ทำเนียบฯ 16 มี.ค.- นายกรัฐมนตรี กำชับหน่วยงานเศรษฐกิจ ออกมาตรการลดภาะค่าครองชีพ ปุ๋ยราคาแพง ลดภาระผู้ใช้เบนซิน ค่าไฟฟ้า นายจ้าง ลูกจ้าง ย้ำบอร์ด คนร. มุ่งแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ 6 แห่ง
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ครั้งที่ 1/2565 โดยฝากทุกกระทรวง มุ่งแก้ปัญหารัฐวิสาหกิจ ไม่บริหารงานแบบเดิม ทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความไว้วางใจ เกิดความเชื่อมั่น โดยรัฐบาลยังมุ่งหาช่องทางจัดทำปุ๋ยสั่งตัด เพื่อลดความเดือนร้อนของเกษตรกร จากปัญหาปุ๋ยราคาแพง เนื่องจากการสู้รบรัสเซีย-ยูเครนเพราะแม่ปุ๋ยต้องนำเข้าจากต่างประเทศ จึงต้องหันมาส่งเสริมปุ๋ยอินทรีย์อีกทางหนึ่ง กำชับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯเร่งรัดหาทางช่วยเหลือ
กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ลดภาระการซื้อก๊าซหุงต้ม การช่วยเหลือผ่านโครงการคนละครึ่ง การช่วยเหลือภาระค่าไฟฟ้า การลดภาระให้กับผู้ใช้น้ำมันเบนซินเพิ่มเติม การให้กองทุนประกันสังคมพิจารณาลดภาระให้กับนายจ้าง ลูกจ้าง การพิจารณาจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวเพิ่มเติม ยอมรับการช่วยเหลือทุกภาคส่วนใช้เงินจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา เมื่อสรุปร่วมกันได้จะนำเสนอ ครม.พิจารณา ทุกหน่วยงานหารือกันอย่างใกล้ชิด เงินกองทุนน้ำมันที่เหลืออยู่ 3-4 หมื่นล้านบาท ใช้เกือบหมดแล้ว จึงต้องหาแนวทางช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม คนร. เห็นชอบการจัดทำแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจ 2566 – 2570 เพื่อขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG Model) การสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย และรับทราบผลดำเนินงานรัฐวิสาหกิจหลายแห่งเริ่มดีขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นรายได้จาก การใช้ประโยชน์จากที่ดิน การขายทรัพย์สิน การลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ลง ขณะที่ในส่วนของผลการประกอบการหลักยังขาดทุนอยู่ จึงต้องแยกส่วน รายละเอียดออกจากกันให้ชัดเจน รัฐวิสาหกิจต้องเร่งแก้ปัญหาเก่าและเดินหน้าใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนในอนาคต
กำชับการแก้ไขปัญหาองค์กรของรัฐวิสาหกิจทั้ง 6 แห่ง ให้มีความคืบหน้า เช่น บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (บมจ. อสมท) ได้ทำแผนพลิกฟื้นธุรกิจระยะสั้น ประจำปี 2564 ทำให้มีกำไรจากที่มีผลขาดทุนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คนร. ได้กำชับให้ดำเนินการตามแผนทั้งในเรื่องทางการเงินและการให้บริการประชาชน บริษัท เอ็นที จำกัด (มหาชน) ให้เร่งพัฒนาและบริหารจัดการระบบ 5G และดาวเทียมไทยคม ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและการรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งการจัดหารถเพื่อให้สามารถบริการประชาชนได้ดีขึ้น เป็นต้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนท้ายว่า ถ้าไม่เข้มแข็งในวันนี้ จะลำบากในวันหน้า เพราะโลกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายมากขึ้น มีการเลือกข้างกันมากขึ้น ขณะนี้มีปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ พอสมควร ดังนั้น การวางบทบาทของเราก็ต้องระมัดระวังอย่างที่สุด ทั้งนี้ คาดว่าสถานการณ์การรบของรัสเซียกับยูเครน จะยังเป็นปัญหาอยู่อีกสักระยะหนึ่ง อาจจะเร็วหรือช้าซึ่งอย่างน้อย 3 เดือนจะต้องเตรียมมาตรการทุกอย่างให้พร้อม เพราะประเทศยังมีปัญหาอีกมาก ฉะนั้น การจะนำเงินที่มีอยู่อย่างจำกัดมาอุดหนุนเรื่องพลังงานอย่างเดียวคงไม่พอ ปัญหาอัตราเงินเฟ้อ มีแนวโน้มจะสูงขึ้น จึงต้องหามาตรการอื่นมาเสริม เมื่อรัฐบาลได้ตรึงราคาน้ำมันดีเซล ลิตรละ 30 บาท โดยได้ใช้เงินอุดหนุนไปหลายหมื่นล้านบาท จึงต้องดูแลพลังงานอื่น เช่น ก๊าซหุงต้ม แอลพีจี เอ็นจีวี ขณะที่ราคาพลังงาน มีความผันผวน แกว่งตัวขึ้นลงอยู่ทุกวัน จึงขอให้ร่วมมือและช่วยกันปรับตัวในสถานการณ์ขณะนี้ เพื่อประหยัดพลังงาน.-สำนักข่าวไทย