วิษณุระบุ เลื่อนเลือกตั้งไม่เกินก.พ.62

ทำเนียบรัฐบาล 25 ม.ค.-รองนายกฯ เผยโรดแมปเลือกตั้งจะชัดเจนหลังกฎหมายเลือกตั้งบังคับใช้ ระบุแม้จะต้องเลื่อนก็ไม่เกินกุมภาพันธ์ 62


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย จัดกิจกรรม “สื่ออยากรู้รัฐบาลอยากเล่า” ในหัวข้อกฏหมายหลายรสกับอนาคตประเทศไทย โดยเชิญสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลและตัวแทนสื่อจากหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงคอลัมนิสต์เข้าร่วมรับฟังและซักถาม ที่อาคารภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยระหว่างการเสวนามีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง11 และ ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊คไทยคู่ฟ้าอีกช่องทางหนึ่งด้วย 

นายวิษณุ กล่าวถึงเรื่องรัฐบาลอยากเล่าว่า ตลอดระยะเวลาที่รัฐบาลบริหารงาน ได้ออกพระราชบัญญัติ 280 ฉบับ ซึ่งกฏหมายทั้งหมดเป็นกฏหมายที่ส่วนราชการรอคอยเป็นเวลานาน ติดขัด ขับเคลื่อนไม่ได้ รวมถึงกฏหมายที่ประชาชนรอคอย อาทิ เรื่องของภาษีอุ้มบุญและอีกหลายเรื่องที่ติดต่อราชการไม่สะดวก เสียรายทาง เสียใต้โต๊ะ  ตลอดจนต่างประเทศที่เราไปเซนต์สัญญา รัฐบาลจึงจำเป็นต้องออกกฏหมายมาบังคับใช้  เพื่อตอบสนองการทำงานของรัฐบาล เพื่อประชาชนและพันธะระหว่างประเทศ และหากเทียบกับก่อนที่ คสช.เช้ามาถอยไป 7 ปีก่อนหน้า สภาที่มาจากการเลือกตั้งออกกฏมายเพียง 120 ฉบับใน 7 ปี และไม่สามาถสนองความต้องการของกระทรวง ทบวง กรมได้ทัน    


“สำหรับกฏหมายที่โดดเด่นที่รัฐบาลออกไปแล้วมีผลกับพันธะระหว่างประเทศ ที่สำคัญ อาทิ เกี่ยวกับเรื่องงาช้าง กฏหมาย การบินพลเรือน ไอเคโอ เรื่องประมง ไอยูยู ส่วน เรื่องปากท้องประชาชน ได้ออกกฏหมายหลักประกันทางธุรกิจ หลักจากประกาศใช้ ผู้แทนธนาคารโลกมาขอบคุณที่มีกฏหมายนี้ออกมา เพราะจะยกระดับธุรกิจการค้าโลกของไทยมากยิ่งขึ้น ส่วนการลงทุนเรื่องอื่น การส่งเสริมการลงทุน ซื้อขายสินค้าที่ไม่เป็นธรรม การเรียกรับผลประโยชน์จากการทุจริต รัฐบาลออกกฏหมายชิ้นโบว์แดงคือพระราชบัญญัติอำนวยความสะดวกที่กำหนดให้ทุกส่วนราชการต้องทำคู่มือให้ประชาชนทราบว่าขั้นตอนการมาติดต่อหน่วยงาน ระยะเวลาและเอกสารที่ต้องใช้ หากไม่เป็นไปตามที่ระบุประชาชนสามารถร้องเรียนเจ้าหน้าที่ได้” นายวิษณุ กล่าว

นายวิษณุ  กล่าวถึงกฏหมายเกี่ยวกับการปราบปราบการทุจริต ซึ่งมีหน่วยงานดูแลอยู่ทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) ที่บูรณาการงานร่วมกันเรื่องการตรวจสอบและป้องกันการทุจริต 

“พระราชบัญญัติอำนวยความสะดวกช่วยลดเรื่องการทุจริตได้มาก และขณะนี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) อยู่ระหว่างพิจารณาร่างพระราชบัญญัติผลประโยชน์ขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวม เพื่อให้เกิดความรอบคอบ รวมถึงกฏหมาย อีกฉบับที่ช่วยปราบทุจริตคือพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างการหาพัสดุภาครัฐ ซึ่งมีโทษ ความผิดครอบคลุมไปยังรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน องค์กรอิสระที่ต้องอยู่ภายใต้พระราชบัญญัตินี้ จากเดิมที่ไม่ได้อยู่ แม้กฎหมายดังกล่าวจะไม่สามารถลดการทุจริตได้100 เปอร์เซนต์ แต่ช่วยได้ระดับหนึ่ง” นายวิษณุ กล่าว


เมื่อถามถึงกฏหมายการปราบปรามคอรัปชั่น กรณีที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีช่องว่างว่าผู้มีอำนาจในบ้านเมืองมักได้รับการยกเว้น นายวิษณุ กล่าวว่า กฏหมายไม่ได้ยกเว้นให้ผู้มีอำนาจ แต่หากเล็ดลอดไปได้ คือการใช้กฏหมายที่ไม่ได้ผล เปรียบการใช้ดาบแต่ไม่ชักดาบออกมา อย่างไรก็ตาม ในอนาคตมีโอกาสถูกดำเนินการได้

ส่วนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) นายวิษณุ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้เกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ขอขยายความว่ากฏหมายเลือกตั้งส.ส.กำหนดหลักเกณฑ์  ตามรัฐธรรมนูญ แต่มีหลายประเด็นเกิดขึ้น โดยกรรมาธิการและสนช.เติม แก้ ตัดหลายมาตรา พูดเรื่องการทำไพรมารีโหวต การอนุญาตหรือไม่ให้แสดงมหรสพในการเลือกตั้งที่มีคนเสนอให้ทำได้ ข้าราชการไม่ไปเลือกตั้งจะตัดสิทธิ์หรือได้รับผลกระทบ  

“ที่ต้องการให้ขยายเวลาหลังประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา เพราะหากประกาศออกไป เกรงว่าผู้ใช้กฏหมายจะดำเนินการในส่วนของตัวเองไม่ทัน คนใช้กฎหมาย คือกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตอนนี้กกต.อยู่ไหน ผิดไม่ผิด จะใช้กกต.เก่าหรือใหม่ นี่คือเหตุผลของกรรมาธิการฝ่ายข้างมาก ซึ่งต้องรอผลโหวต หากมีผลอย่างไร ก็ต้องว่ากันไป และหากสนช.พิจารณาเสร็จก็ต้องถามกรรมการร่างรัฐธรรมนูญของอ.มีชัยอีกครั้ง หากมีข้อสังเกตุให้ตั้งกรรมาธิการร่วมกรธ. สนช.และกรรมาธิการ และจะกลับมาที่สนช.อีกครั้ง 

ส่วนการขยายเวลาเลือกตั้งออกไป เพื่อเอื้อประโยชน์พรรคการเมืองใหม่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นพรรคเก่าหรือพรรคใหม่มีระยะเวลาเท่ากัน เพราะคิดว่าความเดือดร้อนของพรรคการเมืองน่าจะมาจากคสช.ยังไม่ปลดล็อคคำสั่งห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมมากกว่า ล่าสุดคสช.ผ่อนคลายออกคำสั่ง53/2560 ข้อ 8 ให้พรรคการเมืองด้านธุรการบางอย่างไปก่อนได้ 

“เมื่อประกาศใช้ข้อ8 ของคำสั่งคสช. ให้ครม.แจ้ง คสช.เชิญพรรคการเมืองทุกพรรค กกต.มาพูดคุยครั้งสุดท้ายว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อใด โดยจะได้ข้อสรุปและตกลงในวันนั้น ข้อ 8 คือวาระสำคัญของชาติที่จะกำหนดโรดแมปของประเทศที่ชัดเจนที่สุด หลังกฏหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งประกาศใช้ทั้งหมด ดังนั้น กระแสที่ระบุว่าการเลือกตั้งจะยืดออกไป 1-2 ปีนั้น เป็นไปไม่ได้ หากเป็นเช่นนั้นต้องแก้รัฐธรรมนูญ แต่มีความเป็นไปได้ที่จะยืดออกไปอีก 2 เดือน” นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าการออกคำสั่งคสช. ม44 ข้อ 8 ทราบหรือไม่ว่าอาจต้องขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้ง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบล่วงหน้า แต่ทราบว่าคำสั่ง53 /2560 เป็นการคลายล็อคทีละขั้น แต่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากคลายเพราะไม่ได้ปลดล็อคทั้งหมด เดิมทีจะใช้คสช สั่งกำหนดวันเลือกตั้ง แต่ความเห็นในที่ประชุม ต้องการให้พรรคการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมตัดสินใจ จึงระบุเงื่อนไขไว้ในข้อ 8   

