กทม.16 ม.ค.- เลขาฯศาลยุติธรรม แถลงผลงานศาลฯทั่วประเทศและ สนง.ศาลยุติธรรม เผยปี 60 รับคดีไว้ 1.8 ล้านคดี พิจารณาเสร็จกว่า 1.5 ล้านคดี
ที่ห้องประชุมใหญ่สำนักงานศาลยุติธรรม อาคารศาลอาญา ชั้น 12 นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม แถลงผลการดำเนินงานของศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรมในภาพรวม ประจำปี 2560 ระหว่างมกราคม-ธันวาคม
ศาลชั้นต้นมีคดีที่รับพิจารณา 1,748,782 คดี พิจารณาเสร็จ 1,502,960 คดี หรือร้อยละ 85 คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ จำนวน 56,634 คดี พิจารณาเสร็จ 49,617 คดี หรือร้อยละ 87 ส่วนคดีชั้นศาลฎีกาจำนวน 17,202 คดี พิจารณาเสร็จ 10,027 คดี คิดเป็นร้อยละ 58 รวมทั้ง 3 ชั้นศาล มีคดีที่รับพิจารณาไว้ทั้งสิ้น 1,822,618 คดี พิจารณาเสร็จ 1,561,738 คดี คิดเป็นร้อยละ 82.46
สำหรับการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทระหว่าง ม.ค.- พ.ย.60 มีคดีแพ่งที่เข้าสู่กระบวนพิจารณาของศาลยุติธรรมทั่วประเทศ 817,467 คดี เข้าสู่ระบบไกล่เกลี่ย 296,405 คดี หรือร้อยละ 36.26 คิดเป็นทุนทรัพย์ที่ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 479,142,349,822.76 บาท มีคดีอาญาเข้าสู่ระบบไกล่เกลี่ย 9,929 คดี ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 6,018 คดี คิดเป็นร้อยละ 60.61 ส่วนการดำเนินการระงับข้อพิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการ ระหว่าง ม.ค.-ธ.ค.60 ดำเนินการเสร็จ 148 เรื่อง คิดเป็นทุนทรัพย์ 54,149,615,216.72 บาท
นอกจากนี้ เพื่อให้การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมรวดเร็วขึ้น ง่ายขึ้นและเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง ศาลยุติธรรมได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการคดี อาทิ บริการคัดถ่ายสำเนาคำพิพากษาและคำสั่งระหว่างศาล เพื่อให้คู่ความและผู้มีส่วนได้เสียในคดีความ สามารถยื่นคำขอคัดถ่ายสำเนาคำพิพากษาและคำสั่งของศาลหนึ่งศาลใดได้ที่ศาลยุติธรรมทั่วประเทศ โดยมีสถิติการใช้งานระบบ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 จนถึงเดือนธันวาคม 2560 มีจำนวน การบันทึกคำพิพากษาเข้าสู่ระบบ จำนวน 1,107,749 เรื่อง และมีจำนวนการให้บริการคัดถ่ายสำเนาคำพิพากษา จำนวน 2,308 ครั้ง โครงการพัฒนาระบบบูรณาการข้อมูลคดีศาลยุติธรรม เพื่อสร้างระบบฐานข้อมูลคดีกลางศาลยุติธรรมในการรวบรวมข้อมูลและเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลคดีระหว่างศาลยุติธรรม ทั่วประเทศ และสามารถบริการข้อมูลให้แก่หน่วยงานภายใต้กระบวนการยุติธรรม หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โครงการพัฒนาระบบการยื่นและส่งคำคู่ความและเอกสารโดยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) เพื่อให้คู่ความสามารถยื่นและส่งคาคู่ความและเอกสารโดยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) โดยไม่ต้องเดินทางมาศาล เป็นการเพิ่มช่องทางในการให้บริการประชาชนได้อย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น ซึ่งมีการทดลองใช้ใน 12 ศาล และพบว่า สถิติการใช้งานระบบการยื่นและส่งคำคู่ความและเอกสาร โดยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) ตั้งแต่ 5 พ.ค.- 29 พ.ย.60 มีทนายลงทะเบียน Online 686 คน ยื่นฟ้องผ่านระบบ 257 คดี(ศาลแพ่งมีการยื่นฟ้องมากที่สุด 140 คดี) มีการชำระเงินผ่านระบบ e-Payment เป็นยอดเงินรวม 3,043,988.71 บาท
ด้านการคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพผู้เสียหาย คู่ความ และประชาชน ตามที่กฎหมายบัญญัติให้อยู่ในความรับผิดชอบของศาลยุติธรรมมีอยู่ด้วยกันหลายประการ เช่น การออกหมายจับ หมายค้น การปล่อยชั่วคราว การแต่งตั้งทนายความและที่ปรึกษาให้แก่จำเลยในคดีอาญา เป็นต้น โดยมีสถิติการปล่อยชั่วคราวในคดีอาญา ระหว่าง ม.ค.-พ.ย.60 มีคำร้องทั้งสิ้น 208,272 เรื่อง ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว 195,326 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 93.73 การนำโครงการประเมินความเสี่ยงและการกำกับดูแลในชั้นปล่อยชั่วคราวมาใช้ และการจัดตั้งศาลเพื่อให้คู่ความ ประชาชน และหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้าถึงการให้บริการทางการศาลด้วยความรวดเร็ว เสมอภาค และเท่าเทียมกัน ได้แก่ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1-9 ศาลจังหวัดเชียงคำ ศาลจังหวัดมหาสารคาม สาขาพยัคฆภูมิพิสัย ศาลจังหวัดเชียงราย สาขาเวียงป่าเป้า ศาลจังหวัดพิษณุโลก สาขานครไทย รวมถึงส่วนกลุ่มงานคดีนักท่องเที่ยวในสำนักงานประจำศาลจังหวัดสุโขทัยด้วย
นอกจากนี้ในปี 2561 สำนักงานศาลยุติธรรม ยังมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก ด้วยการจัดอบรมหัวข้อและหลักสูตรที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศอย่างเข้มข้น เพื่อให้การแปลและบังคับใช้กฎหมาย สอดคล้องต่อบริบทของสังคมไทยและหลักกฎหมายที่เป็นที่ยอมรับของสากล ตามนโยบายของนายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา.-สำนักข่าวไทย
