กระทรวงการต่างประเทศ 25 ม.ค.-กต.จับมือบีโอไอเดินหน้าโครงการการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษสมาร์ทวีซ่า สร้างแรงจูงใจผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุนต่างประเทศ 10 ประเภท
น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยน.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวถึงการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว เป็นกรณีพิเศษสมาร์ทวีซ่า โดยน.ส.ดวงใจ กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลไทยอนุมัติให้ตรวจลงตราประเภทสมาร์ทวีซ่า เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างแรงจูงใจกับผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุน จากต่างประเทศที่สนใจเข้ามาทำงาน หรือลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย 10 ประเภท ประกอบด้วย อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิตอล และอุตสาหกรรมทางการแพทย์ครบวงจร
“สำหรับผู้ประสงค์จะขอยื่นการตรวจลงตราประเภทสมาร์ทวีซ่า จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญทักษะสูง นักลงทุน ผู้บริหารระดับสูง และผู้ประกอบการวิสาหกิจ เริ่มต้นที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์และผ่านการรับรอง โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ อาทิ อายุวีซ่าสูงสุด 4 ปี เว้นแต่ผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น ในปีแรกวีซ่าจะมีอายุ 1 ปี และหลังจากจัดตั้งธุรกิจในไทยครบ 1 ปี จะต่ออายุวีซ่าเป็น 2 ปี ผู้ที่ขอสมาร์ทวีซ่าไม่ต้องขอใบอนุญาตทำงาน พร้อมขยายเวลาการรายงานตัวผู้ถือบัตรสมาร์ทวีซ่าจากเดิมทุก 90 วันเป็นหนึ่งปี สามารถเดินทางเข้า-ออกประเทศได้โดยไม่ต้องขออนุญาตกลับเข้ามาใหม่ ตลอดจนคู่สมรสและบุตรได้รับสิทธิอาศัยเท่ากับผู้ได้รับสิทธิหลัก และสามารถทำงานที่ประเทศไทยได้ แต่ต้องไม่ทำงานต้องห้ามในบัญชีแนบท้ายพระราชกฤษฎีกา กำหนดอาชีพและวิชาชีพที่ต้องห้ามคนต่างด้าวทำ พ.ศ. 2522 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวกำหนดเริ่มกระบวนการยื่นขอรับการตรวจลงตราได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
