ปรับมาตรการความปลอดภัยตลาดสดรถไฟยะลา

ยะลา 23 ม.ค.-พี่น้องชาวยะลาให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด และเรียกร้องให้ตลาดเป็นพื้นที่ปลอดภัย หลังจากที่ตลาดสดรถไฟในตัวเมืองยะลาถูกก่อเหตุรุนแรงอีกครั้งเมื่อเช้าวานนี้ ขณะที่ภาครัฐได้ปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น


เสียงของพี่น้องประชาชนใน จ.ยะลา ที่ได้รวมตัวกันมาส่งเสียงให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้าในตลาดพิมลชัย หรือตลาดสดรถไฟ หลังเกิดเหตุระเบิดจักรยานยนต์บอมบ์จนมีพ่อค้าแม่ค้าเสียชีวิต 3 คน เมื่อวานนี้ โดยนายอนุชิต ตระกูลมุทุตา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยนายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา นำพี่น้องประชาชนวางดอกไม้ที่จุดเกิดเหตุ และยืนสงบนิ่งแสดงความอาลัยต่อผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ 


นอกจากนี้ พี่น้องประชาชนจากเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ได้ถือป้ายประณามผู้ก่อเหตุ ต่อต้านความรุนแรง และเรียกร้องให้ภาครัฐยุติความรุนแรงด้วยการเจรจาโดยเร็ว เช่นเดียวกับกลุ่มคณะทำงานวาระผู้หญิงชายแดนใต้ ที่เรียกร้องมาตลอดหลายปีให้พื้นที่สาธารณะ เช่น ถนน ตลาด โรงเรียน วัด และมัสยิด เป็นพื้นที่ปลอดภัย ยุติปฏิบัติการทางทหารของทุกฝ่าย


ส่วนราชการจังหวัดยะลา นำโดย พล.ต.สมชาติ เปรมจิตต์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจยะลา ประชุมพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดรถไฟ หารือการปรับมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยมีการรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะของพ่อค้าแม่ค้า และเสนอมาตรการรักษาความปลอดภัยของทหาร ตำรวจ และกองกำลังอาสาภาคประชาชน ซึ่งจะมีการปรับตลาดสดรถไฟเป็นเขตเซฟตี้โซน

เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบตลาดสดรถไฟภายในเขตเทศบาลนครยะลาแห่งนี้ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่เข้ามาซื้อของในตลาด โดยจัดระเบียบทางเข้าออกเป็นวันเวย์ ซึ่งทางเข้าจะดูแลความปลอดภัยโดยทหารและตำรวจ และทางออกดูแลความปลอดภัยโดยอาสาปกครองและกองกำลังอาสาภาคประชาชน และไม่อนุญาตให้รถเข้าตลาดได้ เว้นแต่รถที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ซึ่งเทศบาลนครยะลาจะติดตั้งไม้กั้นบริเวณทางเข้า

ส่วนความคืบหน้าคดี ตำรวจภูธรจังหวัดยะลาเร่งแกะรอยกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพผู้ก่อเหตุได้ เป็นชายขี่รถจักรยานยนต์มาจากตลาดเก่า ผ่านถนนสิโรรส เลี้ยวกลับรถเข้ามาในตลาดสดรถไฟ ก่อนจะจอดรถจักรยานยนต์แล้วเดินออกไปตามเส้นทางเดิม โดยมีผู้ร่วมก่อเหตุอีกคน ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพได้ แต่ทั้งสองสวมหมวกกันน็อกและหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้าไว้ ทำให้ยังไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ แต่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบดีเอ็นเอของผู้ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะทราบตัวในไม่ช้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง