กรุงเทพฯ 22 ม.ค.- รองโฆษก ตร.เผย 2 นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่ถูกมาเฟียชาติเดียวกันขับรถชนและตามแทงดับที่สุราษฎร์ธานี สาเหตุตามล้างแค้นจากแก๊งมาเฟีย
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายขับรถยนต์ชนนักท่องเที่ยวและใช้อาวุธมีดแทงนักท่องเที่ยวเสียชีวิต เหตุเกิด สภ.บ่อผุด เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2561 เวลาประมาณ 14.16 น. ว่า หลังพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ได้รับแจ้งเหตุจึงรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิ๊ก สีดำ สภาพใหม่ทะเบียนป้ายแดง และพบกองเลือดจำนวนมากในที่เกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ทราบชื่อคือ MRS.OZANA RACHEL สัญชาติ ISRAELI ,MR.KRIAF MEIR สัญชาติ ISRAELI, MRS.KRIAF DANA สัญชาติ ISRAELI และมี MR.MALUL MAOR สัญชาติ ISRAELI ถูกอาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนทราบว่า ตามวันเวลาที่เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 2 คน ทราบชื่อภายหลังคือ 1.MR.DOLEV ZUAREZ สัญชาติ ISRAELI , MR.EYAL BOKAL สัญชาติ ISRAELI ได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อ HONDA CRV ทะเบียน กฉ 1707 อุตรดิตถ์ ชนรถจักรยานยนต์ของนักท่องเที่ยว จากนั้นได้ลงมาจากรถยนต์ใช้อาวุธมีดแทง MR.MALUL MAOR ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถยนต์หนีไปจอดที่หน้าบริเวณมหาลัยราชภัฏสมุยและได้หลบหนีไป ตำรวจจึงได้ออกติดตามจับกุมตัวคนร้ายอย่างใกล้ชิดและสืบทราบว่าคนร้ายทั้งสองกำลังหนีเดินทางออกนอกประเทศ โดยผ่านท่าอากาศยานดอนเมือง จึงประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกักตัวและสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ในที่สุด ส่วนสาเหตุการก่อเหตุ ทราบว่านักท่องเที่ยวเป็นสมาชิกแก๊งมาเฟียชาวต่างชาติที่ประเทศอิสราเอล 2 กลุ่ม มีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้วที่อิสราเอล ซึ่งไม่เกี่ยวกับการทำร้ายหรือฆ่านักท่องเที่ยวแต่อย่างไร
รองโฆษก ตร.กล่าวอีกว่า คดีนี้ตำรวจทำงานได้อย่างรวดเร็ว ทั้งการรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ภาพจากกล้องวงจรปิด จนกระทั้งสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ในที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่เน้นย้ำให้ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนด้วยความรวดเร็วและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย หากมีคดีเกิดขึ้นต้องจับกุมผู้ต้องหาได้ในทุกคดี เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการของกฎหมาย เพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความเชื่อมั่นและมั่นใจในการทำงานของตำรวจ เพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชนต่อไป.-สำนักข่าวไทย