อให้เกิดความรอบคอบ รวมถึงกฏหมาย อีกฉบับที่ช่วยปราบทุจริตคือพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างการหาพัสดุภาครัฐ ซึ่งมีโทษ ความผิดครอบคลุมไปยังรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน องค์กรอิสระที่ต้องอยู่ภายใต้พระราชบัญญัตินี้ จากเดิมที่ไม่ได้อยู่ แม้กฎหมายดังกล่าวจะไม่สามารถลดการทุจริตได้100 เปอร์เซนต์ แต่ช่วยได้ระดับหนึ่ง” นายวิษณุ กล่าว


เมื่อถามถึงกฏหมายการปราบปรามคอรัปชั่น กรณีที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีช่องว่างว่าผู้มีอำนาจในบ้านเมืองมักได้รับการยกเว้น นายวิษณุ กล่าวว่า กฏหมายไม่ได้ยกเว้นให้ผู้มีอำนาจ แต่หากเล็ดลอดไปได้ คือการใช้กฏหมายที่ไม่ได้ผล เปรียบการใช้ดาบแต่ไม่ชักดาบออกมา อย่างไรก็ตาม ในอนาคตมีโอกาสถูกดำเนินการได้

ส่วนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) นายวิษณุ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้เกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ขอขยายความว่ากฏหมายเลือกตั้งส.ส.กำหนดหลักเกณฑ์  ตามรัฐธรรมนูญ แต่มีหลายประเด็นเกิดขึ้น โดยกรรมาธิการและสนช.เติม แก้ ตัดหลายมาตรา พูดเรื่องการทำไพรมารีโหวต การอนุญาตหรือไม่ให้แสดงมหรสพในการเลือกตั้งที่มีคนเสนอให้ทำได้ ข้าราชการไม่ไปเลือกตั้งจะตัดสิทธิ์หรือได้รับผลกระทบ  

“ที่ต้องการให้ขยายเวลาหลังประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา เพราะหากประกาศออกไป เกรงว่าผู้ใช้กฏหมายจะดำเนินการในส่วนของตัวเองไม่ทัน คนใช้กฎหมาย คือกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตอนนี้กกต.อยู่ไหน ผิดไม่ผิด จะใช้กกต.เก่าหรือใหม่ นี่คือเหตุผลของกรรมาธิการฝ่ายข้างมาก ซึ่งต้องรอผลโหวต หากมีผลอย่างไร ก็ต้องว่ากันไป และหากสนช.พิจารณาเสร็จก็ต้องถามกรรมการร่างรัฐธรรมนูญของอ.มีชัยอีกครั้ง หากมีข้อสังเกตุให้ตั้งกรรมาธิการร่วมกรธ. สนช.และกรรมาธิการ และจะกลับมาที่สนช.อีกครั้ง 

ส่วนการขยายเวลาเลือกตั้งออกไป เพื่อเอื้อประโยชน์พรรคการเมืองใหม่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นพรรคเก่าหรือพรรคใหม่มีระยะเวลาเท่ากัน เพราะคิดว่าความเดือดร้อนของพรรคการเมืองน่าจะมาจากคสช.ยังไม่ปลดล็อคคำสั่งห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมมากกว่า ล่าสุดคสช.ผ่อนคลายออกคำสั่ง53/2560 ข้อ 8 ให้พรรคการเมืองด้านธุรการบางอย่างไปก่อนได้ 

“เมื่อประกาศใช้ข้อ8 ของคำสั่งคสช. ให้ครม.แจ้ง คสช.เชิญพรรคการเมืองทุกพรรค กกต.มาพูดคุยครั้งสุดท้ายว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อใด โดยจะได้ข้อสรุปและตกลงในวันนั้น ข้อ 8 คือวาระสำคัญของชาติที่จะกำหนดโรดแมปของประเทศที่ชัดเจนที่สุด หลังกฏหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งประกาศใช้ทั้งหมด ดังนั้น กระแสที่ระบุว่าการเลือกตั้งจะยืดออกไป 1-2 ปีนั้น เป็นไปไม่ได้ หากเป็นเช่นนั้นต้องแก้รัฐธรรมนูญ แต่มีความเป็นไปได้ที่จะยืดออกไปอีก 2 เดือน” นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าการออกคำสั่งคสช. ม44 ข้อ 8 ทราบหรือไม่ว่าอาจต้องขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้ง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบล่วงหน้า แต่ทราบว่าคำสั่ง53 /2560 เป็นการคลายล็อคทีละขั้น แต่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากคลายเพราะไม่ได้ปลดล็อคทั้งหมด เดิมทีจะใช้คสช สั่งกำหนดวันเลือกตั้ง แต่ความเห็นในที่ประชุม ต้องการให้พรรคการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมตัดสินใจ จึงระบุเงื่อนไขไว้ในข้อ 8   

ส่วนที่ว่าในทางกฎหมายหากสนช.จะขยายเวลาออก ไป 90 วัน และหากเวทีการหารือในข้อ 8 กับพรรคการเมืองแล้วพบว่าไม่ทัน จะมีช่องทางขยายเลือกตั้งออกไปอีกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากเป็นเช่นนั้นต้องแก้พ.ร.ป.การเลือกตั้ง แต่เชื่อว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น  และมั่นใจว่าจะไม่ใช้มาตรา 44 แก้ปัญหา แต่จะให้การันตีว่าจะไม่เกิดเหตุอะไรที่เป็นเงื่อนไขขึ้นนั้น ไม่ใช่หน้าที่ที่จะการันตีได้

เมื่อขอให้กำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจน นายวิษณุ กล่าวว่า กฏหมายเลือกตั้งเข้าสภาเมื่อใดจะใช้เวลาพิจารณาภายใน 2 เดือน หากแก้ไขเพิ่มเติมจะต้องตั้งกรรมมาธิการร่วม 3 ฝ่ายประกอบด้วยสนช. กรธ.และกกต.พิจารณากรอบการทำงาน1 เดือน โดยคาดว่าจะเสร็จเดือนกุมภาพันธ์นี้  จากนั้นนำขึ้นทูลเกล้าฯ เดือนมีนาคม โดยทรงมีเวลาพิจารณา 90 วัน ซึ่งหากนับตามกรอบ 90 วันคาดว่าจะสามารถประกาศใช้กฎหมายเลือกตั้งส.ส.ได้ ในเดือนมิถุนายน แต่จะยังไม่มีผล หากขยายเวลาบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษาไปอีก90 วัน อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้คสช.สามารถใช้คำสั่ง 53/2560 ข้อ 8 จัดการหารือระหว่างคสช. กรธ.    กกต.และพรรคการเมืองกำหนดร่วมกันว่าเลือกตั้งเมื่อใด หาเสียงเมื่อใด ซึ่งหากขยายเวลาประกาศใช้กฎหมายอีก  90 วัน กฏหมายจะมีผลบังคับใช้ราวเดือนกันยายน ทั้งนี้ รัฐธรรทนูญกำหนดให้จัดเลือกตั้งภายใน 150 วัน จึงคาดว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายในเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2562 

ส่วนระหว่างนี้จะปลดล็อคพรรคการเมืองก่อนหรือไม่  นายวิษณุ กล่าวว่า    คสช.จะประชุมและระเมินสถานกาณ์ ส่วนที่กังวลกันว่าจะมีการคว่ำโรดแมปก็เป็นอีกทางที่จะทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไป แต่ไม่ควรจะเกิดและมีวิธีเลี่ยงได้ 

นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทยถอนตัวออกจากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ว่า เป็นเรื่องของเอกชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย เพราะไทยไม่เคยเป็นสมาชิก และไม่เคยเกี่ยวข้อง ไม่เคยให้การสนับสนุน.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนฟ้าคะนอง ตกหนักบางแห่ง

กทม. 13 ก.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน […]

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย