พาณิชย์เตรียมเชิญผู้ผลิตหารือผลกระทบขึ้นค่าแรง

นนทบุรี 18 ม.ค. – รัฐมนตรีพาณิชย์ย้ำค่าแรงขึ้นไม่กระทบต้นสินค้ามากนัก สัปดาห์หน้าเชิญทุกกลุ่มหารือ วอนพบเห็นโก่งราคาแจ้งสายด่วน 1569 เจอโทษหนักแน่


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สุปดาห์หน้าได้เชิญกลุ่มผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่และภาคเอกชนทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมาประชุมหารือถึงผลกระทบจากการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้น 5-22 บาทต่อวันทั่วประเทศ ซึ่งโดยเฉลี่ยจะกระทบต่อต้นผลิตสินค้าและบริการสูงสุดร้อยละ 0.1 และต่ำสุดเฉลี่ยร้อยละ 0.0008 เท่านั้น ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์เห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคเพิ่มขึ้นตามอัตราแรงงานที่เพิ่มขึ้นครั้งนี้แต่อย่างใด

นอกจากนี้ เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจกระทรวงพาณิชย์จะเปิดโอกาสรับฟังปัญหาและผลกระทบดังกล่าวในการประชุมร่วม หากผู้ประกอบการรายใดเห็นว่าได้รับผลกระทบจากจะปรับขึ้นค่าแรงงานครั้งนี้สามารถชี้แจงต้นทุนการปรับเพิ่มขึ้นอย่างละเอียดและยื่นหนังสือเสนอขอปรับราคามายังกรมการค้าภายในก่อน หากเห็นว่ากระทบจริงจะให้ปรับราคาสินค้าขึ้นตามต้นทุนที่กระทบ แต่หากเห็นว่ายังสามารถรับภาระได้ ทางกระทรวงพาณิชย์จะขอความร่วมมือช่วยกันตรึงราคาสินค้าเดิมไปก่อน เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชน และหากประชาชนพบเห็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมขายสินค้าแพงเกินจริงสามารถร้องเรียนสายด่วน 1569 ได้ทันที ซึ่งผู้ที่ขายสินค้าเกินกว่าที่กำหนดเข้าข่ายกระทำผิดต่อกฎหมายว่าด้วยสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับต่อไป


นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำครั้งนี้คิดเป็นอัตราเพิ่มร้อยละ 3.4 โดยเฉลี่ยทั่วประเทศนั้น ถือว่าเป็นขนาดการปรับเพิ่มที่ไม่มากไม่น้อยเกินไปและสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง แต่ยังไม่กระจายตัวมากนัก โดยจะส่งผลดีให้แรงงานมีรายได้เพิ่มขึ้นและส่งผลดีต่อการบริโภคในภาพรวม และช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เช่น จากข้อมูลการสำรวจพบว่ากลุ่มลูกจ้างที่มีรายได้ในปัจจุบันต่ำกว่าอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่จะประกาศใหม่มีอยู่ประมาณร้อยละ 12 เมื่อประกาศใช้ค่าแรงขั้นต่ำอัตราใหม่จะทำให้คนกลุ่มนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นและช่วยบรรเทาภาระหนี้ครัวเรือนของกลุ่มดังกล่าวที่ยังอยู่ในระดับสูงได้บ้าง

อย่างไรก็ตาม ความกังวลต่อความสามารถของผู้ประกอบการที่จะแบกรับภาระต้นทุนค่าจ้างที่สูงขึ้น เป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กซึ่งมีต้นทุนแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานรายได้ขั้นต่ำเป็นค่าใช้จ่ายหลักของกิจการ

สำหรับผลของการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำต่อเงินเฟ้อเป็นสิ่งที่ ธปท.จะติดตามประเมินผลอย่างใกล้ชิด โดยผลกระทบต่อเงินเฟ้อจะมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการเพิ่มขึ้นของรายได้เฉลี่ยของลูกจ้าง ภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้น และการแข่งขันของผู้ประกอบการ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจปรับขึ้นราคาของผู้ประกอบการ


ทั้งนี้ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำครั้งนี้เป็นการปรับในอัตราที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ซึ่งเป็นวิธีการที่มีความเหมาะสม เพราะคำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจสังคมของพื้นที่เป็นปัจจัยสำคัญ เช่น ปรับขึ้นค่าแรงอัตราสูงในพื้นที่อีอีซี ซึ่งผู้ประกอบการมีศักยภาพในการสร้างผลิตภาพจากแรงงานที่จ้างอย่างคุ้มค่า หรือในกรณีที่ปรับขึ้นค่าแรงไม่มากในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะคำนึงถึงการประคองภาวะเศรษฐกิจท่ามกลางเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]