ธปท.ยืนยันไม่แทรกแซงเงินบาท

กรุงเทพฯ  23 ม.ค. – ผู้ว่าการ ธปท.ยืนยันไม่แทรกแซงค่าเงินบาทปล่อยตามกลไกตลาด ชี้แบงก์ปิดสาขามากช่วยลดต้นทุนภาคธนาคาร ประชาชนได้ประโยชน์จากค่าธรรมเนียมถูกลง


นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) กล่าวภายในงานสัมมนา “Capital Market Outlook : เศรษฐกิจไทยขยับ เตรียมรับเทคโนโลยีเปลี่ยน” ว่า เงินบาทที่แข็งค่าในปัจจุบันเป็นผลจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค ถือเป็นเรื่องปกติ และยืนยันจะดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยจะไม่เข้าไปแทรกแซงจนบิดเบือน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการค้าของประเทศเพียงอย่างเดียว ดังนั้น จึงไม่กังวลกรณีที่สหรัฐจับตามองไทยเป็น 1 ใน 16 ประเทศที่เกินดุลการค้าสูง 

ส่วนกรณีการปิดสาขาของธนาคารพาณิชย์ที่มากขึ้นนั้น ยอมรับว่าเป็นผลจากการที่ธนาคารปรับตัวใช้เทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาการให้บริการของสถาบันการเงิน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อเทียบกับหลายอุตสาหกรรมที่ต้องการลดการผลิตและแรงงานคน แต่เชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลดีต่อต้นทุนการให้บริการ ทำให้ค่าธรรมเนียมการใช้บริการลดลงและพนักงานจะมีการอบรม ปรับตัว เพื่อรองรับโลกดิจิทัลมากขึ้น ขณะเดียวกันไตรมาส 1 ปีนี้ ธปท.จะออกประกาศใช้ Banking Agent หรือการมีตัวแทนของสถาบันการเงินในการรับฝากและชำระเงิน เพื่อให้การเข้าถึงการบริการการเงินของรายย่อยมีประสิทธิภาพและเข้าถึงชุมชนมากขึ้น


ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวถึงกรณีการปรับขึ้นค่าแรง 5 – 22 บาททั่วประเทศ ว่า มีความเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และเป็นการปรับขึ้นไม่เท่ากันทั่วประเทศ จึงมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อน้อยมาก 

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย มองว่า ดัชนีหุ้นไทยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้น ถือว่ายังไม่ได้ร้อนแรงมาก ซึ่งปัจจัยมาจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้นจริงจัง โดยเฉพาะในกลุ่ม G3 จึงส่งผลให้การส่งออกของไทยดีขึ้นและการท่องเที่ยวขยายตัวดี จึงสะท้อนมายังดัชนีหุ้นให้ปรัยตัวดีขึ้นตามไปด้วย และมองว่าดัชนีหุ้นไทยจะยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นแบบนี้ต่อไปอีก 2 ปีอย่างแน่นอน เนื่องจากการลงทุนในหุ้นยังคงให้ผลตอบแทนดีกว่าการลงทุนประเภทอื่นเฉลี่ยร้อยละ 12 ต่อปี และการลงทุนในกองทุนรวมระยะยาวให้ผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ 20 – 30

อย่างไรก็ตาม ยอมรับสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่แน่นนอนเรื่องการเลือกตั้งตามโรดแมปนั้น เป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบทำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงระยะสั้น แต่หากมีการประกาศเลื่อนการเลือกตั้งออกไปไม่นานกว่าแผนที่ตั้งไว้อาจเป็นผลบวกทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นและเข้าลงทุนมากขึ้นได้. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง