คนร.เห็นชอบเอสเอ็มอีแบงก์ออกแผนฟื้นฟู

ทำเนียบฯ 19  ม.ค. – ซุปเปอร์บอร์ดเห็นชอบเอสเอ็มอีแบงก์ออกแผนฟื้นฟู หลังแก้ไขหนี้เสียจากร้อยละ 40 เหลือร้อยละ 16.8  สั่งคลังเดินหน้าแก้ไขกฎหมายไอแบงก์ เติมทุนใหม่ เร่งหาพันธมิตรให้เสร็จภายในมีนาคม  สั่ง รฟท.เร่งหารายได้จากที่ดินชดเชยภาระหนี้  และ คนร.ตั้งคณะอนุกรรมกำกับดูแลกิจการที่ดี คุมรัฐวิสาหกิจบริหารงานโปร่งใสไม่ต้องเข้าแผนฟื้นฟูเหมือนกับ 7 แห่ง 


นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ  (คนร.)  ครั้งที่ 1/2561 โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ออกจากแผนการแก้ไขปัญหาองค์กร หรือแผนฟื้นฟู เนื่องจากตลอด 3 ปีที่ผ่านมาแก้ปัญหาองค์กรดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ผลการดำเนินงานดีขึ้น จากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ร้อยละ 40 เหลือร้อยละ 16.8  ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ถึง 98,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายย่อยไม่เกิน 15 ล้านบาท เฉลี่ย 3.2 ล้านบาทต่อราย สัดส่วนกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง BIS ร้อยละ 11.7 สูงกว่ามาตรฐานธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และยังได้รับการจัดอันดับเครดิตเรตติ้ง AAA เหมือนกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)  ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เมื่อมีผลประกอบการดีขึ้น วางระบบบริหารจัดการระบบการทำงานที่ดี มีมาตรฐาน และช่วยแก้ไขปัญหาในอดีตจากการทุจริตสินเชื่อ  รวมถึงสร้างความยั่งยืนในการประกอบกิจการด้วย ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด 

ส่วนแผนฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจ 6 แห่งที่เหลือนับว่าผลประเมินอยู่ในระดับพอใจ แต่ต้องติดตามเพิ่ม คนร.จึงสั่งการให้กระทรวงการคลังเสนอแก้ไขกฎหมายธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพียงวาระเดียวในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อแก้ไขข้อจำกัดการถือหุ้นของกระทรวงการคลังไม่เกินร้อยละ 49 จากนั้นกระทรวงการคลังจะเพิ่มทุนใช้เงินไม่ต่ำกว่า 18,000 ล้านบาท เพื่อให้ลดความเสี่ยงจากขาดทุนสะสม 18,000 ล้านบาท  หวังสร้างความเชื่อมั่นให้พันธมิตรใหม่ ซึ่งต้องเจรจาหาข้อสรุปให้ได้เร็ว ๆ นี้ หลังจากแยกหนี้ดีประมาณ 50,000 ล้านบาท และแยกหนี้เสียที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPF) ในส่วนที่ไม่ใช่มุสลิมไปยังบริษัท บริหารสินทรัพย์ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด (IAM) เพื่อบริหารจัดการหนี้ โดย คนร.ยังกำหนดกรอบเป้าหมายการดำเนินงานของธนาคารให้มีผลประกอบการเป็นกำไรสุทธิในปี 2561 และหาพันธมิตรให้ได้ภายในเดือนมีนาคมนี้  ส่วนปัญหาการทุจริตปล่อยสินเชื่อยังเดินหน้าต่อไปเหมือนเดิมจากผู้เกี่ยวข้อง ขณะนี้ได้ส่งเรื่องไปให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 13 คดี , สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) 15 คดี  ,สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน  (ปปง.) 1 คดี เอาผิดทางวินัย 48 คดี, ความผิดทางแพ่ง 26 คดี กำชับให้เอาผิดให้ถึงที่สุด 


