รมว.ศธ.ตรวจการใช้ ‘ไฮสปีดอินเทอร์เน็ต’ ในรร.

จ.พิษณุโลก19 ม.ค.-รมว.ศึกษาฯ ลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก ติดตามปัญหาการใช้ระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในโรงเรียน หลังมีนโยบายทุกโรงเรียนต้องได้ใช้ไฮสปีดอินเทอร์เน็ตภายในสิ้นปีนี้ จ.พิษณุโลกเหลือเพียง 13 โรงเรียนที่อยุ่ระหว่างดำเนินการจัดหาอินเทอร์เน็ต เหตุไม่มีงบ ครูไม่มีความรู้ เลขาสพฐ.ฟันทุกโรงเรียนต้องมีไฮสปีดอินเตอร์เน็ตภายใน 31 มี.คนี้


นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมด้วยนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ลงพื้นที่ติดตามและประชุมชี้แจงนโยบายการจัดทำระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของโรงเรียนในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อชี้เเจงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าใจเกี่ยวกับสภาพการดำเนินงาน ประสบการณ์การติดตั้งการวางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเเละการจัดหาอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อให้ให้โรงเรียนสามารถบริหารจัดการระบบเครือข่ายได้อย่างเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน ณ โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม จ.พิษณุโลก


นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ประเทศไทยพูดถึง 4.0 เเต่ระบบไอทีเเละเทคโนโลยีในประเทศกลับไม่พัฒนา ซึ่งในหลายโรงเรียน เด็กยังไม่มีโอกาสเข้าถึงการใช้อินเตอร์ความเร็วสูง สิ่งสำคัญในการปฏิรูปเด็ก คือการนำอินเตอร์เน็ตเข้าถึงในทุกโรงเรียน ให้เด็กได้มีโอกาสในการเรียนรู้ ซึ่งจะช่วยให้ไทยได้เข้าใกล้ยุค 4.0 ได้มากขึ้น กระทรวงศึกษาธิการจึงมีนโยบายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ ให้ครูและนักเรียนได้เข้าถึงแหล่งความรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด โดยยกเลิกการใช้งานเครือข่าย MOENet ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 ที่ผ่านมาเพราะเสียงบประมาณส่วนนี้เกือบสองพันล้านบาท เเต่โรงเรียนไม่ได้นำมาใช้ เพราะความไม่เสถียรเเละความเร็วอินเตอร์เน็ตที่ต่ำมาก อีกทั้งชี้ชัดว่าการบริหารจากส่วนกลางในเรื่องนี้อาจไม่มีประสิทธิภาพ/โดยให้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตจากเครือข่ายUninet แทน ส่วนโรงเรียนใดที่ไม่ได้ใช้บริการเครือข่าย Uninet ก็จะเปิดโอกาสให้เลือกใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่ดีและมีประสิทธิภาพจากผู้ให้บริการในพื้นที่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ของบริษัท TOT CAT เเละ 3BBพร้อมให้รายงานสภาพการจัดหาและการใช้งานอินเทอร์เน็ตของหน่วยงานให้ส่วนกลางทราบเพื่อช่วยเหลือต่อไป 


นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสพฐ.ไม่เคยทราบตัวเลขของโรงเรียนที่มีปัญหาอินเตอร์เน็ต เเละจ่ายเงินไปทุกเดือนในอินเตอร์เน็ตที่ไม่มีใครใช้ ทุกคนจึงควรช่วยกันวางรากฐานอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อช่วยเหลือเด็ก ตนจึงวิเคราะห์จุดอ่อนของผู้บริการอินเตอร์เน็ตเพื่อดำเนินการให้อินเตอร์เน็ตให้มีความเร็วสูงที่สุด ต่อไปนี้ส่วนกลางจะเป็นฝ่ายเอื้อเเละช่วยอย่างเต็มที่ เปิดโอกาสให้เเต่ละโรงเรียนบริหารจัดการจัดหาอินเตอร์เน็ตที่เหมาะสมกับบริบทโรงเรียนมากที่สุด ขณะเดียวกันหากเรื่องนี้เดินหน้าไปได้ดี ก็จะรับกับข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาที่จะให้กระทรวงดำเนินการเรื่องดิจิทัลเลิร์นนิ่งในทุกระดับการศึกษาให้ได้