ส่วนที่ว่าในทางกฎหมายหากสนช.จะขยายเวลาออก ไป 90 วัน และหากเวทีการหารือในข้อ 8 กับพรรคการเมืองแล้วพบว่าไม่ทัน จะมีช่องทางขยายเลือกตั้งออกไปอีกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากเป็นเช่นนั้นต้องแก้พ.ร.ป.การเลือกตั้ง แต่เชื่อว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น  และมั่นใจว่าจะไม่ใช้มาตรา 44 แก้ปัญหา แต่จะให้การันตีว่าจะไม่เกิดเหตุอะไรที่เป็นเงื่อนไขขึ้นนั้น ไม่ใช่หน้าที่ที่จะการันตีได้

เมื่อขอให้กำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจน นายวิษณุ กล่าวว่า กฏหมายเลือกตั้งเข้าสภาเมื่อใดจะใช้เวลาพิจารณาภายใน 2 เดือน หากแก้ไขเพิ่มเติมจะต้องตั้งกรรมมาธิการร่วม 3 ฝ่ายประกอบด้วยสนช. กรธ.และกกต.พิจารณากรอบการทำงาน1 เดือน โดยคาดว่าจะเสร็จเดือนกุมภาพันธ์นี้  จากนั้นนำขึ้นทูลเกล้าฯ เดือนมีนาคม โดยทรงมีเวลาพิจารณา 90 วัน ซึ่งหากนับตามกรอบ 90 วันคาดว่าจะสามารถประกาศใช้กฎหมายเลือกตั้งส.ส.ได้ ในเดือนมิถุนายน แต่จะยังไม่มีผล หากขยายเวลาบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษาไปอีก90 วัน อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้คสช.สามารถใช้คำสั่ง 53/2560 ข้อ 8 จัดการหารือระหว่างคสช. กรธ.    กกต.และพรรคการเมืองกำหนดร่วมกันว่าเลือกตั้งเมื่อใด หาเสียงเมื่อใด ซึ่งหากขยายเวลาประกาศใช้กฎหมายอีก  90 วัน กฏหมายจะมีผลบังคับใช้ราวเดือนกันยายน ทั้งนี้ รัฐธรรทนูญกำหนดให้จัดเลือกตั้งภายใน 150 วัน จึงคาดว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายในเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2562 

ส่วนระหว่างนี้จะปลดล็อคพรรคการเมืองก่อนหรือไม่  นายวิษณุ กล่าวว่า    คสช.จะประชุมและระเมินสถานกาณ์ ส่วนที่กังวลกันว่าจะมีการคว่ำโรดแมปก็เป็นอีกทางที่จะทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไป แต่ไม่ควรจะเกิดและมีวิธีเลี่ยงได้ 

นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทยถอนตัวออกจากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ว่า เป็นเรื่องของเอกชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย เพราะไทยไม่เคยเป็นสมาชิก และไม่เคยเกี่ยวข้อง ไม่เคยให้การสนับสนุน.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกาเป็นเหตุให้สึก

บก.ปปป. 21 ก.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกา 2 ราย เป็นเหตุให้สึก ส่วนการทุจริตก่อสร้างพุทธอุทยาน และ มจร. อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียน “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า หลังเกิดกรณีของ “กอล์ฟ” ได้ตรวจสอบเอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงชั้นเทพ ส่วนกรณีวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีสมณศักดิ์สูงกว่าคือชั้นธรรม ซึ่งเรื่องอาญาในการทุจริต โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงกันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แม้พระจะสึกไปแล้วยังต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจด้วยว่าจะเข้าข้อหาอาญาทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบมีเส้นเงินที่ตรวจสอบพบเกี่ยวกับกอล์ฟ หลายเส้นเงิน ทาง ผบช.ก. จึงสั่งให้ตรวจสอบทุกวัด ทุกรูป แม้จะตรวจสอบไม่พบจากคลิปวิดีโอหรือแชตไลน์ ก็ให้ทำการตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบก่อสร้างของพุทธอุทยาน และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า […]

เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุวิภา ฝนตกหนักหลายพื้นที่

21 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนเช้าพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) ส่งผลไทยตอนบนฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณเมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าชายฝั่งเวียดนามเช้าวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณลุ่มน้ำโขงตอนบนของลาวและเวียดนาม ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักต่อเนื่อง และเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมแรงหลายพื้นที่ 60 จังหวัดทั่วประเทศ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูง 2–4 เมตร อาจเกิน 4 เมตรในบางพื้นที่ เรือเล็กงดออกจากฝั่งเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 21–25 กรกฎาคมนี้ พร้อมยังจัดตั้งศูนย์ติดตามพิเศษ หรือ War Room ตั้งแต่วันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์แบบเรียลไทม์ และสื่อสารเตือนภัยต่อเนื่อง ตลอด […]

พบอีก 2 ทุ่นระเบิดสภาพใหม่ ในพื้นที่ช่องบก

กองทัพบก 21 ก.ค.-ทบ. เผยพบทุ่นระเบิดสภาพใหม่เพิ่มเติม จำนวน 2 ทุ่น ในพื้นที่ช่องบก ใกล้กับจุดเกิดเหตุเดิม ชี้ชัดขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ด้านกรมข่าวทหารบก เตรียมเชิญผู้ช่วยทูตทหารมารับทราบข้อเท็จจริง พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 ล่าสุดวานนี้ (20 ก.ค.68) กองกำลังสุรนารี และหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยผลจากการตรวจพื้นที่พบการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN2 ในสภาพใหม่พร้อมทำงาน จำนวน 2 ทุ่น ห่างจากหลุมระเบิดเดิม 30 เซนติเมตร โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) ได้ทำการรื้อถอนทุ่นระเบิดที่ตรวจพบใหม่ออกแล้วทั้ง 2 ทุ่น การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน และแสดงถึงเจตนาในการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารไทย ทั้งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล […]

“พล.อ.ณัฐพล” ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนเขมรป่วนปราสาทตาเมือนธม

ทำเนียบ 21 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนกัมพูชาป่วนปราสาทตาเมือนธมหลักพันคนวานนี้ ขอคนไทยเข้าใจ หากอ่อนหรือแข็งไป จะหาที่ลงไม่ได้ ทำ 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อน เผยมีมาตรการรับมือป่วนซ้ำ แต่ไม่ขอแจงรายละเอียด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ศบ.ทก. ถึงกรณีกัมพูชาขนมวลชนมาป่วนที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า รัฐบาลกัมพูชาจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะมาเป็นหลักพันคน แต่ถ้าไม่รู้ก็ต้องแก้ไขทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนกัมพูชามาทำแบบเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยดูอยู่ทั้งหมด เราไม่อยากให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเครียด อยากจะบอกกับสื่อมวลชนว่าขณะนี้ประชาชนตามแนวชายแดน 7 จังหวัด เดือดร้อนมาก “เขากดดันผมว่า เมื่อไหร่จะจบเสียทีผมอยู่ตรงนี้ผมต้องรักษาบรรยากาศจะต้องไม่อ่อนแอหรือเข้มแข็งเกินไป จนหาที่ลงไม่ได้ ผมจะโดนทั้ง 2 ทาง ขณะนี้ พี่น้องอีก 70 จังหวัดก็จะมาด่าว่า ทำไมดูไม่เข้มแข็งเด็ดขาด เหมือนหมานำราชสีห์ แต่ไม่เคยสนใจ พี่น้อง 7 จังหวัดชายแดน ว่าเขาเดือดร้อนอย่างไร แต่ผมไม่อยากให้ ไปทำข่าวว่าพี่น้อง 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อนอย่างไร เพราะไม่อยากให้กัมพูชาทราบว่าของเราก็แย่อยู่ […]