ด้านการแก้ไขปัญหาของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT คนร.สั่งให้รัฐวิสหกิจทั้ง 2 แห่งจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาองค์กรระยะ 10 ปีให้ชัดเจน ในการนำนโยบายดิจิทัลมาใช้ เพื่อกำหนดทิศทางการให้บริการลดปัญหาการลงทุนและภารกิจซ้ำซ้อน  เมื่อร่วมกันตั้งบริษัทลูกทั้งบริษัทโครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ จำกัด (NBN) และบริษัท โครงข่ายระหว่างประเทศและศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต จำกัด (NGDC) ในการวางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและเคเบิ้ลใยแก้วใต้น้ำ และมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกำกับให้ทั้ง 2 บริษัทดำเนินการถ่ายโอนทรัพย์สินที่จำเป็นต้องใช้ในการประกอบกิจการไปยังบริษัท NBN และบริษัท NGDC ให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดภายในเดือนมีนาคม 2561 

ส่วนการแก้ไขปัญหาของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ได้สั่งการให้การบินไทยเร่งนำระบบ Revenue Management System (RMS) และระบบ Network Management System (NMS) มาใช้ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นและควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่น้ำมัน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายฝ่ายช่างหรือฝ่ายอื่น  และนำระบบบริหารจัดการหารายได้ และสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านราคา  โดยคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยในการให้บริการด้วย นอกจากนี้ คนร.ยังได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับการบินไทยพิจารณารูปแบบในการธุรกิจให้สอดคล้องกับภาวะอุตสาหกรรมในปัจจุบัน และพิจารณาเส้นทางการบินและแบบฝูงบินให้มีความสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ 

ขณะที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รับทราบแผนจัดซื้อรถโดยสาร NGV  489 คัน และจัดทำแผนขับเคลื่อนองค์กรระยะยาวแล้ว โดย คนร.สั่งการให้ ขสมก.พิจารณากำหนดทิศทางการให้บริการของ ขสมก.ที่ชัดเจนสอดคล้องกับแผนปฏิรูปเส้นทางที่กรมการขนส่งทางบกได้เริ่มดำเนินการแล้ว และเชื่อมโยงกับระบบขนส่งมวลชนประเภทอื่นด้วย เช่น รถไฟฟ้า รถไฟ และทางเรือ เป็นต้น และขอให้ ขสมก. พิจารณาเปิดเผยข้อมูลที่ได้รับจากระบบตรวจสอบและติดตามการเดินรถ (GPS) และ/หรือระบบขนส่งมวลชนอื่นเพื่อให้เป็นข้อมูลที่บุคคลทั่วไปสามารถใช้ในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น เพื่อประโยชน์ในการรับบริการของประชาชนได้ (Open Data) หวังบริการประชาชนในการขึ้นรถเมล์ดูว่ารถเมล์เดินทางถึงไหนแล้ว   นอกจากนี้  คนร.ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประมูลผู้ประกอบการเดินรถเส้นทางใหม่และกำหนดประเภทรถที่เหมาะสมโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสาร


ด้านการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รายงานที่ประชุมเกี่ยวกับการลงนามสัญญาการก่อสร้างทางคู่  5 เส้นทาง คาดว่าจะก่อสร้างงานโยธาเสร็จปี 2563 และอยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อเดินรถและซ่อมบำรุง (Operation & Maintenance) ในโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และบริษัทลูกเพื่อบริหารสินทรัพย์ของ รฟท. ทั้งนี้ ในการจัดทำแผนการขับเคลื่อนองค์กรระยะยาว คนร.ได้สั่งการให้ รฟท. กำหนดทิศทางการดำเนินการให้สอดคล้องกับภารกิจขององค์กรและภารกิจของกรมการขนส่งทางราง  และนำที่ดินจำนวนมากกำหนดแผนบริหารจัดการเพื่อสร้างรายได้นำมาชดเชยภาระขาดทุนของ รฟท. รวมทั้งโครงสร้างของธุรกิจการขนส่งระบบรางในอนาคต นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน จัดทำฐานข้อมูลทรัพย์สิน และปรับปรุงระบบบัญชีและงบการเงินให้เป็นปัจจุบัน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินของ รฟท.ได้อย่างยั่งยืน 

นายเอกนิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม คนร.ยังแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและพัฒนาระบบธรรมาภิบาลในรัฐวิสาหกิจ ซึ่งองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการจะมีผู้แทนทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance) โดยมีนายรพี สุจริตกุล กรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เป็นประธานอนุกรรมการ ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการดังกล่าวจะมีหน้าที่ในการวิเคราะห์ระบบการกำกับดูแลและระบบธรรมาภิบาลของรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งสภาพปัญหาและอุปสรรคการกำกับดูแลและติดตามผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจในปัจจุบัน พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางการพัฒนาระบบการกำกับดูแลและธรรมาภิบาลของรัฐวิสาหกิจให้เหมาะสม เพื่อให้การบริหารงานของรัฐวิสาหกิจเป็นไปอย่างโปร่งใส มีธรรมาภิบาลที่ดี และมีประสิทธิผลสูงสุด ยังเพิ่มอำนาจอนุกรรมการเข้าไปตรวจสอบความผิดเกี่ยวกับธรรมาภิบาลได้ เพื่อดูแลรัฐวิสาหกิจไม่ให้เข้าสู่การฟื้นฟูกิจการเหมือนกับ 7 แห่งในปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยินดีเขมรขนคนเที่ยวโบราณสถานไทย เตือนเคารพกฎ

20 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 ฮึ่มป่วน “ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย” เจอมาตรการเบาไปหนัก ยินดีเขมรขนคนมาชมสองโบราณสถานของไทย ส่วนโซเชียลรณรงค์คนไทยเจ้าบ้านใส่เสื้อไทยร่วมต้อนรับ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีกัมพูชาขนประชาชนกัมพูชาหลายรถบัสขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ว่า รู้สึกยินดีและขอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาและประเทศอื่น ๆ ที่มาท่องเที่ยว เยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กองทัพภาคที่ 2 กำหนดไว้ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ก่อความวุ่นวาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนเข้าเยี่ยมชมได้ตามปกติ ทั้งนี้ ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญของไทยและมีประวัติศาสตร์มายาวนาน “หากนักท่องเที่ยวคนใดก่อเหตุวุ่นวาย เจ้าหน้าที่มีมาตรการจากเบาไปหาหนักดำเนินการ ดังนั้นขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนเข้ามาเยี่ยมชมโบราณสถานของไทย ต้องเคารพกฎระเบียบของไทย” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพคนไทย พร้อมข้อความภาษาไทยและภาษากัมพูชา ระบุว่า “รวมใจคนไทย ใส่เสื้อไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวกัมพูชา ด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพจากเจ้าของบ้านตัวจริง” -สำนักข่าวไทย

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย

จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือน “ตาเมือนธม”

สุรินทร์ 20 ก.ค.- จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือนปราสาท “ตาเมือนธม” ด้านทหารไทย-ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวไทยใกล้ชิด บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษ หลังมีรายงานว่าทางกัมพูชาเตรียมเกณฑ์นักท่องเที่ยวชาวเขมรขึ้นมาเยือนปราสาทตาเมือนธม ซึ่งขณะนี้ทราบว่า มวลชนมาด้วยรถโดยสารประจำทางของฝั่งกัมพูชาเกือบ 23 คันรถ โดยจอดอยู่ข้างล่างฝั่งกัมพูชาและเริ่มทยอยขึ้นมายังปราสาทตาเมือนธมอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศภายในตัวปราสาทฯ ยังคงเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและกัมพูชา ท่ามกลางการดูแลอำนวยความสะดวกของเจ้าที่ทหารไทยเป็นอย่างดี ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาเกิดขึ้นแต่อย่างใด -สำนักข่าวไทย