ด้านนายบุญรักษ์  ยอดเพชร  เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สพฐ.จะสำรวจข้อมูลค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการเช่าอินเทอร์เน็ตเพื่อดูว่างบประมาณที่มีจะจัดสรรช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็ก ขนาดกลางเเละขนาดใหญ่ได้เพียงใด โดยคาดว่าขนาดเล็กน่าจะช่วยได้ทั้งหมด ขณะเดียวกันกำหนดให้ทุกโรงเรียนต้องมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงใช้ภายใน 31 มี.ค.2561นี้

ขณะที่นายสนิท เเย้มเกษร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า ได้สำรวจสถานการณ์การใช้อินเทอร์เน็ตของสถานศึกษาสังกัด สพฐ.พบว่าโรงเรียนส่วนใหญ่ดำเนินการจัดหาอินเตอร์เน็ตเเล้ว จาก ทั้งหมด225 เขตพื้นที่มี 50 เขตพื้นที่ที่ทุกโรงเรียนในพื้นที่นั้นจัดหาอินเทอร์เน็ตครบถ้วนเเล้ว,95 เขตพื้นที่ ดำเนินการจัดหาร้อยละ 90-99 , เเละมีเพียง 2เขตที่ดำเนินการได้น้อยกว่าครึ่ง 

หากเเบ่งเป็นจำนวนโรงเรียน จากทั้งหมดทั่วประเทศ 29,585 โรงเรียน ดำเนินการเเล้ว 26,084 เเห่งคิดเป็นร้อยละ 88 ส่วนใหญ่ใช้บริการจากบริษัทอื่น อาทิ ทีโอที CATเเละ 3BB อยู่ระหว่างดำเนินการ1,407 เเห่งเเละยังไม่ดำเนินการ 2,094 เเห่ง เหตุเพราะใช้อินเทอร์เน็ตร่วมกับชุมชนหรือโรงเรียนอื่น ยังไม่เช่า อยู่ในพื้นที่ห่างไกลเเละไม่มีงบประมาณ อีกทั้งครูไม่มีความมั่นใจหรือความรู้ด้านการจัดระบบอินเทอร์เน็ต ส่วนใน จ.พิษณุโลก โรงเรียน 453 เเห่งมีเพียง 13 เเห่งที่กำลังดำเนินการ ซึ่งคาดไม่เกินกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้จะครบถ้วน โดยตัวเเทนครูระบุว่า Uninet ดีเเต่ควรจะมีการบริหารให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะที่ผ่านมาโรงเรียนเเต่ละเเห่งต้องเเบ่งสัญญาณ ความเร็วจึงไม่เร็วเท่าที่ควร

ส่วนนายจิรัฏฐ์ แจ่มสว่าง ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีปี 2560ผู้บุกเบิกการสอนไอซีที กล่าวว่า สิ่งเเรกที่โรงเรียนควรวิเคราะห์คือ เราใช้อินเทอร์เน็ตทำอะไรถ้าใช้เเค่งานบริหารเเละการสื่อสารกับกระทรวงศึกษา ธิการอาจใช้เเค่อินเทอร์เน็ตบ้าน เเต่หากใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการเรียนการสอน บางครั้งความเร็ว 100 เมกะไบต์อาจน้อยไป อีกสิ่งสำคัญหากมีการจัดหาอินเทอร์เน็ต ครูต้องรู้เท่าทันเวลาสอบราคา เพราะปัจจุบันราคาอินเทอร์เน็ตถูกลง อีกทั้งโรงเรียนต้องประเมินว่าต้องการใช้อินเทอร์เน็ตมากน้อยเเค่ไหน มิเช่นนั้นทุ่มงบไปก็สูญเปล่าหากไม่เกิดประโยชน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รมว.ศึกษาธิการ ได้เดินทางไปติดตามการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษและการใช้อินเทอร์เน็ตที่โรงเรียนสะพานที่ 3 ซึ่งพบว่าไม่ได้ใช้ MOENet เเต่ใช้Uninetจากมหาวิทยาลัยนเรศวรเเละวิทยาลัยบึงพระ ความเร็วที่ได้รับมีเเค่ 80 เมกะไบต์ซึ่งถือว่าไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักเรียน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]